ไซม่อนตอบรับ: “เอาสิ คุณอยากปลูกอะไรก็ได้”
ลูกชายลูกสาวโตแล้ว สองสามีภรรยาก็สามารถใช้ชีวิตในโลกของพวกเขาสองคนได้
เวลาว่างๆก็ปลูกดอกไม้ ปลูกผักผลไม้นิดๆหน่อยๆ ทั้งสามารถฆ่าเวลาทั้งยังรู้สึกประสบความสำเร็จด้วย
“แต่ คุณมีเวลาดูแลเหรอ? คุณยังอยากออกแบบเครื่องประดับอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
ไซม่อนไม่ลืมที่ตอนนี้ภรรยาของเขาเป็นคนมีงานทำแล้ว
เธอมีพรสวรรค์ด้านการออกแบบเครื่องประดับ เดิมทีเธอเรียนมาด้านนี้อยู่แล้ว แต่ปีนั้นเพื่อแต่งงานกับเขา เพื่อไม่ให้โดนแม่ของเขาตำหนิ เธอจึงละทิ้งงานออกแบบที่เธอชอบ ยินยอมคอยช่วยเหลือสามีเลี้ยงดูลูกอยู่กับบ้าน
แต่เขากลับไม่ได้ปกป้องเธอกับลูกทั้งสอง ท้ายที่สุดสามีอย่างเขานี่แหละที่ทำผิดต่อภรรยา
ณ ตอนนี้ ไม่ว่าญาณินอยากทำอะไร ไซม่อนก็เห็นด้วยทั้งนั้น
เขายกเลิกกฎระเบียบวงศ์ตระกูลของโอเอ กรุ๊ป จะไม่มีกฎระเบียบมาผูกมัดภรรยาเขาได้อีกแล้ว
ต่อไปกฎระเบียบของไซม่อนก็คือญาณิน!
“เบียดๆหน่อยก็ยังพอมีเวลา ไซม่อน คุณอย่าเด็ดนะ บางฝักยังอ่อนมากอยู่เลย คุณเด็ดไปก็เสียของ” ตอนที่ญาณินเห็นไซม่อนกำลังช่วย ไม่นึกว่าจะเด็ดถั่วทั้งหมดออกมา ถึงได้เรียก แล้วเตือนเขาขึ้นมา
ไซม่อนเหมือนเด็กที่ทำความผิด ฟังคำสั่งสอนของภรรยา ทั้งยังให้ภรรยาสอนเขาว่าเด็ดถั่ว ดึงผักยังไงด้วย
สองสามีภรรยาเขยิบเข้ามาคุยกันใกล้ๆแล้ว
พัฒน์กับวิกาส่งสายตาให้กัน
ในสายตาต่างเข้าใจกันและกัน
นี่ไซม่อนจงใจ ใช้เล่ห์เหลี่ยมที่เฉียบแหลมแย่งชิงความรัก
ดึงดูดความสนใจของภรรยากลับมาที่ตัวเขาอย่างไม่ผิดสังเกต
สำหรับพ่อที่อยากแย่งชิงความรักกับตนเอง เทวิกากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็เข้าใจดี
“ใช่สิ วิกา พ่อมีเรื่องจะบอกแกด้วย”
หลังจากดึงดูดความสนใจจากภรรยากลับมาได้ไซม่อนก็อารมณ์ดี จึงบอกลูกสาวด้วยความหวังดี: “ปู่ย่าแกพาลินน์นั่งเครื่องบินมาที่นี่ คาดว่าอีกชั่วโมงกว่าๆคงถึงเมืองแอคเซสซ์แล้ว”
ได้ฟัง เทวิกาก็อารมณ์เสียขึ้นมาทันที
เธอถาม: “พวกเขามาสู่ขอพี่สะใภ้หนูใช่ไหม?”
เธอไม่เชื่อว่าที่พวกเขามาที่นี่เร็วขนาดนี้เพื่อรอร่วมงานแต่งของเธอ
“อืม”
“ทำไมพวกเขาถึงพาลินน์มาด้วย?”
