สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 247

ทันทีที่เห็นว่ายวี่เฟิ่งเจียวมา หนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินก็ลุกขึ้นเกือบจะพร้อมกันและเอ่ยทักทาย

"คุณน้ายวี่"

หนานซ่งเรียกยวี่เฟิ่งเจียวจากนั้นเงยหน้าขึ้นมองซูรุ่ยและไป๋ลู่ยวี๋ "พวกคุณมาด้วยกันได้อย่างไร?"

ไป๋ลู่ยวี๋เอ่ย "ก็เจอกันตรงประตูสถานีตำรวจภูธรนี่แหละก็เลยมาด้วยกัน"

ยวี่เฟิ่งเจียวจับมือหนานซ่งไว้อย่างอบอุ่นพร้อมกับเอ่ย "วางใจเถอะ ฉันอยู่ จะไม่มีใครรังแกหนูได้"

ริมฝีปากของหนานซ่งกระตุกยิ้มเบาๆ

เดิมทียวี่เฟิ่งเจียวได้ยินมาว่าหนานซ่งอยู่ที่นี่ เธอจึงแทบอดใจไม่ไหวที่จะมาที่นี่ เมื่อถึงประตูสถานีตำรวจภูธรก็พบเข้ากับไป๋ลู่ยวี๋และเพื่อนของเขา ไป๋ลู่ยวี๋ยังคงประทับใจกับอดีตแม่สามีของหนานซ่ง เขาจึงก้าวเข้าไปทักทายอย่างสุภาพ

เมื่อรู้ว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับหนานซ่งและยังรู้ว่าโจ๋เยว่ โจ๋เซวียนมีส่วนเกี่ยวข้อง ยวี่เฟิ่งเจียวกลัวว่าเธอจะพบเจอเรื่องเลวร้ายแน่นอนว่าเธอจะต้องมายืนหยัดและสนับสนุนเธอ!

เมื่อเห็นว่ายวี่เฟิ่งเจียวมา เสิ่นหลิวซูสีหน้าก็เจื่อนลงในทันใด สีหน้าของโจ๋เยว่เองก็หม่นหมองลงเช่นกัน

ผู้หญิงคนนี้จะต้องก้าวเท้าเข้ามาเกี่ยวทุกเรื่องเสียจริง

ราวกับว่ากำลังร้องขอความเป็นอธิปไตย โจ๋เยว่ก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของเสิ่นหลิวซูไว้จากนั้นก็เผชิญหน้ากับยวี่เฟิ่งเจียว เธอยิ้มและเอ่ยว่า "พี่เจียว ขาพี่น่ะอาการยังไม่ค่อยสู้ดีนัก เรื่องนี้เรื่องเล็กน้อย จริงๆไม่ต้องรบกวนพี่ก็ได้นะคะ"

"เรื่องของเธอน่ะไม่ต้องพูดหรอก แต่เรื่องนี้น่ะเกี่ยวกับเสี่ยวซ่งซึ่งแปลว่าจะต้องเป็นเรื่องใหญ่ ฉันจะเพิกเฉยได้อย่างไรกัน?"

แม้ว่ายวี่เฟิ่งเจียวจะนั่งอยู่อย่างนั้น แต่ออร่ากลับอยู่รอบตัวเธอ ผู้ที่ได้เห็นต่างตกตะลึง เดิมทีห้องโถงที่มีเสียงอึกทึกครึกโครมกลับเงียบสงัดลงในเสี้ยววินาที

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหนานซ่ง ยวี่จิ้นเหวิน รวมถึงซูรุ่ยและไป๋ลู่ยวี๋

หลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเหมือนกับว่าพวกเขารวบรวมทหารและม้าเป็นพันๆตัว ดูมีแรงผลักดันและพละกำลังที่เอ่อล้น

สำหรับซูอินและฟู่ยวี่นั้นกลับหายไป

ฟู่ยวี่เห็นซูยิน เขาอดไม่ได้ที่จะพาเธอไปยังมุมห้อง สีหน้าของเขาบึ้งตึงจากนั้นเขาหยิบถั่วพิสตาชีโอออกมาจากกระเป๋า

"เธอใส่อะไรบางอย่างลงไปในถั่วพิสตาชีโอ สิ่งนั้นทำให้ฉันหัวเราะจนจะเป็นบ้าจนเกือบจะร้องไห้หาพ่อหาแม่"

ซูยินจ้องมองไปยังถั่วพิสตาชีโอที่ถูกฉีกออก "ทำไมมันถึง... อยู่ในมือคุณ?"

ฟู่ยวี่เกาจมูกอย่างรู้สึกผิด "มันออกมาจากกระเป๋าของเธอ"

เด็กในวัยนี้ดูเหมือนจะใส่ใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมาก ไม่ชอบให้ใครมองกระเป๋าของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงการขโมยอาหารจากกระเป๋าของเธอเลย

ฟู่ยวี่พร้อมที่จะถูกเด็กน้อยดุ คาดไม่ถึงเลยว่าซูยินเพียงแค่จ้องมองเขาด้วยแววตาว่างเปล่าจากนั้นเอ่ยถามว่า "คุณกินไปครึ่งถุงแล้วหรือเปล่า?"

"เปล่า" ฟู่ยวี่เอ่ย

"งั้นก็ดี" ซูยินโล่งใจ

ฟู่ยวี่เอ่ยอีกว่า "........ถุงนี้เหลือเพียงครึ่งเดียว ส่วนที่เหลือก่อนหน้านี้ฉันกินไปหมดแล้ว"

ซูยิน "!!!"

"พี่โชคลาภ"

ราวกับว่าซูยินเจ็บปวดอย่างหนัก เธอยื่นมือออกไปสัมผัสหน้าผากของเขา "สมองของพี่ ตอนเด็กๆนี่ถูกยัดขี้เถ้าเข้าไปหรือเปล่า?"

ฟู่ยวี่ "?"

เสิ่นหลิวซูมองไปที่ใจกลางห้องโถง ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่ง อีกคนกำลังยืน ผู้หญิงสองคนที่ทำสงครามกัน ดวงตาที่ลึกล้ำนั้นเงยขึ้นเล็กน้อย

คนคนนี้พูดผิดแล้ว ผ่านไปนานหลายปีแล้ว ผู้หญิงที่เขายังไม่สามารถจัดการได้มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

การมาของผู้บัญชาการตำรวจสาขาไม่ได้ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยก็สอนกฎหมายให้ใครบางคนได้

"ตามบทบัญญัติของ "กฎหมายอาญา" ในประเทศ อาชญากรรมได้เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากเหตุผลอื่นนอกเหนือจากความประสงค์ของอาชญากรคือการพยายามก่ออาชญากรรม ผู้กระทำผิดที่พยายามกระทำความผิดอาจได้รับโทษที่เบากว่าหรือลดลงเมื่อเทียบกับผู้กระทำความผิดที่สำเร็จ"

คดีการฆาตกรรมหรือการกระทำที่ร้ายแรงถือเป็นการฆาตกรรมโดยเจตนา การกระทำที่ร้ายแรงต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิตหรือจำคุกไม่เกินสิบปี การกระทำที่เล็กน้อยต้องระวางโทษจำคุกไม่ต่ำกว่าสามปีและไม่เกินสิบปี"

ทันทีที่สิ้นเสียง ดวงตาของโจ๋เซวียนเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อ เธอเอามือปิดปากและสูดลมหายอย่างหนัก "ร้ายแรงขนาดนั้นเชียวหรือ?"

สีหน้าของโจ๋เยว่ก็ซีดเผือดลงทันใด

เรื่องนี้ราวกับว่าร้ายแรงและยุ่งยากมากกว่าที่เธอคิด

ทันใดนั้นสมองของเธอก็ขาวโพลน ตอนนี้เสิ่นหลิวซูเป็นฟางเส้นสุดท้ายในชีวิตของเธอ "หลิวซู คุณช่วยฉันเถอะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ..."

เสิ่นหลิวซูนิ่งเงียบ จงใจพูดเป็นอื่นหรือไม่ แต่อย่างไรคนก็ไม่ใช่ผักหญ้าที่จะไร้ซึ่งจิตใจ ในเมื่อเขามาแล้ว เขาจึงไม่อาจมองดูผู้หญิงที่อยู่กับเขามานานหลายปีเข้าคุกแบบนี้ได้

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เอ่ยว่า "อาเจียว ความขัดแย้งควรได้รับการแก้ไข เหตุการณ์ในวันนี้ปล่อยผ่านไปได้ไหม? ถ้าหากว่าต้องการอะไร ในสิ่งที่ฉันสามารถทำให้ได้ก็บอกมาได้เลย"

ยวี่เฟิ่งเจียวถอนลมหายใจ "เสิ่นหลิวซู คุณนี่ช่างคุ้นเคยกับการเป็นวีรบุรุษเสียจริงนะ ไม่ใช่ว่าหล่อนคนนั้นเพิกเฉยต่อคุณหรอกหรือ?"

เสิ่นหลิวซูเม้มริมฝีปาก ร่องรอยของความอับอายปรากฏบนใบหน้าของเขา

ยวี่เฟิ่งเจียวยิ้มเยือกเย็น "เอาล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันก็เคยเติมเต็มทุกอย่างให้กับคุณ วันนี้ฉันก็ยังคงต้องทำแบบนั้น งั้นคุณไม่ลองก่ออาชญากรรมแทนผู้หญิงที่คุณรักแล้วก็ลองเข้าคุกแทนเธอดูล่ะ ว่าไง?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา