“ พวกคุณไม่ใช่คนของบริษัทรักษาความปลอดภัย?” อันฉีถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น นี่เธอไปหาเรื่องใครกันแน่?
คิ้วของเนี่ยเหยียนเฟิงขมวดขึ้นเล็กน้อย “กลับไปค่อยพูด คุณใส่เสื้อก่อนเถอะ”
อันฉีกัดริมฝีปากและยื่นมือรับเสื้อเชิ้ตจากเขาด้วยท่าทางแสดงออกว่ารังเกียจเขาเล็กน้อย เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นภายใต้แสงอาทิตย์ของตอนกลางวัน ก็มีร่างกายที่สมบูรณ์แบบปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ
ถึงแม้อันฉีจะมีแฟนแล้ว แต่ก็ยังคงจ้องชายตรงหน้าอย่างตะลึงไปหลายวินาที
มีโอกาสน้อยมากที่จะเห็นรูปร่างที่เพอร์เฟคขนาดนี้บนโลก
“หัวหน้าทีม พวกเราหันกลับไปได้หรือยังครับ” สมาชิกคนหนึ่งถามขึ้น
เนี่ยเหยียนเฟิงพูดขึ้น “กลับไป”
อันฉีถูกส่งให้ขึ้นไปยังเฮลิคอปเตอร์ เพราะรถของเธอถูกชนจนไม่สามารถขับต่อไปได้แล้ว ทำได้แค่ส่งให้บริษัทรถลากมาจัดการไป
เมื่อขึ้นไปถึงเฮลิคอปเตอร์ ในขณะที่กำลังจะบินขึ้น ถึงแม้อันฉีจะคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้วแต่ก็ยังตกใจกับสภาวะไร้น้ำหนักอยู่ดี
“ว้าย…” เธออ้าแขนออกโดยสัญชาตญาณและกอดคนข้างๆ เอาไว้ ใบหน้าเล็กฝังอยู่ที่อกของใครบางคน
ร่างกายสมส่วนของเนี่ยเหยียนเฟิงแข็งทื่อ คิ้วหนาขยับเข้าหากันแน่น ก้มหน้าลงมองหญิงสาวที่กำลังกอดเขาแน่นราวกับสัตว์ที่กำลังจะตาย
“เฮลิคอปเตอร์ปลอดภัยมาก ปล่อยมือซะ” เขาออกคำสั่งเบาๆ
อันฉีหน้าขึ้นริ้วแดง ก่อนจะปล่อยเขา เธอไม่อยากจะหยาบคายกับเขา แต่ข้างกายเธอนอกจากเขาก็ไม่มีใครที่ให้กอดไดแล้ว
ในขณะนั้นเอง ลูกน้องของเขาก็จงใจพลิกฮลิคอปเตอร์ลง
“ว้าย…” วินาทีถัดมา อันฉีที่กำลังหน้าแดงอยู่นั้นก็โผล่เข้ากอดเนี่ยเหยียนเฟิงแน่น หัวใจเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมา
“เสี่ยวซื่อรนหาที่ตายหรือไง” เนี่ยเหยียนเฟิงกล่าวคาดโทษพร้อมมองไปยังลูกน้องที่นั่งขับอยู่
เสี่ยวซื่อหัวเราะแห้งๆ ไม่กล้าจะล้อเล่นอีกแล้ว
อันฉีที่นั่งตรงข้ามกับเขาอดไม่ได้ที่จะมองเขาอย่างอึ้งๆ “ถ้างั้นเหตุผลที่สามคนนั้นไล่ฆ่าฉันก็เพราะฉันหยิบลิปไปผิดแท่ง? ลิปแท่งนั้นมันสำคัญมากเหรอ”
“ด้านในของลิปสติกมีแฟลชไดร์ฟอยู่อันหนึ่ง มีผลการวิจัยมูลค่าเจ็ดพันล้านดอลลาร์ คุณคิดว่ามันสำคัญไหมล่ะ” เนี่ยเหยียนเฟิงตอบอย่างไม่ปิดบังเธอ
อันฉีถอนหายใจอย่างตื่นเต้น นี่เธอเดินชนใครกันแน่เนี่ย
“พวกมันเป็นใครกัน”
“พวกมันเป็นหัวขโมยฝีมือดีระดับโลก เป็นอาชญากรที่ทางการสากลต้องการตัว แล้วลิปที่ผมถามล่ะ” ข้อมูลของลิปสติกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเนี่ยเหยียนเฟิง
ลิปสติก? ดวงตาคู่สวยของอันฉีเบิกขึ้นเล็กน้อย “ฉัน…เมื่อวานฉันโยนมันทิ้งไปแล้ว โยนมันเข้าไปในสวน”
ครั้งนี้ทำเอาเนี่ยเหยียนเฟิงถึงกับอึ้ง เขาปิดคอมพิวเตอร์ลง พูดด้วยน้ำเสียงโมโหเล็กน้อย “คุณโยนมันทิ้งทำไม”
“ก็ฉันนึกว่ามันเป็นลิปของฉัน ก็ลิปแท่งนี้แฟนของฉันเป็นคนให้มาแต่ตอนนี้เขาทิ้งฉันไปหทั้นกับคนอื่นแล้ว ฉันโกรธก็เลยจะทิ้งของที่เขาให้มา ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าลิปแท่งนั้นจะมีความลับที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้” อันฉีก็ถึงพูดไม่ออกเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว
ค่าต่อการอ่านหน้าต่อไปแพงจังค่ะ...
มาแล้ว พึ่งเข้ามาดู...
รอๆๆคะ...
สรุปเรื่องไม่ไปต่อแล้วเหรอค่ะ ติดตามมาตลอดหายไปอีกรอบ เสียดายจังค่ะ กำลังสนุกเลย ด้วยเพราะเหตุผลอะไร ยังไงก็ขอขอบคุณค่ะที่ทำให้การอ่านมีความสุขกับตัวละครที่สร้างจินตนาการให้นะ่ค่ะ...
เรืองหยุดชะงักอีกรอบแล้ว ผู้แต่งไม่สบายหรือเปล่าค่ะ หรือติดอะไรยังก็ขอเป็นกำลังใจให้น่ะค่ะ รอการกลับมาของนิยายเรื่องนี้อยู่ตลอดค่ะ...
หายไป 3 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน.....
หายไป 2 วันแล้ว ไม่ลงตอนเพิ่ม มีอะไรไหมค่ะ แอดมิน...
สนุกมากค่ะ อยากให้ลงสักวันล่ะ 20 ตอนเลยค่ะ สนุกมากๆๆและมีลุ้นด้วยว่าจะยังไงต่อ ต่อไปจะเป็นคู่ของท่านรองปะค่ะ รองประธาน น่ะจะมีนะ555...
น่าสงสารนางเอกจัง และสงสารพระเอกที่จะบอกคนที่ตนเองรักยังไง ว่าคู่หมั้นตัวเองเป้นญาติกัน...
ติดตามต่อค่ะ สนุกมากๆๆๆ...