สำหรับน้องสาวซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุย่างสิบเอ็ดขวบเต็มนั้น เทวิกาไม่มีความทรงจำที่ดีเท่าไหร่ รู้สึกว่าลุงสามกับอาสะใภ้สามสอนลูกได้แย่สุดๆ แน่นอนว่าก็เป็นเพราะสภาพแวดล้อมของคฤหัสน์สาระทาไม่ดีด้วย แม้แต่เด็กสิบขวบก็ยังเลี้ยงจนเสียนิสัยได้
ยังมีธนภรณ์น้องสาวอีกคน ที่ชอบโจมตีโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนลุงรอง
ธนภรณ์สงบนิ่ง และไม่มีความเห็นใจ
“ลินน์เกลียดครอบครัวเราไง”
ประโยคนี้ของไซม่อนทำให้เทวิกาเข้าใจเหตุผลที่ปู่ย่าพาน้องสาวคนเล็กมาด้วยแล้ว หลอกใช้เด็กน้อยอย่างลินน์ สร้างความวุ่นวายต่างๆนานา ให้ครอบครัวพวกเขาเป็นกังวล
นั่นเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ถ้าพวกเขาจะคิดเล็กคิดน้อยกับลินน์ ปู่ย่าคงบอกว่าพวกเขาใจแคบ ที่แม้แต่เด็กคนหนึ่งยังยอมให้ไม่ได้
ลินน์นิสัยขี้อิจฉาเป็นทุนอยู่แล้ว ตอนที่เทวิกาเพิ่งกลับไป ก็แย่งชิงความรักกับเทวิกา ตอนนี้ก็เกลียดครอบครัวพวกเขา ด้วยนิสัยของเด็กผู้หญิงคนนั้น คงพยายามทำอย่างสุดความสามารถแน่ๆ
“ต่อให้ลินน์จะทำอะไร ก็ยังเป็นแค่เด็ก พ่อเป็นลุงของเธอ อบรมสั่งสอนเธอดูแลเธอแทนพ่อของเธอได้ ไม่ต้องเก็บมาใส่ใจ ถ้าเธอก่อความวุ่นวาย ก็ไม่ต้องเกรงใจ แกเป็นพี่สาวคนโตของพวกเขา สั่งสอนพวกเขาก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรหรอก”
ไซม่อนยังคงมีความผูกพันกับน้องชาย แม้น้องชายสองคนจะทำร้ายเขา แต่เพียงพวกหลานชายหลานสาวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวด้วย เขาก็จะไม่จัดการขั้นเด็ดขาด จนกระทั่งวันนี้ยังไม่มีการไล่พวกหลานชายหลานสาวออกจากคฤหัสน์สาระทา แต่ถ้าพวกเขารู้ตัวแล้วอยากย้ายออกไป เขาก็จะอนุญาต
แต่ถ้าหลานชายหลานสาวกล้ารนหาที่ตาย ความเมตตาที่ยังเหลืออยู่ของไซม่อนก็จะสลายหายไป
เขาจะไล่พวกเขาทั้งหมดออกไปจากคฤหัสน์สาระทาโดยไม่มีความเห็นใจ แค่เขาไล่พวกเขาออกไป คนของเมืองซูเพร่าจะรู้แล้วว่าควรทำตัวยังไง ถ้าพวกหลานชายหลานสาวอยากอยู่ในเมืองซูเพร่าต่อไป ก็คงยากมาก
ณิศาสั่งคนใช้
กิติยาพูดนิ่งๆ: “ณิศา เราออกไปต้อนรับเถอะ”
นั่นเป็นผู้อาวุโส ทั้งยังมีเกียรติมีหน้ามีตา มาเยี่ยมเยียนตั้งไกล ในฐานะที่ตนเองเป็นเจ้าบ้าน กิติยายังต้องให้เกียรติคนแก่ทั้งสองคนอยู่บ้าง
ก็ไม่อยากให้ตระกูลสาระทาบอกว่าตระกูลนนท์สัจทัศน์ของเธอไม่มีมารยาท
ณิศาอืมออกมา
กิติยาและสามีรวมถึงกัญณิศาเดินออกไปด้วยกัน บรรดาแขกเหรื่อก็ตามออกไปด้วยความอยากรู้ พวกเขาอยากรู้สาเหตุที่ผู้เฒ่าทั้งสองของตระกูลสาระทามาเยี่ยมเยียนอย่างกะทันหันจริงๆ
เพื่อต้อนรับสามีภรรยาป้ายแดง วันนี้ประตูใหญ่ของตระกูลนนท์สัจทัศน์จึงเปิดเอาไว้ ขบวนรถของนายหญิงจึงไม่ได้หยุดลง ขับเข้ามาในคฤหัสน์ตระกูลนนท์สัจทัศน์ทันที
จากพฤติกรรมนี้ของเธอ กิติยาจึงมองว่านายหญิงเผด็จการ อวดดีเกินไป
ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา
ต่อให้ประตูใหญ่ของตระกูลนนท์สัจทัศน์จะเปิดเอาไว้ ในเมื่อคุณเป็นแขกมาตั้งไกล ก็ควรบีบแตรเตือนเจ้าของบ้านหน่อยว่ามีแขกมาเยี่ยม ถ้าได้รับการอนุญาตจากเจ้าของบ้านแล้ว ถึงค่อยขับเข้ามาในลานบ้าน
เธอพาขบวนรถของบอดี้การ์ดเข้ามาทันทีอย่างนี้ ก็ไม่เห็นตระกูลนนท์สัจทัศน์ในสายตาเช่นกัน
เดิมทีกิติยาก็ไม่อยากให้น้องสาวแต่งงานไปอยู่ไกลบ้านอยู่แล้ว ทว่าพฤติกรรมของนายหญิง ยิ่งทำให้เธอไม่อยากให้น้องสาวแต่งเข้าตระกูลสาระทาที่อยู่ไกลบ้าน คนอ่อนโยนอย่างน้องสาวเธอ ถ้าต้องเผชิญหน้ากับย่าของสามีอย่างนายหญิง คงโดนจับกินจนไม่เหลือซากแน่ๆ
ด้วยนิสัยของญาณินที่เป็นแม่สามี กิติยาก็เชื่อใจไม่ลง ญาณินอดกลั้นกับการโดนนายหญิงกดขี่รังแกมาตั้งยี่สิบกว่าปี ตอนนี้ลูกชายลูกสาวโตกันหมดแล้ว เธอถึงได้กล้าแข็งข้อ ถ้าคิดจะคาดหวังให้แม่สามีอย่างเธอปกป้องลูกสะใภ้เอาไว้ได้ เธอคาดหวังไม่ลงเลย
ในใจของกิติยาไม่พอใจกับพฤติกรรมของนายหญิง แต่กลับไม่ได้แสดงสีหน้าอย่างชัดเจน รอให้สองสามีภรรยาลงมาจากรถ เธอกับสามีจึงเดินเข้าไปต้อนรับ
“นายหญิง ไม่รู้ว่าคุณจะเดินทางมาไกลขนาดนี้ เสียมารยาทเลยที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับ”
กิติยาพูดตามมารยาท
เห็นคนแก่สองคนพาลูกสาวคนเล็กของครอบครัวที่สามมาด้วย แววตาของกิติยาจึงเป็นประกาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน