ยวี่จิ้นเหวินรับแรงกระแทกรุนแรงนี้เต็ม ๆ เขาเหมือนได้ยิน "วิ๊งค์" ในหัว ราวกับว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด ความรู้สึกเจ็บแล่นริ้วขึ้นมา จากนั้นโลกของเขาก็เข้าสู่ความมืด
เขาล้มตัวใส่หนานซ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่แล้วก็ยังไม่ได้สติ
กู้เหิงยืนอยู่ข้าง ๆ ยวี่จิ้นเหวิน เขายืนมองหินที่ก้อนใหญ่เท่าไข่ห่านก้อนนั้นกระทบลงบนท้ายทอยของเจ้านาย จนศีรษะเขาแทบจะยุบลงไป เขาตกใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา ในตอนนั้นเขาก็เลยตะโกนออกมาด้วยความโมโห "พวกคุณกะจะทำเขาให้ตายเลยหรือไง? อยากใช้ชีวิตที่เหลือในคุกใช่ไหม!"
มาทีละคน ๆ ไม่จบสักทีจะให้ทำยังไง
หลังจากที่เขาเพิ่งพูดจบ คนพวกนั้นต่างพากันนิ่งไป เสียงไซเรนของรถตำรวจดังสนั่น หนึ่งในคนกลุ่มนั้นตะโกนขึ้น "รีบวิ่งเร็ว ตำรวจมาแล้ว-"
ผู้คนที่เคยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ต่างก็พากันแตกรังออกไปเหมือนฝูงผึ้ง บอดี้การ์ดกับตำรวจร่วมมือกันดักพวกนั้นไว้ได้ส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงใส่กุญแจมือเอาไว้
สภาพการณ์ตรงหน้าชุลมุนวุ่นวาย
หนานซ่งถูกยวี่จิ้นเหวินกอดจนท่าทางเธอดูประหลาด เธอลองผลักเขาออกเบา ๆ เมื่อหันไป ก็พบเข้ากับดวงตาสีเข้มที่ดูมึนงงเล็กน้อย ราวกับกำลังรอให้ความเจ็บปวดนั้นบรรเทาลง เขาสะบัดศีรษะเล็กน้อย
"คุณ......" หนานซ่งเบะปากเล็กน้อย "ไม่เป็นไรใช่ไหม?"
ยวี่จิ้นเหวินเพิ่งได้สติ เขาตอบกลับมาเบา ๆ : "ผมไม่เป็นไร"
ต่อจากนั้นเขาก็ถามกลับ: "คุณล่ะ? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"
เธอไม่คุ้นชินกับการเอาใจใส่จากเขา และไม่เคยชินกับสายตาเป็นห่วงของเขา หนานซ่งส่ายหน้า แล้วเบนสายตาไปทางอื่น จากนั้นก็หลุบตาลงมองหินก้อนนั้นที่อยู่บนพื้น ดวงตาของเธอดูมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย
แฟนคลับพวกนี้ สมองมีปัญหาหรือยังไง หรือว่าพวกเขาไม่มีหัวใจ!
ไร้คุณภาพเสียจริง
เธอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ หนานซ่งไม่ได้ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดัง เธอปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ อย่างไรเสียแฟนคลับกลุ่มนี้ก็คือแฟนคลับของซือตั๋ว ถ้าเกิดว่าเป็นข่าวขึ้นมาก็ไม่ส่งผลดีอะไรต่อซือตั๋ว แน่นอนว่าเขาต้องมารับผิดชอบแทนแฟนคลับแน่นอน
ตำรวจสั่งสอนเธออยู่ครู่ใหญ่
บนตัวของซือตั๋วเต็มไปด้วยไข่กับน้ำมะเขือเทศ เขาเข้าไปล้างตัวแบบลวก ๆ ในห้องน้ำของสถานีตำรวจ จากนั้นก็เอาชุดตัวใหม่ออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่สะอาดสดชื่น "พี่"
ยวี่จิ้นเหวินยืนอยู่ตรงหน้าประตู ริมฝีปากของเขาคาบบุหรี่ไว้ตัวหนึ่ง พลางฟังเหอจ้าวรายงานอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขาหน้าไปเล็กน้อย ก็เห็นว่าตรงหน้าของหนานซ่งมีเด็กผู้ชายตัวสูงใหญ่ยืนอยู่ กำลังส่งยิ้มสดใสให้กับเธอ
ใบหน้าของหนานซ่งยังแสดงความอ่อนโยนออกมา แถมเธอยังยกมือขึ้นไปเช็ดหน้าผากให้เขาอีก พฤติกรรมที่ดูสนิทชิดเชื้อ ทำให้ดวงตาของเขาแสดงความไม่พอใจออกมา: มีเด็กน้อยโผล่มากจากไหนอีกเนี่ย?
หนานซ่งยื่นมือออกไปเช็ดคราบสีแดงที่ยังหลงเหลืออยู่บนหน้าผากของซือตั๋ว มันดูคล้ายเลือด แต่พอเช็ดออกมาแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นน้ำมะเขือเทศ เห็นแบบนั้นเธอถึงได้โล่งใจ
"ต่อไปห้ามทำตัวบ้าบิ่นไม่คิดอะไรแบบนี้อีกนะ ในสถานการณ์อันตรายแบบนั้นยังกล้าลงไปจากรถอีก ถ้าพวกเธอปาหินมาใส่เธอจริง ๆ จะทำยังไง?"
เห็นว่าหนานซ่งมีสีหน้างอง้ำ แถมยังดูโมโหอีก ซือตั๋วจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และไม่ได้เถียงเธอ "ผมเข้าใจแล้วครับพี่"
เขานั้นไม่ได้กลัวความเจ็บปวด แต่เขานั้นเกือบทำให้หนานซ่งเจ็บตัว นี่ต่างหากคือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บ
ในตอนที่เห็นว่าหินก้อนนั้นกำลังจะลอยมาโดนหนานซ่ง แต่เขานั้นกำลังนั่งอยู่บนรถไม่สามารถลงไปปกป้องเธอได้ ความรู้สึกของเขาในตอนนั้นคือร้อนรน รู้สึกราวกับหัวใจของเขานั้นถูกบีบรัดเอาไว้อยู่หลายวินาที
โชคดีที่ผู้ชายคนนั้นมาบังตัวเธอไว้
ซือตั๋วหันไปข้าง ๆ ก็พบว่ายวี่จิ้นเหวินกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู เขาก้าวขายาว ๆ ไปหาชายหนุ่ม จากนั้นก็ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา แล้วก็โค้งคำนับ
"ขอบคุณคุณผู้ชายมากครับ ที่ช่วยบังตัวของพี่สาวผมไว้ให้"
ยวี่จิ้นเหวินมองเด็กวัยรุ่นชายคนนี้โค้งคำนับให้ตนด้วยสายตาเรียบนิ่ง ดวงตาที่เคยดูสีเข้มอยู่แล้วยิ่งดูลุ่มลึกขึ้นไปอีก นิ้วมือเรียวยาวของเขาคีบบุหรี่เอาไว้ จากนั้นก็พ่นควันสีขาวออกมาจากริมฝีปาก น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น
"พี่? นายเป็นญาติฝ่ายไหนกับภรรยาเก่าของฉันกัน?"
ร่างกายที่โค้งคำนับอยู่ของซือตั๋วนิ่งไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นมา
ดวงตาคล้ายกวางของเขา มองตรงไปที่ยวี่จิ้นเหวิน
ภรรยาเก่า
ดวงตาของซือตั๋วเป็นประกายเล็กน้อย คนที่ดึงเสื้อของพ่อเขาบุกเข้าไปในร้านสือเว่ย แล้วก็ให้ของขวัญพี่หนานซ่งคนนั้น-อดีตสามีที่คนเอือมระอา
"อ๋อ"
แต่กู้เหิงกลับไม่คิดว่าเกินไปเลยแม้แต่น้อย แถมยังรู้สึกเสียดายเสียอีกที่ไม่ได้ซื้อรถแบบนี้เอาไว้สักคัน ไม่ต้องพูดถึงมะเขือเทศหรือหินก้อนโตเท่าไข่ห่านหรอก ต่อให้เป็นอะไรที่ใหญ่และแข็งแรงกว่านั้นก็ทำอะไรไม่ได้
"รถดูไม่เลวนี่" ยวี่จิ้นเหวินชมออกมา จากนั้นก็พูดว่า: "อย่างนั้นก็รบกวนประธานหนานด้วย"
หนานซ่ง: "?"
ภายใต้แสงอาทิตย์ตอนกลางวันแสก ๆ ยวี่จิ้นเหวินดับบุหรี่จากนั้นก็โยนลงไปในจานรอง จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถ ดูมั่นอกมั่นใจ ขึ้นรถของเธอไปโดยไม่เขินอายเลยแม้แต่น้อย
"......"
สงสารก็แต่เหอจ้าว เขางงกับการกระทำของเจ้านายเหนือหัวตัวเอง
หนานซ่งขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชาถามขึ้น "ใครใช้ให้เขาขึ้นรถ?"
ดวงตาของเธอมีแววตาหงุดหงิด เหอจ้าวรีบเข้าไปบอก: "ประธานหนาน ประธานยวี่ของเราโดนก้อนหินกระแทกเข้าที่ศีรษะอย่างแรง สมองคงจะได้รับการกระทบกระเทือน คุณอย่าถือสาเขาเลยนะครับ...... อย่างไรเสีย พวกเราก็ไปสนามบินเหมือนกัน อย่างนั้นก็ทาง ทางเดียวกันพอดี รบกวนประธานหนานขอพวกเราติดรถไปด้วยเถอะครับ"
ต่อให้เหอจ้าวจะหน้าด้านแค่ไหน แต่พอเจออะไรแบบนี้เขาก็พูดไม่ออกเหมือนกัน
เมื่อกี้ยังเชิญเขาไปขึ้นรถตัวเองอยู่เลย อยู่ ๆ ก็ขึ้นไปนั่งรถเขาเสียอย่างนั้น ให้ตัวเองกลับคำยังไม่มีทางเร็วขนาดนี้
เฮ้อ เจ้านายของตัวเองเอาแต่ใจ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจะทำอะไรได้?
ก็ตามนั้น ยวี่จิ้นเหวินตีมึนนั่งอยู่บนรถของหนานซ่ง ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมลงไป หน้าเขาทั้งด้านทั้งหนาราวกับกำแพง
รถออฟโรดกันกระสุนกำลังขับไปสนามบิน
ภายในรถกว้างขวาง กู้เหิงและเหอจ้าวนั่งอยู่ทางเบาะด้านหลัง ยวี่จิ้นเหวิน ซือตั๋วแล้วก็หนานซ่งสามคน นั่งอยู่เบาะด้านหน้า
ซือตั๋วนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างยวี่จิ้นเหวินกับหนานซ่ง เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย
ภายในรถเงียบมาก ไม่นานนักยวี่จิ้นเหวินก็เอ่ยปากถาม ทำลายความเงียบ
เขาถามซือตั๋ว "ไอ้หนู นายอายุเท่าไหร่แล้ว?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...