สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 180

อยู่ ๆ ยวี่จิ้นเหวินก็ถามขึ้น ทุกคนที่นั่งอยู่ชะงักไปราวกับเจอแผ่นดินไหว หนานซ่งเองก็ขมวดคิ้ว

ซือเจ๋อหันหน้าไปมองอดีตพี่เขย

"ปีนี้ผมอายุยี่สิบครับ"

เพิ่งจะยี่สิบ

"เด็กจัง" ยวี่จิ้นเหวินปรายตามองไปทางหนานซ่งเล็กน้อย หนานซ่งหันไปสบตากับเขา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนเห็นสายตาเยาะเย้ยประมาณว่าเธอเป็น 'โคแก่กินหญ้าอ่อน'

หนานซ่งหงุดหงิด เธอตั้งใจจะด่าเขาไปสักคำ แต่ก็ได้ยินน้ำเสียงนิ่ง ๆ ของซือเจ๋อพูดขึ้น "ก็ไม่ได้เด็กมากนะครับ บางทีอาจเพราะคุณลุงอาจจะเริ่มแก่แล้วมากว่า"

"......"

หนานซ่งแทบจะหลุดหัวเราะออกมา ผิดเสียที่ไหนล่ะ เขาเป็นชาย! แก่! อายุสามสิบปีแล้วนะ!

ยวี่จิ้นเหวินไม่ได้โกรธ เพียงแค่พูดออกมาอย่างสบาย ๆ : "นายกล้าเรียกฉันว่าลุง แต่ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้นที่ตัวเองเรียกว่าพี่สาวเหรอ ต้องเปลี่ยนไปเรียกเธอว่าอาสิ ไม่อย่างนั้น ฉันก็กำลังเอาเปรียบเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?"

หนานซ่งไม่ได้กังวลหรือเป็นห่วงเรื่องนี้ เธอหันหน้าไปเรียกเขา "คุณลุง"

ยวี่จิ้นเหวิน: "......"

เขาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ รู้สึกว่านี่คือเรื่องหลอกลวง เขาพูดกลั้วหัวเราะ: "เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ?"

"คุณลุงไงคะ"

ชีวิตนี้หนานซ่งยังไม่เคยเรียกใครว่าลุงได้จริงใจขนาดนี้มาก่อน ดวงตาใสซื่อมองยวี่จิ้นเหวิน แล้วพูดออกมาจากใจ: "คุณค่อนข้างแก่แล้วค่ะ"

"......" ยวี่จิ้นเหวินรู้สึกเหมือนหัวใจของเขาโดนทิ่มแทง เหมือนว่าเขา จะแก่กว่าเธอ หกปีมั้ง

แก่ขนาดนั้นเลยหรือไง?

ซือเจ๋อกลับมองหนานซ่ง แล้วพูดออกมาอย่างจริงจัง "ถ้าเกิดว่าหน้าตาไม่ดีถึงจะเรียกว่าคุณน้าคุณอาไม่ก็คุณป้า แต่พี่หน้าตาดี ก็เลยเป็นวัยรุ่นตลอดไป"

ฟังสิ นี่ต่างหากภาษาคน!

หนานซ่งตบหัวของซือเจ๋อ แล้วหัวเราะ "เด็กดี"

ดวงตาของยวี่จิ้นเหวินแสดงความไม่พอใจออกมา อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าหัวใจของเขานั้นกำลังหงุดหงิด สายตาคมกริบของเขามองภพที่หนานซ่งตบหัวไอ้เด็กคนนี้ เขาอยากจะจับมันโกนหัว จากนั้นก็ส่งตัวมันไปอยู่ที่วัดเส้าหลิน ให้มันไปเป็นเณร!

กู้เหิงกับเหอจ้าวนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลังเงียบ ๆ แล้วแสร้งทำเป็นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำงาน ไม่กล้าเงยหน้า

นี่มันฉากอะไรกันเนี่ย? ? ?

อยากลงจากรถ......

ภายในรถเงียบลงไปชั่วครู่

ริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันของยวี่จิ้นเหวิน เริ่มเอ่ยปากถามซือเจ๋อต่อ "ยังเรียนอยู่เหรอ?"

"ครับ มหา'ลัยปีสอง"

"ที่เมืองหนาน?"

"ครับ"

"มหาวิทยาลัยไหน?"

"มหาวิทยาลัยS"

"อ๋อ"

ยวี่จิ้นเหวินเงียบไป ในรถเองก็เงียบไปเช่นกัน

ต่อจากนั้น เขาก็ถามขึ้นอีก น้ำเสียงของเขาดูเอื่อยกว่าเดิม "นายชื่ออะไร?"

ซือเจ๋อเองก็ชะงักไป ดวงตาใสแจ๋วมองไปทางยวี่จิ้นเหวิน น้ำเสียงดูเย็นชาขึ้นเล็กน้อย "ซือเจ๋อ"

ยวี่จิ้นเหวินไตร่ตรองชื่อนี้อยู่เล็กน้อย จากนั้นก็เดาถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซือตั๋ว

"ครอบครัวยังมีใครอีกบ้าง?"

ครั้งนี้หนานซ่งไม่ได้รอให้ซือเจ๋อตอบ เพราะสุดจะทนแล้ว เธอหรี่ตามองเขาเล็กน้อย "คุณจะพอได้หรือยัง? เป็นทะเบียนราษฎร์หรือไง?"

หนานซ่งยิ้ม "เอาสิ"

ซือเจ๋อเลือกหนังระทึกขวัญมาเรื่องหนึ่ง จากนั้นก็เอาขนมออกมาจากกระเป๋าเป้ของตัวเองมาวางไว้ตรงหน้าของหนานซ่ง ล้วนเป็นขนมพื้นเมืองของเมืองชิง

หนานซ่งเลือกหนวดปลาหมึกแห้งมาถุงหนึ่ง ดูแล้วน่าอร่อยดี

หนังกำลังเริ่มขึ้น ความรู้สึกเปียกแฉะ ดำมืด สยองขวัญก็เริ่มขึ้นเช่นกัน ซือเจ๋อบอกกับหนานซ่ง: "พี่ ถ้าเกิดว่าพี่กลัวพี่จับแขนผมไว้ได้เลยนะ ไม่เป็นไร ผมไม่เจ็บ"

หนานซ่งมองเขาอย่างงง ๆ "อืม"

ซือเจ๋อเม้มริมฝีปากของตัวเอง ได้ยินว่ารูมเมทของเขาพาแฟนสาวออกไปดูหนังระทึกขวัญด้วยกัน ตอนกลับมาแขนของรูมเมทเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนแล้วก็รอยช้ำ ทุกรอยคือรอยที่แฟนของเขาเป็นคนทำ เพราะว่าเธอนั้นกลัวมาก

หนานซ่งได้ฟังก็รู้สึกประหลาดใจ แต่ก็รู้สึกว่าตลกดีเหมือนกัน ริมฝีปากของเธอยกยิ้ม "อ๋อ ฉันคงไม่เป็นแบบนั้น"

ยังไงเสียตอนเธอยังเด็กพี่สองก็ชอบแต่งตัวเป็นผีมาหลอกเธออยู่แล้ว พวกพี่ ๆ คนอื่น ๆ ก็ทำตาม พวกผีต่าง ๆ ที่น่ากลัวเคยแต่งมาหลอกเธอแล้วทั้งนั้น ฉากต่าง ๆ ในหนังยังไม่น่ากลัวเท่าตอนเด็กที่พวกเธอเล่นกันด้วยซ้ำ

แต่เธอก็ดูมันอย่างสนุกสนาน หนึ่งเพราะไม่ได้ดูหนังอย่างตั้งใจมานานแล้ว สองเพราะหนังพวกนี้เรียกความทรงจำในวัยเด็กกลับมาได้

พอนึกถึงพี่สี่กับพี่เล็กโดนพวกเธอแต่งเป็นผีไปหลอก จนตกใจกลัวแล้ววิ่งหนีไปทั้งบ้าน เธอก็หัวเราะออกมาอย่างนึกตลก

ในหนังนางเอกกำลังโดนมนต์ดำก็เลยยิ้มและหัวเราะให้กับกระจกราวกับคนบ้า ซือเจ๋อขยำถุงมันฝรั่งในมือด้วยความกลัว อยู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นข้างตัว เขาจึงตกใจ จากนั้นเสียง "ปัง" ก็ดังขึ้น มันฝรั่งกระจายไปเต็มพื้น

"......"

ราวกับมีเสียงแกะร้องดังขึ้นในอากาศ

อาจเพราะสีหน้าตกตะลึงของซือเจ๋อนั้นดูน่ารักเกินไป หลังจากที่ลงจากเครื่องบิน รอยยิ้มของหนานซ่งยังคงประดับอยู่ที่ริมฝีปากอย่างเช่นเคย แถมมุมปากของเธอก็ดูเหมือนจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ

พอเข้าไปในสนามบิน ก็เห็นว่ายวี่จิ้นเหวินกำลังรออยู่ที่ประตูทางออก

ยวี่จิ้นเหวินเห็นว่าหนานซ่งกับซือเจ๋อเดินมาด้วยกัน แถมยังหัวเราะให้กัน เขาก็เกิดหงุดหงิดขึ้นมาอีก จากนั้นเขาก็เริ่มรู้สึกหึง กลิ่นคนขี้หึงลอยอยู่เต็มอากาศไปหมด

ในตอนที่มองเห็นยวี่จิ้นเหวิน รอยยิ้มของหนานซ่งก็แข็งค้างไปแล้วก็ค่อย ๆ หุบลง ตั้งใจจะทำเหมือนเขาเป็นธาตุอากาศ

ในตอนที่กำลังจะเดินผ่านเขาไป ยวี่จิ้นเหวินก็เป็นคนเริ่มทักทายก่อน น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำเล็กน้อย "ด้านนอกสนามบินถูกแฟนคลับของซือตั๋วกับนักข่าวล้อมเอาไว้หมดแล้ว เดินออกไปทั้งแบบนี้ไม่ได้"

เขาก้มมองสไตล์การแต่งตัวและสไตล์การแต่งหน้าของหนานซ่ง แล้วเม้มปาก "อาจจะต้อง ทำให้เธอลำบากใจหน่อยนะ"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา