รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 693

เยี่ยวานวานหอบแฮ่กกลับไปที่ห้อง ราวกับกระต่ายน้อยขี้ตกใจ เธอปิดปากสีแดงของเธอ ในสมองก็เต็มไปด้วยจูบที่ชัดเจนและอยากจะครอบครองของผู้ชายคนนี้ นี่มันเกินขอบเขตที่เธอจะรับไหวไปโดยสิ้นเชิง

ชายผู้นี้ทำให้เธอรู้สึกว่าจะต้องหักห้ามใจอยู่เสมอ นี่เป็นภาพลวงตาของเธอตั้งแต่แรกหรือเปล่า?

และเขาเพิ่งจะบอกว่าจะให้ตอบแทนตามวิธีของเขา นั่นหมายความว่าเธอจะต้องถวายตัวให้เขาหรือเปล่านะ?

เจียนจือเพ่ยใช้มือหนึ่งล้วงกระเป๋ายืนอยู่ตรงหน้าต่างที่สูงจากพื้นจรดเพดาน สวมเสื้อสีดำกางเกงขายาวสีดำ ร่างกายแข็งแรงกำยำ ใบหน้าหล่อตึงเครียดผ่านร่องแสง แต่เดิมดวงตาคู่นั้นเยือกเย็นราวกับภูเขาหิมะ กลับมีเปลวไฟลุกโชน แม้แต่ลมหายใจของเขาก็ติดขัดเล็กน้อย

เขามีความรู้สึกต่อเยี่ยวานวาน นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย?

บนโต๊ะทำงานของเขาเมื่อครู่นี้ ก็พิสูจน์ประเด็นนี้ได้แล้ว

เฉียวเสวี่ยเม่ยกลับมาจากข้างนอก วันนี้เป็นอีกวันที่เธอหมดไปกับการชอปปิง คนรับใช้ถือถุงเล็กถุงใหญ่อยู่ด้านหลังเดินเข้ามา

“พวกเธอลงไปเถอะ!”

คนใช้วางถุงเหล่านั้นลงแล้วออกไป และเฉียวเสวี่ยเม่ยก็เงยหน้าขึ้นร้องเรียก “เยี่ยวานวาน”

เยี่ยวานวานผลักประตูออกมาจากห้อง หันลงมาตอบยังชั้นล่าง “คุณเฉียว”

“ลงมาเก็บทั้งหมดนี่แทนฉันที” เฉียวเสวี่ยเม่ยนั่งไขว่ห้างแล้วออกคำสั่ง

เยี่ยวานวานลงมายังชั้นล่าง เฉียวเสวี่ยเม่ยปล่อยให้เธอหยิบข้าวของพวกนั้นทั้งหมดมาเก็บ เยี่ยวานวานหยิบรองเท้ามาคู่หนึ่ง เธอจึงแจ้งราคาให้เธอฟังอีกรอบ

“รองเท้าส้นสูงคู่นี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดเอดิชั่น ราคาหนึ่งแสนแปดพัน ระวังด้วยล่ะ”

“นี่ชุดนอนผ้าไหม ราคาเก้าหมื่น แม้แต่ด้ายเส้นเดียวก็อย่าให้มันขาดออกมา”

“ส่วนกระเป๋าใบนี้ราคาหนึ่งร้อยแปดล้าน เธอห้ามทำตกนะ เพราะถ้ามันตก เธอชดใช้ไม่ไหวหรอก”

เยี่ยวานวาน “...”

เธอไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการจับจ่ายใช้สอยของเฉียวเสวี่ยเม่ย แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะเธออิจฉา แต่เป็นเพราะการที่ว่างมากจนไปหาความสุขโดยการชอปปิงนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ดูสูงส่งอะไรมากมาย

“พี่เจียน พี่ดูชุดที่ฉันซื้อมาสิ สวยไหม?” เฉียวเสวี่ยเม่ยหยิบกระโปรงตัวหนึ่งมาทาบบนตัวเธอ

และชายที่เดินจับราวบันไดลงมายังชั้นล่าง ก็จับจ้องไปที่แผ่นหลังของหญิงสาวที่ก้มลงไปเก็บของให้เป็นระเบียบข้างๆ เธอ

เยี่ยวานวานได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง เธอตกใจจนทำกระเป๋าที่ถืออยู่ในมือตกกระแทกลงบนพื้น

“คุณชายเจียน เราจะไปไหนกันเหรอคะ” เยี่ยวานวานถามด้วยความสงสัย

“พาฉันไปในที่ที่เป็นที่สงบจิตสงบใจ” “สงบจิตสงบใจเหรอ?” เยี่ยวานวานคิดก่อนจะถามออกไป “คุณอยากไปวัดเพื่อสงบจิตสงบใจไหม?”

เจียนจือเพ่ยมองไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “ก็ดี”

หลังจากนำทางไปยังสถานที่นั้น เยี่ยวานวานก็อดไม่ได้ที่จะกระสับกระส่ายขึ้นมาเล็กน้อย เกิดเรื่องแบบนั้นในห้องหนังสือของเขา เธอจะแสร้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้หรอกนะ!

เธอลอบมองไปที่ชายผู้ทำหน้าที่เป็นสารถีด้วยหางตา ริมฝีปากบางที่เม้มแน่นนั้น ทั้งเซ็กซี่และดูดีมาก มันทำให้หัวใจของเธอเต้นตึกตัก

เห็นได้ชัดว่าภายในรถเงียบสนิท แต่เธอกลับได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเหมือนกลองอยู่ในหู

เจียนจือเพ่ยไม่ได้พูดอะไรมาตลอดทางจนถึงหน้าวัด ตอนนี้เป็นเวลาประมาณบ่ายสามโมง ซึ่งมันห่างจากวัดไปชั่วโมงกว่า บรรดาแขกเหรื่อออกไปจนเหลือไม่มากแล้ว ทั้งวัดจึงเงียบสงบเป็นอย่างมาก

ภายใต้แสงอาทิตย์ วัดทั้งหลังที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ กลายเป็นสถานที่ที่สงบและสวยงาม

เจียนจือเพ่ยสวมเสื้อดำกางเกงขายาวดำ และทั่วทั้งร่างก็มีแต่ความรู้สึกที่ห่างเหิน เยี่ยวานวานเดินไปซื้อตั๋ว เห็นเขายืนอยู่ตรงประตูโถงใหญ่ที่มีรอยด่างพร้อย ดูสง่าผ่าเผย มีความงดงามชวนตกตะลึง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว