สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 135

ครั้งนี้หนานซ่งได้หลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เธอหลับตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงเช้าของอีกวัน

พอตื่นขึ้นมา ก็รู้สึกสดชื่นเป็นอย่างมาก

บังเอิญว่าเป็นวันหยุดพอดี ตอนแรกหนานหลินตั้งใจนอนอยู่บ้านเฉย ๆ แต่ดันถูกหนานซ่งบังคับให้ไปเดินซื้อของด้วยกัน

หนานหลินเข้าใจว่าตัวเองต้องมาเดินซื้อของเป็นเพื่อนพี่สาว แต่ไม่นึกเลยว่าหนานซ่งต้องการจะซื้อของให้เธอ

"พี่ ไม่ต้องหรอก เสื้อผ้าฉันมีตั้งเยอะตั้งเยอะ"

"เยอะอะไร ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเสื้อสกรีนลายการ์ตูนทั้งนั้น โดเรมอนเอย หมูเปปป้าเอย ใส่ในชีวิตประจำวันมันก็โอเคอยู่หรอก แต่ตอนทำงานเธอก็อยากใส่เสื้อผ้าพวกนี้เหรอ? ไหนจะกางเกงยีนของเธออีกซักจนสีซีดไปหมดแล้ว ควรจะเปลี่ยนได้แล้วล่ะ"

ก่อนหน้านี้หนานซ่งยุ่งจนไม่มีเวลามาดูแลหนานหลิน ตอนนี้พอจะหาเวลาได้ ก็เลยจัดให้เธอชุดใหญ่

เธอหยิบเสื้อผ้าจากราวมายัดใส่มือหนานหลิน

"ไปลองไป"

หนานหลินอุ้มกองผ้าเอาไว้ แล้วส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปหากู้เหิงที่อยู่ข้าง ๆ

กู้เหิงหัวเราะออกมา: "พี่สาวคุณพูดถูก วันนี้คือวันแห่งการเปลี่ยนแปลง ไปเถอะปิกกาจู!"

หนานหลินไม่มีคนเข้าข้าง ก็เลยจำเป็นต้องทำตามคำสั่งของพี่แต่โดยดี

พอเข้าไปในห้องลองชุด กู้เหิงก็หันไปพูดกับหนานซ่งอย่างอารมณ์ดี: "ประธานหนาน ประธานจะมาทำแบบนี้ไม่ได้นะครับ จัดการให้ทุกเรื่อง อย่างนี้ผมก็ไม่มีพื้นที่ให้แสดงออกเลยสิครับ"

หนานซ่งที่กำลังนั่งอ่านนิตยสารอยู่บนโซฟาด้วยท่าทางที่เหมือนกับเจ้านายใหญ่ เธอเหลือบตามองเขา

"อยากได้โอกาสก็ไม่ยาก พอเธอเลือกชุดได้แล้วนายก็จ่ายเงินสิ"

ริมฝีปากของกู้เหิงกระตุก เขาพูดเสียงเบา: "คุณไว้ชีวิตผมสักครั้งเถอะครับ เสื้อผ้าของที่นี่หยิบไปเล่น ๆ สักตัวสองตัวก็ได้เงินเดือนผมไปทั้งเดือนแล้ว"

คนทำงานเป็นลูกจ้างอย่างเขาซื้อไม่ไหวหรอก

หนานซ่งพูดออกมาอย่างเย็นชา: "ไม่มีเงินแล้วจะมาตามจีบผู้หญิงอีก ไปตามจีบยุงแทนเถอะ"

กู้เหิง: "......."

ทำไมเขาจะต้องไปตามจีบยุงด้วย?

