สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 255

ยวี่จิ้นเหวินไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ปัญหาถึงได้โยนมาหาเขาแล้ว

สมองได้ลัดวงจรไปชั่วขณะ

เขาส่งสายตาไปให้ภัณฑารักษ์เหวิน นี่ไม่ใช่ท่านก่อเรื่องหรอกหรือ? จะให้ผมตอบอย่างไร?

ด้านหนึ่งเป็นนายท่านหนาน อีกด้านเป็นบรรพชนที่ยังมีชีวิตอยู่ ใครก็ไม่อาจจะล่วงเกินได้

บรรยากาศเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง ยวี่จิ้นเหวินยิ้มบางๆ พูดว่า "เงินทองไม่รั่วไหลออกไปข้างนอก เพราะจะเข้าไปล้วนเป็นกระเป๋าของคนในครอบครัวเดียวกัน”

ใครจะคาดคิดว่าเมื่อสิ้นเสียงลง หนานซานไฉและหนานซ่งทั้งสองใบหน้าก็พังลงไปพร้อมๆ กัน เสียงเดียวกันก็ดังขึ้น

"ใครเป็นครอบครัวเดียวกับนาย?" 

อย่าไปปีนป่ายความสัมพันธ์ที่นี่แบบมั่วๆ!

ยวี่จิ้นเหวินยิ้มอีกครั้ง เผชิญหน้าด้วยความยากลำบาก "เงินที่นายท่านหนานหามาได้ ล้วนเป็นเสี่ยวซ่งของเธอหรอกเหรอ?”

คำพูดนี้ก็เป็นความจริง

หนานซานไฉฮึเบาๆ แล้วพูดด้วยเสียงที่คอระรัว "ใช่ ที่พูดมาก็ไม่ใช่หมายความแบบนี้เหรอ?”

หนานซ่งเองก็ไม่ได้เปิดเผยเจตนาที่แท้จริงของคุณปู่ และไม่อาจจะบอกต่อหน้าคนตั้งมากมายว่าสาเหตุที่คุณปู่รับปากทำโครงการนี้ เพราะต้องการเงินครึ่งหนึ่งของโครงการด้วย เพื่อช่วยเธอเรียกร้องความยุติธรรม และขอค่าหย่าจากยวี่จิ้นเหวินด้วยมั้ง

อย่าว่าแต่คุณปู่เลย คนคนนี้เธอไม่อาจขายหน้าได้

หนานซ่งก็ทำหน้าบึ้งตึง พูดขึ้นมาอย่างมั่นใจว่า "ฉันก็หมายความว่าเช่นนั้นเหมือนกัน" ”

ปู่หลานมองหน้ากัน ไม่นานก็ได้ตกลง เปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"คุณปู่ ภาพวาดนกกระสามงกุฎแดงของคุณปู่ช่างงดงามมาก ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดจริงๆ "หนานซ่งชมอย่างเต็มที่

หนานซานไฉยิ้มอย่างมีเมตตา "ภาพวาดกิ่งสนของแกก็ไม่เลว ดีกว่าพ่อแกเยอะ ได้รับการถ่ายทอดจากฉันเต็มๆ”

"ต้องขอบคุณคุณปู่ที่สอนมาเป็นอย่างดี”

"แม้จะพูดแบบนี้ อาจารย์เป็นผู้นำนาง แต่ศิษย์ก็ต้องก้าวเดินด้วยตัวเอง เสี่ยวซ่งของเรามีพรสวรรค์ และตั้งใจ......"

คุณปู่เป็นคนใจดีมีเมตตาหลานกตัญญูรู้คุณ ช่างเป็นภาพที่น่าอบอุ่นจริงๆ

เหวินจิ่งอี้หรี่ตาลง และทำปากจู๋พูดกับยวี่จิ้นเหวินว่า "นายรู้ไหมว่าตอนนี้นายเหมือนอะไร? ”

ยวี่จิ้นเหวินหลับตาลง ไม่ต่อคำพูด เพราะรู้ว่าคงไม่มีอะไรดีแน่

แน่นอนว่าภัณฑารักษ์เหวินหัวเราะคิกคัก "ไม่อาจจะทำให้ฝ่ายใดฝ่านหนึ่งพอใจได้"

ยวี่จิ้นเหวิน "......"

ใช้เวลาอยู่ในพิพิธภัณฑ์จิงเหวินทั้งวัน

หนานซ่งก็นับว่าติดใจแล้ว ที่ได้ปรึกษาหารือกับหนานซานไฉและอาจารย์แกะสลักหยก ว่าจะซ่อมแซมเศษหยกที่แตกละเอียดเหล่านั้นอย่างไร หากพูดไม่ตรงกันก็อ้างอิงตำราเป็นหลักในการโต้แย้ง พูดตังแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศการสนทนาดูคึกคักเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น คนที่ไม่รู้ก็นึกว่าเป็นการแลกเปลี่ยนวงการวรรณกรรมอะไรนั้นแล้ว

เหล่าอาจารย์ที่ดูไปแล้วก็หน้าตาไม่ดี การแต่งกายก็ไม่หรูหราและไม่เหมือนใคร อันที่จริงล้วนเป็นปรมาจารย์ที่ปกปิดตัวตนไว้อย่างมิดชิด ไม่เพียงแค่ฝีมือที่สูงส่งเท่านั้น แต่ในท้องก็เต็มไปด้วยความรู้อันแท้จริง ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์แบบฉบับโบราณดูดีๆ อาจจะมากกว่าอาจารย์สาขาประวัติศาสตร์ซะอีก

สิ่งที่เรียกว่าการศึกษา สถานะ ไม่เคยเป็นเกณฑ์ในการวัดความรู้ของบุคคลอย่างแท้จริง

แต่อยู่ก่อนหน้าความรู้ เงินตรา สถานะอะไร มันช่างไร้ค่าเสียจริง

วันนี้ยวี่จิ้นเหวินก็ไม่น้อยหน้า

ทำไมถึงมีความรู้สึกแบบ เหมือนอยู่เงียบๆ ดีๆ ก็มีงานเข้า

หนานซ่งกับคำพูดที่คาดเดาไม่ได้ หลังจากนั้นสีหน้าได้หม่นหมองลงทันที และพูดอย่างเย็นชาว่า"เรื่องของบริษัทตระกูลฉิน แกทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้รีบเปลี่ยนคน! อย่าบอกฉันว่ามัวแต่ยุ่งอยู่กับงานจะไปง้อแฟนไม่ได้ ตอนแรกที่นายจีบเธอไม่ใช่ว่าแข่งกับเวลาหรอกเหรอ ความเอาใจใส่ไม่ต่างอะไรกับหมาเท็ดดี้แบร์เลย ตอนนี้จะหาเวลาไม่ได้แล้วเหรอ? นั่นอาจหมายความว่าแกไม่มีความสามารถเพียงพอ! ”

สุดท้ายเธอก็พูดขึ้นมาว่า"กู้เหิง ฟังฉันให้ดีนะ หลินหลินไม่ได้ขาดแฟนอย่างแก ถ้าแกง้อเธอไม่ได้ ก็รีบไสหัวไปให้ไกลๆ ฉัน แล้วกลับไปฉันจะหาให้หลินหลินใหม่ คนต่อไปต้องฉลาดเฉลียวและเชื่อฟังมากกว่านี้! ”

พูดจบก็วางสายจากเขา

ความโกรธนั้นยังไม่จางหาย

ยวี่จิ้นเหวินขับรถอย่างเรียบนิ่งมั่นคง ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้ถามว่า "กู้เหิง กำลังตามน้องสาวคุณอยู่เหรอ?”

"เขาใกล้จะจบเกมแล้ว

หนานซ่งพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า "ผู้ชายที่ทำให้ผู้หญิงโกรธ จะเอามาทําไม? แม้แต่ล้างชามยังรู้สึกรังเกียจเลย รีบๆ โยนมันออกไปให้เร็ว”

ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้า "พูดถูกแล้ว เอาไหม ผมจะแนะนำเหอจ้าวให้น้องสาวคุณ?”

คำพูดที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นทำให้หนานซ่งตะลึงงัน จากนั้นก็ค่อยๆ หันหน้าไปมองยวี่จิ้นเหวิน

เมื่อนึกถึงใบหน้านั้นของเหอจ้าว หนานซ่งก็ขมวดคิ้ว แล้วพูดขึ้นมาว่า "นายจะบ้านเหรอ?”

ยวี่จิ้นเหวิน “?”

"ไม่ว่ากู้เหิงจะแย่แค่ไหน ต่อให้ไม่รู้ความแค่ไหน ก็หล่อกว่าใบหน้าขนมเปี๊ยะของเหอจ้าวของนายไหม? นายกำลังคิดอะไรของนายอยู่ล่ะ?”

ยวี่จิ้นเหวินเม้มปากเงียบๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก

แมวไม่อยู่ หนูอย่างผู้ช่วยพิเศษเหอที่นั่งโอ้อวดอำนาจอยู่บนเก้าอี้ประธานยวี่ดูเอกสารจะอนุมัติอยู่อย่างร่าเริง รู้สึกว่าตัวเองเหมือนขุนนางทหารในสมัยโบราณ ที่กระฉับกระเฉง และพอความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นมาในหัว ก็ได้จามเสียงดังออกมาหนึ่งครั้ง

"ฮาชิว!” เหอเจ้าถูจมูกแล้วพึมพํา "ต้องมีคนแอบพูดไม่ดีลับหลังเกี่ยวกับเขาแน่นอน......"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา