หนานซ่งโตขนาดนี้แล้ว แต่ยังโดนพี่ชายกักบริเวณอีก
ไม่ใช่แค่เสียหน้า ถูกห้ามความอิสระต่างหากที่น่าไม่สบอารมณ์มากที่สุด
เพราะฉะนั้นตอนนี้อารมณ์เธอจึงไม่ค่อยดี พูดได้เลยว่าแย่มากเลยล่ะ
พอเห็นยวี่จิ้นเหวิน ก็ยิ่งหงุดหงิดไปกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าหมอนี่ทำไมหน้าด้านจัง วันๆเอาแต่มาโรงพยาบาล
ส่วนเธอก็อยู่ได้แค่ในห้องพักฟื้น แล้วห้ามเขาไม่ได้ด้วย
ยิ่งปวดหัวไปมากกว่านั้น สำหรับเรื่องที่เธอเกือบจะเกิดเรื่องในคลับ ตระกูลยวี่ก็รับไปรับผิดชอบแทน
บอกว่าเธอเกิดเรื่องในที่ของยวี่เจียหาง แล้วโทษที่ยวี่จิ้นเหวินไม่ได้ดูแลเธอดีๆ จึงสั่งให้ยวี่จิ้นเหวินต้องดูแล ชดใช้ให้เธอ
นายหญิงยวี่ก็จับมือเธอ แล้วพูดกับเธอด้วยรอยยิ้ม "เสี่ยวซ่ง อยากกินอะไร ก็บอกอาจิ้น ให้เขาไปซื้อให้หนู ดูแลหนูเป็นหน้าที่ของเขา หนูเรียกใช้เขาเหมือนทาสรับใช้ได้เลย"
ความหวังดีของท่าน หนานซ่งปฏิเสธไม่ได้ จึงทำได้แค่ยิ้มรับ
ฝั่งยวี่เฟิ่งเจียวยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยังไงเธอก็พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแผนจีน แล้วสั่งให้ยวี่จิ้นเหวินมาส่งอาหารทุกวัน แล้วให้เขาเตรียมของหนานซ่งมาให้ด้วย สรุปง่ายๆคือจัดการให้ยวี่จิ้นเหวินกับหนานซ่งแล้ว
ยวี่จิ้นเหวินถือกล่องอาหาร แล้วยังเอากล่องเล็กๆอีกใบมาด้วย กับความหงุดหงิดของหนานซ่ง เขาทำเป็นเมินเฉย แล้วยิ้มพูดว่า "วันนี้มีซี่โครงราดซอสแดงที่เธอชอบ"
หนานซ่งเหลือบมองเขา "ประธานยวี่ไม่ยุ่งเหรอคะ? วันๆเอาแต่มาโรงพยาบาลเหมือนคนว่าง ไม่ต้องดูแลบริษัทเหรอคะ? หรือเริ่มทำธุรกิจเสริมเป็นคนส่งอาหารแล้ว?"
เธอพูดเหน็บแนม ยวี่จิ้นเหวินได้ยินแล้วก็รู้สึกแสบหู
เขาวางกล่องอาหารไว้ข้างๆ "ฉันเพิ่งมาจากพิพิธภัณฑ์จิงเหวิน"
พอได้ยินชื่อพิพิธภัณฑ์ สีหน้าหนานซ่งจึงเกร็ง "คุณปู่ไม่รู้เรื่องที่ฉันเข้าโรงพยาบาลใช่ไหม?"
ยวี่จิ้นเหวินมองเธอ "เธอไม่ให้บอก ฉันก็เลยไม่บอก"
หนานซ่งค่อยโล่งอก "งั้นก็ดี"
คุณปู่อายุมากแล้ว ตอนนี้ยุ่งกับงานอีก เธอไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง ยิ่งไม่อยากให้ท่านกังวล
"แต่เถ้าแก่ก็ถามถึงเธอ ถามว่าช่วงนี้เธอทำอะไร ทำไมไม่ไปเยี่ยมท่าน"
ยวี่จินเหวินนำกล่องอาหารออกมาวางเรียงกัน
"ฉันตอบว่าเธอขาพลิก แล้วเดินไม่สะดวก โดนคุณหมอซูกักบริเวณอยู่ในโรงพยาบาล เดี๋ยวหายแล้วค่อยไปเยี่ยมท่าน" ยวี่จิ้นเหวินพูดหน้าตาเฉย
ถึงแม้ยวี่จิ้นเหวินจะพูดให้เรื่องดูเล็ก แต่หนานซ่งก็บาดเจ็บที่เอวจริงๆ โดนกักบริเวณ ก็ไม่ถือว่าโกหก จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมา "ฉันว่าเธอโทรไปหาคุณปู่จะดีกว่า"
หนานซ่งถือโทรศัพท์ยวี่จิ้นเหวินไว้ ลังเลไม่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงโทรไปหาหนานซานไฉ
หลายวันก่อนเสียงเธอแหบเกินไป กลัวว่าคุณปู่จะฟังออก เลยไม่กล้าโทร
โทรศัพท์รับอย่างรวดเร็ว เธอพูดสถานการณ์ที่ยวี่จิ้นเหวินพูดอีกรอบ
เถ้าแก่ได้ยินแล้วก็พูดบ่นใส่เธอ แต่ก็ไม่ได้เป็นห่วงมาก พอได้ยินว่าเธอโดนกักบริเวณ ก็หัวเราะเสียงดัง บอกว่า "สมควรแล้ว หลานจะได้จำสักบ้าง"
หนานซ่งทำหน้าหมดคำพูด สมกับเป็นคุณปู่ของเธอ
พอวางสายแล้ว เธอจึงคืนโทรศัพท์ให้ยวี่จิ้นเหวิน แล้วพูด"ขอบคุณ"เสียงเบา
"ไม่ต้องเกรงใจกับฉันหรอก"
ยวี่จิ้นเหวินถือโทรศัพท์ไว้ สัมผัสอุณหภูมิที่เธอหลงเหลือไว้ แล้วยิ่งกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ
บนโต๊ะเล็ก มีอาหารที่น่าทานวางเต็มไปหมด ชวนน้ำลายไหลมาก
หนานซ่งดมกลิ่นหอม แล้วเริ่มรู้สึกอยากอาหาร จึงหยิบตะเกียบเริ่มกิน
คฤหาสน์เก่าตระกูลยวี่มีแม่ครัวคนหนึ่ง ทำอาหารอร่อยมาก หนานซ่งกินได้ไม่เยอะ แต่ทุกครั้งที่ไปคฤหาสน์ตระกูลยวี่ก็จะกินข้าวตั้งสองถ้วย กี่วันนี้ กระเพาะเธอก็ขยายไม่น้อยแล้ว
ยวี่จิ้นเหวินชอบดูตอนที่หนานซ่งกินข้าวมาก
อยู่ต่อหน้าอาหารอร่อยๆ คนเราจะเปิดเผยตัวตน แล้วน่ารักมาก
มีการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างผู้ดี หนานซ่งกินเป็นจังหวะ แล้วกินคำเล็กๆทีละคำ ไม่เผยให้เห็นฟัน เคี้ยวเสียงเบา แต่ความเร็วในการกินไม่ช้าเลย เธอไม่คิดที่จะอดอาหารลดน้ำหนัก ไม่นานข้าวครึ่งถ้วยก็ลงกระเพาะแล้ว ริมฝีปากก็มีประกายเงา
ยวี่จิ้นเหวินมองเธอกินเงียบๆ จากนั้นก็ยิ้ม
"กินด้วยกันเถอะ"
ยวี่จิ้นเหวินถือตะเกียบไว้ รู้สึกทำตัวไม่ถูก แล้วมองหนานซ่งอย่างไม่อยากเชื่อ
"กินด้วยกัน เหรอ?"
หนานซ่งรู้ตัวว่าทนเห็นเขาทำตัวระมัดระวังแบบนี้ไม่ไหว เหมือนเขาติดค้างอะไรเธออย่างนั้น เธอจึงเอ่ยว่า "ฉันกินคนเดียวกินไม่หมดหรอก"
เธอให้เขากินด้วยกัน ยวี่จิ้นเหวินก็จะไม่ลังเลอีก ฉีกตะเกียบ แล้วใช้ตะเกียบอันใหม่คีบเนื้อให้เธอ "กินเนื้อเยอะๆ เพิ่มสารอาหาร ดูสิว่าเธอผอมขนาดไหน"
หนานซ่งไม่ชินที่เขาเอาใจใส่ "นายกินของนายไปเถอะ"
ทั้งสองกินข้าวอย่างเงียบๆ ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก
แต่ยวี่จิ้นเหวินกลับรู้สึกว่า ช่วงเวลาแบบนี้มีค่ากับเขามาก เขาพยายามกินช้าๆ ช้าอีกหน่อย ไม่อยากให้อาหารมื้อนี้จบลงด้วยซ้ำ แบบนี้ก็จะได้อยู่กับเธอ นานอีกหน่อย
มื้ออาหารนี้ ถึงแม้ยวี่จิ้นเหวินจะลดความเร็วในการกิน แต่ก็ต้องถึงเวลากินหมด
กินข้าวเม็ดสุดท้ายอย่างเชื่องช้า ยวี่จิ้นเหวินก็ยังคงอาลัยอาวรณ์
หนานซ่งก็มองยวี่จิ้นเหวินอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเขาไม่ได้กินข้าวมานานหรือเปล่า มองกล่องอาหารที่ว่างเปล่านี้ พวกเขากินจนกล่องอาหารสะอาดสะอ้านเลย
พอเก็บกล่องอาหารเสร็จ ยวี่จิ้นเหวินจึงเอากล่องไม้อันหนึ่งออกมา แล้วยื่นให้หนานซ่ง
"เธอดูนี่สิ"
หนานซ่งรับกล่องไม้มา แล้วสงสัย "อะไร?"
ยวี่จิ้นเหวินอ้อมค้อม "เปิดดูจะรู้เอง"
ทำตัวลึกลับจริงๆ
หนานซ่งเปิดกล่องไม้ เห็นแค่ในกล่องไม้ยาวๆนั้น มีชามเคลือบหนึ่งใบ สีสันสวยงาม เป็นงานฝีมือละเอียดมาก
พอเห็นปุ๊บ ดวงตาสวยๆของหนานซ่งจึงมีประกายทันที
"สมบัติชัดๆ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...