ครั้งนี้หนานซ่งได้หลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เธอหลับตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเช้าของอีกวัน
พอตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก
บังเอิญว่าเป็นวันหยุดพอดี ตอนแรกหนานหลินตั้งใจนอนอยู่บ้านเฉย ๆ แต่ดันถูกหนานซ่งบังคับให้ไปเดินซื้อของด้วยกัน
หนานหลินเข้าใจว่าตัวเองต้องมาเดินซื้อของเป็นเพื่อนพี่สาว แต่ไม่นึกเลยว่าหนานซ่งต้องการจะซื้อของให้เธอ
"พี่ ไม่ต้องหรอก เสื้อผ้าฉันมีตั้งเยอะตั้งเยอะ"
"เยอะอะไร ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเสื้อสกรีนลายการ์ตูนทั้งนั้น โดเรมอนเอย หมูเปปป้าเอย ใส่ในชีวิตประจำวันมันก็โอเคอยู่หรอก แต่ตอนทำงานเธอก็อยากใส่เสื้อผ้าพวกนี้เหรอ? ไหนจะกางเกงยีนของเธออีกซักจนสีซีดไปหมดแล้ว ควรจะเปลี่ยนได้แล้วล่ะ"
ก่อนหน้านี้หนานซ่งยุ่งจนไม่มีเวลามาดูแลหนานหลิน ตอนนี้พอจะหาเวลาได้ ก็เลยจัดให้เธอชุดใหญ่
เธอหยิบเสื้อผ้าจากราวมายัดใส่มือหนานหลิน
"ไปลองไป"
หนานหลินอุ้มกองผ้าเอาไว้ แล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปหากู้เหิงที่อยู่ข้าง ๆ
กู้เหิงหัวเราะออกมา: "พี่สาวคุณพูดถูก วันนี้คือวันแห่งการเปลี่ยนแปลง ไปเถอะปิกกาจู!"
หนานหลินไม่มีคนเข้าข้าง ก็เลยจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของพี่แต่โดยดี
พอเข้าไปในห้องลองชุด กู้เหิงก็หันไปพูดกับหนานซ่งอย่างอารมณ์ดี: "ประธานหนาน ประธานจะมาทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ จัดการให้ทุกเรื่อง อย่างนี้ผมก็ไม่มีพื้นที่ให้แสดงออกเลยสิครับ"
หนานซ่งที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางที่เหมือนกับเจ้านายใหญ่ เธอเหลือบตามองเขา
"อยากได้โอกาสก็ไม่ยาก พอเธอเลือกชุดได้แล้วนายก็จ่ายเงินสิ"
ริมฝีปากของกู้เหิงกระตุก เขาพูดเสียงเบา: "คุณไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะครับ เสื้อผ้าของที่นี่หยิบไปเล่น ๆ สักตัวสองตัวก็ได้เงินเดือนผมไปทั้งเดือนแล้ว"
คนทำงานเป็นลูกจ้างอย่างเขาซื้อไม่ไหวหรอก
หนานซ่งพูดออกมาอย่างเย็นชา: "ไม่มีเงินแล้วจะมาตามจีบผู้หญิงอีก ไปตามจีบยุงแทนเถอะ"
กู้เหิง: "......."
ทำไมเขาจะต้องไปตามจีบยุงด้วย?
จีบของแบบนั้นไม่ต้องใช้เงินก็จริง แต่ต้องเสียสละเลือดนี่
หนานหลินที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องลองชุด หนานซ่งกับกู้เหิงนั่งมองเธออยู่บนโซฟา บางครั้งก็พยักหน้า บางครั้งก็ส่ายหน้า
ส่วนเธอก็ชอบมันบ้าง เซ็ง ๆ บ้าง จนสุดท้ายก็ไม่รู้สึกอะไร ราวกับเป็นนางแบบที่ต้องคอยเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเรื่อย ๆ
ลองเปลี่ยนไปประมาณยี่สิบชุด ในที่สุดหนานซ่งก็บอกให้พอ จากนั้นชี้นิ้วไปที่กองเสื้อผ้าที่ลองไปแล้วและหันไปบอกผู้ดูแล: "ช่วยห่อชุดพวกนี้ให้ที"
ผู้ดูแลตาลุกวาว นี่ได้เจอกับเทพไฉ่ซิงเอี๊ยหรือเปล่าเนี่ย โชคดีจริง ๆ
ผู้หญิงที่มีเงินมากมายขนาดนี้ เธอเองก็อยากเป็นบ้างเหมือนกัน!
พอออกมาจากร้านเสื้อผ้าแล้ว หนานซ่งก็พาหนานหลินไปซื้อรองเท้าส้นสูงอีกสองคู่ กระเป๋าอีกสามใบ สำนวนต่าง ๆ ที่ว่าเงินหนาจนคนเกรงใจ ใช้เงินราวกับน้ำ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย สามารถอธิบายสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่ภาพที่ท่านประธานหนานรูดบัตรจ่ายเงิน
เดินจนเหนื่อยแล้ว หนานซ่งก็เลยพาหนานหลินเข้าร้านทำผม กู้เหิงก็เลยเอาของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ที่รถก่อน
"คนสวย อยากจะตัดผมทรงไหนจ๊ะ?" อาจารย์โทนี่เป็นคนเข้ามาบริการด้วยตนเอง
หนานหลินรู้สึกว่าไว้ผมยาวนั้นค่อนข้างวุ่นวาย เธออยากจะตัดผมสั้น
ส่วนทางฝั่งหนานซ่งนั้น กลับอยากไว้ผมยาว
ผมของเธอนั้นยาวเร็วมาก เร็วจนผิดปกติ เท่าที่จำได้เธอไม่เคยไว้ผมสั้นเลยสักครั้ง ไว้ผมยาวมาตลอด สีค่อนไปทางสีน้ำตาล
ตอนอายุน้อยกว่าสิบแปดปีแม่ค่อนข้างเข้มงวดกับเธอมาก ไม่ยอมให้เธอย้อมผมเลย หลังจากที่ผ่านอายุสิบแปดไปแล้วก็เริ่มให้อิสระมากขึ้น สีผมแบบไหนเธอนั้นเคยย้อมมาหมดแล้ว
ในโอกาสที่ตัวเองอายุยังน้อย หัวยังไม่ล้าน หนานซ่งคิดว่า เธอนั้นยังพอมีโอกาสให้ลองอยู่อีกบ้าง
"เอาสีนี้"
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไฮเอ็นต่างประเทศ ที่รู้จักกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ดีไซน์ธรรมดาทั่วไป แถมก่อนหน้านี้ยังมีข่าวอีกด้วยว่าดีไซเนอร์ของแบรนด์ลอกเลียนแบบผลงาน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รับความสนใจจากคนภายในประเทศเธอนัก แถมราคาก็สูงจนน่าตกใจ พนักงานธรรมดาทั่วไปไม่มีทางซื้อได้แน่ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ลูกคุณหนูคนมีเงินก็คุณนายของพวกเศรษฐี แล้วก็ยังมีพวกเน็ตไอดอลกับคนที่รับหิ้ว
หนานหลินสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีน แต่งตัวธรรมดา ๆ ดังนั้นพนักงานดูแลของที่นี่ก็เลยทำเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ ไม่มีการเข้ามาต้อนรับเธอด้วยซ้ำไป
แต่เธอก็แค่เดินดูไปเรื่อย ๆ ดูว่ามีอะไรใหม่ที่น่าสนใจบ้าง
บังเอิญเห็นสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งที่ดีไซน์ดูดีใช้ได้ หนานหลินก็เลยชี้ไปที่มัน พร้อมถามขึ้นอย่างมีมารยาท: "ขอดูสร้อยข้อมือเส้นนี้หน่อยได้ไหมคะ?"
ที่จริงพนักงานสาวคนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเท่าไหร่ แต่กลับทำท่าทางหงุดหงิด จากนั้นก็หยิบสร้อยข้อมือเส้นนั้นออกมา แล้วก็ไปดูแลลูกค้าคนอื่น
หนานหลินหยิบสร้อยข้อมือออกมาจากกล่อง แล้วก็พลิกดูอย่างละเอียด เธออยากจะลองใส่มันดู แต่ยังไม่ทันจะได้ใส่ พนักงานสาวก็ร้องออกมาเสียงดัง "ใครใช้ให้คุณใส่มันคะ ทางร้านไม่อนุญาตให้ลองใส่นะคะ!"
เสียงของเธอดังมาก ทำเอาหนานหลินตกใจจนเสียขวัญ ลูกค้าที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็หันมามองเธอเป็นตาเดียว
หนานหลินชะงักไป จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างงง ๆ : "ทำไมถึงลองไม่ได้เหรอคะ?"
"อะไรทำไม ไม่ทำไมทั้งนั้น!"
พนักงานสาวมีทีท่าน่ากลัวและไม่เป็นมิตรเลยสักนิด เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง กระชากสร้อยข้อมือไปจากมือของหนานหลินในทันที เธอกระทำอย่างรวดเร็วรุนแรงและไม่ระมัดระวัง จึงทำให้เกิดรอยแดงบนข้อมือของหนานหลิน
หนานหลินย่นคิ้วอดทนต่อความเจ็บนั้น ส่วนพนักงานสาวก็มีสีหน้าร้อนรน เธอตรวจสอบสร้อยข้อมือนั้นทุกซอกทุกมุม จากนั้นก็พูดออกมาอย่างรังเกียจ: "สกปรกหมดเลย......สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของร้านเรา ราคาแพงมาก ไม่มีเงินซื้อแล้วยังจะมาลองอะไรอีก?"
มีเสียงหัวเราะเยาะดังออกมาจากลูกค้าที่อยู่ข้าง ๆ เธอมองหนานหลินอย่างสมเพช ราวกับว่าการมีอยู่ของหนานหลินทำให้ร้านร้านนี้ต้องสกปรกไปด้วย
ใบหน้าของหนานหลินแดงก่ำ เธอหมุนตัวกำลังจะออกไป แต่กลับเจอกับรูปร่างสูงเพรียว
"ซื้อไม่ได้ก็ไม่ให้ลอง? ที่นี่เป็นร้านของใครกันนะ?"
เมื่อได้ยินน้ำเสียงหาเรื่องดังขึ้น ลูกค้าในร้านต่างก็หันไปมองทางต้นเสียง พวกเขาก็พบแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ย้อมผมสีแดงกุหลาบ รูปร่างสูงเพรียว สาวสวยที่แต่งตัวทันสมัยสวยงาม ก้าวเข้ามา
ออร่าที่เธอแผ่ออกมาทำเอาคนรอบข้างตายกันหมด
หนานซ่งปาบัตรสีดำในมือของหนานหลินไปทางพนักงานสาวคนนั้น น้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมหรี่ลง "ขอฉันดูหน่อยว่าสินค้าในร้านคุณ มีชิ้นไหนที่ฉันลองไม่ได้ ซื้อไม่ได้บ้าง?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...