สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 179

ยวี่จิ้นเหวินรับแรงกระแทกรุนแรงนี้เต็ม ๆ เขาเหมือนได้ยิน "วิ๊งค์" ในหัว ราวกับว่าหัวของเขากำลังจะระเบิด ความรู้สึกเจ็บแล่นริ้วขึ้นมา จากนั้นโลกของเขาก็เข้าสู่ความมืด

เขาล้มตัวใส่หนานซ่ง ผ่านไปครู่ใหญ่แล้วก็ยังไม่ได้สติ

กู้เหิงยืนอยู่ข้าง ๆ ยวี่จิ้นเหวิน เขายืนมองหินที่ก้อนใหญ่เท่าไข่ห่านก้อนนั้นกระทบลงบนท้ายทอยของเจ้านาย จนศีรษะเขาแทบจะยุบลงไป เขาตกใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมา ในตอนนั้นเขาก็เลยตะโกนออกมาด้วยความโมโห "พวกคุณกะจะทำเขาให้ตายเลยหรือไง? อยากใช้ชีวิตที่เหลือในคุกใช่ไหม!"

มาทีละคน ๆ ไม่จบสักทีจะให้ทำยังไง

หลังจากที่เขาเพิ่งพูดจบ คนพวกนั้นต่างพากันนิ่งไป เสียงไซเรนของรถตำรวจดังสนั่น หนึ่งในคนกลุ่มนั้นตะโกนขึ้น "รีบวิ่งเร็ว ตำรวจมาแล้ว-"

ผู้คนที่เคยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ต่างก็พากันแตกรังออกไปเหมือนฝูงผึ้ง บอดี้การ์ดกับตำรวจร่วมมือกันดักพวกนั้นไว้ได้ส่วนหนึ่ง จากนั้นจึงใส่กุญแจมือเอาไว้

สภาพการณ์ตรงหน้าชุลมุนวุ่นวาย

หนานซ่งถูกยวี่จิ้นเหวินกอดจนท่าทางเธอดูประหลาด เธอลองผลักเขาออกเบา ๆ เมื่อหันไป ก็พบเข้ากับดวงตาสีเข้มที่ดูมึนงงเล็กน้อย ราวกับกำลังรอให้ความเจ็บปวดนั้นบรรเทาลง เขาสะบัดศีรษะเล็กน้อย

"คุณ......" หนานซ่งเบะปากเล็กน้อย "ไม่เป็นไรใช่ไหม?"

ยวี่จิ้นเหวินเพิ่งได้สติ เขาตอบกลับมาเบา ๆ : "ผมไม่เป็นไร"

ต่อจากนั้นเขาก็ถามกลับ: "คุณล่ะ? ได้รับบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"

เธอไม่คุ้นชินกับการเอาใจใส่จากเขา และไม่เคยชินกับสายตาเป็นห่วงของเขา หนานซ่งส่ายหน้า แล้วเบนสายตาไปทางอื่น จากนั้นก็หลุบตาลงมองหินก้อนนั้นที่อยู่บนพื้น ดวงตาของเธอดูมีสีเข้มขึ้นเล็กน้อย

แฟนคลับพวกนี้ สมองมีปัญหาหรือยังไง หรือว่าพวกเขาไม่มีหัวใจ!

ไร้คุณภาพเสียจริง

เธอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ หนานซ่งไม่ได้ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นข่าวดัง เธอปิดบังเรื่องนี้เอาไว้ อย่างไรเสียแฟนคลับกลุ่มนี้ก็คือแฟนคลับของซือตั๋ว ถ้าเกิดว่าเป็นข่าวขึ้นมาก็ไม่ส่งผลดีอะไรต่อซือตั๋ว แน่นอนว่าเขาต้องมารับผิดชอบแทนแฟนคลับแน่นอน

ตำรวจสั่งสอนเธออยู่ครู่ใหญ่

บนตัวของซือตั๋วเต็มไปด้วยไข่กับน้ำมะเขือเทศ เขาเข้าไปล้างตัวแบบลวก ๆ ในห้องน้ำของสถานีตำรวจ จากนั้นก็เอาชุดตัวใหม่ออกมาจากกระเป๋าเป้ แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่สะอาดสดชื่น "พี่"

ยวี่จิ้นเหวินยืนอยู่ตรงหน้าประตู ริมฝีปากของเขาคาบบุหรี่ไว้ตัวหนึ่ง พลางฟังเหอจ้าวรายงานอย่างไม่ใส่ใจมากนัก เขาหน้าไปเล็กน้อย ก็เห็นว่าตรงหน้าของหนานซ่งมีเด็กผู้ชายตัวสูงใหญ่ยืนอยู่ กำลังส่งยิ้มสดใสให้กับเธอ

ใบหน้าของหนานซ่งยังแสดงความอ่อนโยนออกมา แถมเธอยังยกมือขึ้นไปเช็ดหน้าผากให้เขาอีก พฤติกรรมที่ดูสนิทชิดเชื้อ ทำให้ดวงตาของเขาแสดงความไม่พอใจออกมา: มีเด็กน้อยโผล่มากจากไหนอีกเนี่ย?

หนานซ่งยื่นมือออกไปเช็ดคราบสีแดงที่ยังหลงเหลืออยู่บนหน้าผากของซือตั๋ว มันดูคล้ายเลือด แต่พอเช็ดออกมาแล้วถึงได้รู้ว่าเป็นน้ำมะเขือเทศ เห็นแบบนั้นเธอถึงได้โล่งใจ

"ต่อไปห้ามทำตัวบ้าบิ่นไม่คิดอะไรแบบนี้อีกนะ ในสถานการณ์อันตรายแบบนั้นยังกล้าลงไปจากรถอีก ถ้าพวกเธอปาหินมาใส่เธอจริง ๆ จะทำยังไง?"

เห็นว่าหนานซ่งมีสีหน้างอง้ำ แถมยังดูโมโหอีก ซือตั๋วจึงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง และไม่ได้เถียงเธอ "ผมเข้าใจแล้วครับพี่"

เขานั้นไม่ได้กลัวความเจ็บปวด แต่เขานั้นเกือบทำให้หนานซ่งเจ็บตัว นี่ต่างหากคือสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกเจ็บ

ในตอนที่เห็นว่าหินก้อนนั้นกำลังจะลอยมาโดนหนานซ่ง แต่เขานั้นกำลังนั่งอยู่บนรถไม่สามารถลงไปปกป้องเธอได้ ความรู้สึกของเขาในตอนนั้นคือร้อนรน รู้สึกราวกับหัวใจของเขานั้นถูกบีบรัดเอาไว้อยู่หลายวินาที

โชคดีที่ผู้ชายคนนั้นมาบังตัวเธอไว้

ซือตั๋วหันไปข้าง ๆ ก็พบว่ายวี่จิ้นเหวินกำลังยืนอยู่ตรงหน้าประตู เขาก้าวขายาว ๆ ไปหาชายหนุ่ม จากนั้นก็ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา แล้วก็โค้งคำนับ

"ขอบคุณคุณผู้ชายมากครับ ที่ช่วยบังตัวของพี่สาวผมไว้ให้"

ยวี่จิ้นเหวินมองเด็กวัยรุ่นชายคนนี้โค้งคำนับให้ตนด้วยสายตาเรียบนิ่ง ดวงตาที่เคยดูสีเข้มอยู่แล้วยิ่งดูลุ่มลึกขึ้นไปอีก นิ้วมือเรียวยาวของเขาคีบบุหรี่เอาไว้ จากนั้นก็พ่นควันสีขาวออกมาจากริมฝีปาก น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น

"พี่? นายเป็นญาติฝ่ายไหนกับภรรยาเก่าของฉันกัน?"

ร่างกายที่โค้งคำนับอยู่ของซือตั๋วนิ่งไปแป๊บหนึ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ ยืดตัวขึ้นมา

ดวงตาคล้ายกวางของเขา มองตรงไปที่ยวี่จิ้นเหวิน

ภรรยาเก่า

ดวงตาของซือตั๋วเป็นประกายเล็กน้อย คนที่ดึงเสื้อของพ่อเขาบุกเข้าไปในร้านสือเว่ย แล้วก็ให้ของขวัญพี่หนานซ่งคนนั้น-อดีตสามีที่คนเอือมระอา

"อ๋อ"

แต่กู้เหิงกลับไม่คิดว่าเกินไปเลยแม้แต่น้อย แถมยังรู้สึกเสียดายเสียอีกที่ไม่ได้ซื้อรถแบบนี้เอาไว้สักคัน ไม่ต้องพูดถึงมะเขือเทศหรือหินก้อนโตเท่าไข่ห่านหรอก ต่อให้เป็นอะไรที่ใหญ่และแข็งแรงกว่านั้นก็ทำอะไรไม่ได้

"รถดูไม่เลวนี่" ยวี่จิ้นเหวินชมออกมา จากนั้นก็พูดว่า: "อย่างนั้นก็รบกวนประธานหนานด้วย"

หนานซ่ง: "?"

ภายใต้แสงอาทิตย์ตอนกลางวันแสก ๆ ยวี่จิ้นเหวินดับบุหรี่จากนั้นก็โยนลงไปในจานรอง จากนั้นก็เดินไปขึ้นรถ ดูมั่นอกมั่นใจ ขึ้นรถของเธอไปโดยไม่เขินอายเลยแม้แต่น้อย

"......"

สงสารก็แต่เหอจ้าว เขางงกับการกระทำของเจ้านายเหนือหัวตัวเอง

หนานซ่งขมวดคิ้ว น้ำเสียงเย็นชาถามขึ้น "ใครใช้ให้เขาขึ้นรถ?"

ดวงตาของเธอมีแววตาหงุดหงิด เหอจ้าวรีบเข้าไปบอก: "ประธานหนาน ประธานยวี่ของเราโดนก้อนหินกระแทกเข้าที่ศีรษะอย่างแรง สมองคงจะได้รับการกระทบกระเทือน คุณอย่าถือสาเขาเลยนะครับ...... อย่างไรเสีย พวกเราก็ไปสนามบินเหมือนกัน อย่างนั้นก็ทาง ทางเดียวกันพอดี รบกวนประธานหนานขอพวกเราติดรถไปด้วยเถอะครับ"

ต่อให้เหอจ้าวจะหน้าด้านแค่ไหน แต่พอเจออะไรแบบนี้เขาก็พูดไม่ออกเหมือนกัน

เมื่อกี้ยังเชิญเขาไปขึ้นรถตัวเองอยู่เลย อยู่ ๆ ก็ขึ้นไปนั่งรถเขาเสียอย่างนั้น ให้ตัวเองกลับคำยังไม่มีทางเร็วขนาดนี้

เฮ้อ เจ้านายของตัวเองเอาแต่ใจ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยจะทำอะไรได้?

ก็ตามนั้น ยวี่จิ้นเหวินตีมึนนั่งอยู่บนรถของหนานซ่ง ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมลงไป หน้าเขาทั้งด้านทั้งหนาราวกับกำแพง

รถออฟโรดกันกระสุนกำลังขับไปสนามบิน

ภายในรถกว้างขวาง กู้เหิงและเหอจ้าวนั่งอยู่ทางเบาะด้านหลัง ยวี่จิ้นเหวิน ซือตั๋วแล้วก็หนานซ่งสามคน นั่งอยู่เบาะด้านหน้า

ซือตั๋วนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างยวี่จิ้นเหวินกับหนานซ่ง เขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

ภายในรถเงียบมาก ไม่นานนักยวี่จิ้นเหวินก็เอ่ยปากถาม ทำลายความเงียบ

เขาถามซือตั๋ว "ไอ้หนู นายอายุเท่าไหร่แล้ว?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา