เมื่ออันฉีก้าวลงบันไดมาถึงชั้นล่างและกำลังจะเรียกหาสาวใช้อยู่นั้น จู่ๆ ก็มีเงารูปร่างสูงใหญ่ที่ดูทรงอำนาจเดินเข้ามาที่ประตูใหญ่
ทั้งสองมองหน้ากันอย่างไม่คาดคิด
นัยน์ตาของอันฉีเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ทำไมถึงมีผู้ชายอยู่ในบ้านล่ะ
เนี่ยเหยียนเฟิงมองคุณหนูแห่งบ้านตระกูลอันที่ตื่นแต่เช้า เขาพยักหน้าทักทายเล็กน้อย “คุณหนูอันสวัสดีครับ ผมชื่อกู่หลาง เป็นบอดี้การ์ดของคุณหนู นับแต่นี้ไปผมจะดูแลความปลอดภัยให้คุณหนูตลอด24ชั่วโมงครับ”
“24 ชั่วโมง? ” อันฉีพ่นลมหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย “ใครบอกว่าฉันต้องการบอดี้การ์ด? ฉันไม่ต้องการ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว”
“ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ แต่ผมได้รับคำสั่งมาจากคุณพ่อของคุณหนู นี่คือหน้าที่ของผม โปรดให้ความร่วมมือด้วย” เนี่ยเหยียนเฟิงตอบกลับนิ่งๆ น้ำเสียงของเขาไม่ได้ดูถ่อมตัวแต่ก็ไม่ได้หยิ่งผยอง
อันฉีจัดแจงชุดนอนของตัวเองไปมา ใบหน้าสวยอดไม่ได้ที่จะขึ้นริ้วสีแดง “เป็นบอดี้การ์ดใช่ไหม! เชิญคุณออกไปยืนที่หน้าประตู”
เนี่ยเหยียนเฟิงอึ้งไปสักพัก แต่ก็หันหลังเดินไปยืนอยู่หน้าประตู แผ่นหลังของเขาดูสง่ามาก
อันฉีถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ทำไมคุณพ่อต้องส่งบอดี้การ์ดมาให้เธออย่างกะทันหันแบบนี้อีกแล้ว เธอเคยพูดชัดแล้วนะว่าไม่ต้องการให้บอดี้การ์ดหน้าไหนมายุ่งวุ่นวายในชีวิตเธอ
“แม่ล่ะ?” อันฉีถามสาวใช้
“นายหญิงออกไปแล้วค่ะ คุณหนูจะรับอาหารเช้าไหมคะ”
“ ไม่ล่ะ”อันฉีอยากออกจากบ้านไปหาอะไรทำแก้เซ็งสักหน่อย เธอจึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบน
สิบนาทีผ่านไป เธอสวมชุดลำลองธรรมดาๆ ลงมาชั้นล่าง ด้านหลังแบกกระเป๋าเป้เอาไว้ ดูแล้วก็เหมือนกับนักเดินทางคนหนึ่ง
เธอมองดูชายหนุ่มที่อยู่ทางประตูก็พบว่าเขานั้นสูงมากๆ สูง166แบบเธอถ้าไปยืนอยู่หน้าเขาก็เหมือนกับคนแคระคนหนึ่ง
เธอเดินออกจากประตูใหญ่ ชายหนุ่มด้านหลังก็เดินตามเธอมาทันที เธออดไม่ได้ที่จะหันกลับมาเตือนเขา “ ไม่อนุญาตให้ตามฉัน”
“ผมแค่กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่ครับ จะไม่รบกวนชีวิตของคุณหนูแน่นอน”
“ฉันไม่ต้องการให้คุณมาดูแล” อันฉีแค่อยากอยู่เงียบๆ เท่านั้น ความจริงแล้วเธอไม่อยากให้ใครเห็นตอนเธอกำลังเสียใจอยู่ต่างหากล่ะ
“คุณหนูทำเป็นไม่เห็นผมก็ได้ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงทุ้ม
อันฉีทำทีไม่สนใจเขา ก่อนจะสตาร์ทรถและเหยียบคันเร่งออกไป เนี่ยเหยียนเฟิงรู้สึกถึงแรงผลักจากทางด้านหลังอย่างรุนแรง เขาหันหน้ามามองหญิงสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
แต่ในขณะนั้นเอง หูฟังของเขาก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “ลูกพี่ คุณหนูอันนี่ไม่ใช่คนที่จะรับมือได้ง่ายๆ นะ! สู้ๆ ล่ะครับ”
เนี่ยเหยียนเฟิงจับมือโหนไว้แน่น ตอนนี้หญิงสาวได้ระบายความไม่พอใจออกมาหมดแล้ว ในที่สุดก็ตระหนักรู้ว่าเธอไม่ควรขับรถอันตรายแบบนี้ เมื่อเธอขับรถออกจากถนนในบ้านของเธอแล้ว เธอก็ดึงสติกลับมาอีกครั้ง
“พ่อฉันให้เงินเดือนคุณเท่าไหร่ ฉันจะให้มากเป็นสองเท่า คุณลงไปจากรถได้แล้ว” อันฉีหันหน้ามามองเขาด้วยท่าทียกตนข่มท่าน
“ผมมีเจ้านายแค่คนเดียว นั่นก็คือพ่อของคุณ”
“งั้นเอาแบบนี้! นี่บัตรของฉันมีเงินอยู่ห้าล้าน คุณเอาไปใช้ได้เลยแล้วฉันจะอธิบายให้พ่อฟังเอง” อันฉีพูดอย่างเอาแต่ใจ
เนี่ยเหยียนเฟิงส่ายหน้า นั่งนิ่งไม่ขยับ
อันฉีอดไม่ได้ที่จะทึ่งกับเขา ผู้ชายคนนี้ไม่พูดปฏิเสธด้วยซ้ำ? นี่เขาไม่ได้ทำงานเป็นบอดี้การ์ดเพื่อหาเงินเหรอ โอกาสหาเงินอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ แต่ไม่เอาเนี่ยนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...