จีบของแบบนั้นไม่ต้องใช้เงินก็จริง แต่ต้องเสียสละเลือดนี่

หนานหลินที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็ออกมาจากห้องลองชุด หนานซ่งกับกู้เหิงนั่งมองเธออยู่บนโซฟา บางครั้งก็พยักหน้า บางครั้งก็ส่ายหน้า

ส่วนเธอก็ชอบมันบ้าง เซ็ง ๆ บ้าง จนสุดท้ายก็ไม่รู้สึกอะไร ราวกับเป็นนางแบบที่ต้องคอยเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเรื่อย ๆ

ลองเปลี่ยนไปประมาณยี่สิบชุด ในที่สุดหนานซ่งก็บอกให้พอ จากนั้นชี้นิ้วไปที่กองเสื้อผ้าที่ลองไปแล้วและหันไปบอกผู้ดูแล: "ช่วยห่อชุดพวกนี้ให้ที"

ผู้ดูแลตาลุกวาว นี่ได้เจอกับเทพไฉ่ซิงเอี๊ยหรือเปล่าเนี่ย โชคดีจริง ๆ

ผู้หญิงที่มีเงินมากมายขนาดนี้ เธอเองก็อยากเป็นบ้างเหมือนกัน!

พอออกมาจากร้านเสื้อผ้าแล้ว หนานซ่งก็พาหนานหลินไปซื้อรองเท้าส้นสูงอีกสองคู่ กระเป๋าอีกสามใบ สำนวนต่าง ๆ ที่ว่าเงินหนาจนคนเกรงใจ ใช้เงินราวกับน้ำ ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย สามารถอธิบายสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน ตอนนี้ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่ภาพที่ท่านประธานหนานรูดบัตรจ่ายเงิน

เดินจนเหนื่อยแล้ว หนานซ่งก็เลยพาหนานหลินเข้าร้านทำผม กู้เหิงก็เลยเอาของที่ซื้อมาไปเก็บไว้ที่รถก่อน

"คนสวย อยากจะตัดผมทรงไหนจ๊ะ?" อาจารย์โทนี่เป็นคนเข้ามาบริการด้วยตนเอง

หนานหลินรู้สึกว่าไว้ผมยาวนั้นค่อนข้างวุ่นวาย เธออยากจะตัดผมสั้น

ส่วนทางฝั่งหนานซ่งนั้น กลับอยากไว้ผมยาว

ผมของเธอนั้นยาวเร็วมาก เร็วจนผิดปกติ เท่าที่จำได้เธอไม่เคยไว้ผมสั้นเลยสักครั้ง ไว้ผมยาวมาตลอด สีค่อนไปทางสีน้ำตาล

ตอนอายุน้อยกว่าสิบแปดปีแม่ค่อนข้างเข้มงวดกับเธอมาก ไม่ยอมให้เธอย้อมผมเลย หลังจากที่ผ่านอายุสิบแปดไปแล้วก็เริ่มให้อิสระมากขึ้น สีผมแบบไหนเธอนั้นเคยย้อมมาหมดแล้ว

ในโอกาสที่ตัวเองอายุยังน้อย หัวยังไม่ล้าน หนานซ่งคิดว่า เธอนั้นยังพอมีโอกาสให้ลองอยู่อีกบ้าง

"เอาสีนี้"

แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ไฮเอ็นต่างประเทศ ที่รู้จักกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ดีไซน์ธรรมดาทั่วไป แถมก่อนหน้านี้ยังมีข่าวอีกด้วยว่าดีไซเนอร์ของแบรนด์ลอกเลียนแบบผลงาน แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รับความสนใจจากคนภายในประเทศเธอนัก แถมราคาก็สูงจนน่าตกใจ พนักงานธรรมดาทั่วไปไม่มีทางซื้อได้แน่ ลูกค้าที่เข้ามาซื้อส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ลูกคุณหนูคนมีเงินก็คุณนายของพวกเศรษฐี แล้วก็ยังมีพวกเน็ตไอดอลกับคนที่รับหิ้ว

หนานหลินสวมเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีน แต่งตัวธรรมดา ๆ ดังนั้นพนักงานดูแลของที่นี่ก็เลยทำเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ ไม่มีการเข้ามาต้อนรับเธอด้วยซ้ำไป

แต่เธอก็แค่เดินดูไปเรื่อย ๆ ดูว่ามีอะไรใหม่ที่น่าสนใจบ้าง

บังเอิญเห็นสร้อยข้อมือเส้นหนึ่งที่ดีไซน์ดูดีใช้ได้ หนานหลินก็เลยชี้ไปที่มัน พร้อมถามขึ้นอย่างมีมารยาท: "ขอดูสร้อยข้อมือเส้นนี้หน่อยได้ไหมคะ?"

ที่จริงพนักงานสาวคนนั้นก็ไม่ได้ยุ่งเท่าไหร่ แต่กลับทำท่าทางหงุดหงิด จากนั้นก็หยิบสร้อยข้อมือเส้นนั้นออกมา แล้วก็ไปดูแลลูกค้าคนอื่น

หนานหลินหยิบสร้อยข้อมือออกมาจากกล่อง แล้วก็พลิกดูอย่างละเอียด เธออยากจะลองใส่มันดู แต่ยังไม่ทันจะได้ใส่ พนักงานสาวก็ร้องออกมาเสียงดัง "ใครใช้ให้คุณใส่มันคะ ทางร้านไม่อนุญาตให้ลองใส่นะคะ!"

เสียงของเธอดังมาก ทำเอาหนานหลินตกใจจนเสียขวัญ ลูกค้าที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็หันมามองเธอเป็นตาเดียว

หนานหลินชะงักไป จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างงง ๆ : "ทำไมถึงลองไม่ได้เหรอคะ?"

"อะไรทำไม ไม่ทำไมทั้งนั้น!"

พนักงานสาวมีทีท่าน่ากลัวและไม่เป็นมิตรเลยสักนิด เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง กระชากสร้อยข้อมือไปจากมือของหนานหลินในทันที เธอกระทำอย่างรวดเร็วรุนแรงและไม่ระมัดระวัง จึงทำให้เกิดรอยแดงบนข้อมือของหนานหลิน

หนานหลินย่นคิ้วอดทนต่อความเจ็บนั้น ส่วนพนักงานสาวก็มีสีหน้าร้อนรน เธอตรวจสอบสร้อยข้อมือนั้นทุกซอกทุกมุม จากนั้นก็พูดออกมาอย่างรังเกียจ: "สกปรกหมดเลย......สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของร้านเรา ราคาแพงมาก ไม่มีเงินซื้อแล้วยังจะมาลองอะไรอีก?"

มีเสียงหัวเราะเยาะดังออกมาจากลูกค้าที่อยู่ข้าง ๆ เธอมองหนานหลินอย่างสมเพช ราวกับว่าการมีอยู่ของหนานหลินทำให้ร้านร้านนี้ต้องสกปรกไปด้วย

ใบหน้าของหนานหลินแดงก่ำ เธอหมุนตัวกำลังจะออกไป แต่กลับเจอกับรูปร่างสูงเพรียว

"ซื้อไม่ได้ก็ไม่ให้ลอง? ที่นี่เป็นร้านของใครกันนะ?"

เมื่อได้ยินน้ำเสียงหาเรื่องดังขึ้น ลูกค้าในร้านต่างก็หันไปมองทางต้นเสียง พวกเขาก็พบแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ย้อมผมสีแดงกุหลาบ รูปร่างสูงเพรียว สาวสวยที่แต่งตัวทันสมัยสวยงาม ก้าวเข้ามา

ออร่าที่เธอแผ่ออกมาทำเอาคนรอบข้างตายกันหมด

หนานซ่งปาบัตรสีดำในมือของหนานหลินไปทางพนักงานสาวคนนั้น น้ำเสียงเย็นชา ดวงตาคมหรี่ลง "ขอฉันดูหน่อยว่าสินค้าในร้านคุณ มีชิ้นไหนที่ฉันลองไม่ได้ ซื้อไม่ได้บ้าง?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา