สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 312

ไป๋ลู่ยวี๋กำลังพิมพ์ข้อความลงในกลุ่ม [ไม่มีน้องเล็ก] อย่างสนุกสนาน บอกเล่าเรื่องราวสถานการณ์ในปัจจุบัน

เมื่อได้ยินเสียงตะโกนคำรามของหนานซ่ง เขาตกใจจนโทรศัพท์เกือบจะร่วงหล่นจากมือ

จากนั้นบ้านสวนกุหลาบทั้งหลังก็สั่นสะเทือน

"........."

จี้อวิ๋นตกใจมาก เขาชะงักอยู่หน้าประตูห้อง จากนั้นวินาทีถัดมาประตูห้องก็เปิดออกและมีมือใหญ่ลากเขาเข้าไปด้านใน

พ่อบ้านจ้าวอยู่ห้องรับแขกชั้นล่าง เมื่อได้ยินเสียงคุณหนูใหญ่ตะโกนกึกก้อง เขาสัมผัสบริเวณหัวใจของเขาอยู่เป็นเวลานาน จากนั้นเขาก็ถอนหายใจ "ตกใจแทบตาย นึกว่าคุณนายกลับชาติมาเกิด"

สาวๆพากันระเบิดหัวเราะออกมา ไม่ใช่อย่างนั้นเหรอ?

ลูกคอนี้ช่างเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ

ช่างเหมือนฉากที่คุณชายหนานแอบซุบซิบนินทากับคุณชายคนอื่นๆโดยที่คุณนายไม่รู้เสียเหลือเกิน

......

หนานซ่งโกรธเป็นอย่างมาก พวกพี่ๆมีพฤติกรรมที่ 'แบ่งแยก' เธอ!

อีกด้านของสายโทรศัพท์ ลั่วจวินหังหัวเราะเบาๆ

"เธอกำลังหัวเราะอยู่เหรอ?"

หนานซ่งโกรธมากยิ่งขึ้น แม้แต่พี่ใหญ่ก็ยังตกตะลึง "โตแล้วแต่ทำตัวไม่น่าเคารพนับถือ"

ลั่วจวินหัง "ฮะ?"

"ทำไม ฉันพูดผิดเหรอ?"

หนานซ่งเริ่มโมโหและก้าวร้าวต่อหน้าพี่ใหญ่ของตน เธอไม่สนเหตุผลและไม่ยอม "พวกพี่รังแกฉันก่อน"

ลั่วจวินหังหัวเราะเบาๆอีกครั้งและเอ่ยว่า "งั้นฉันไม่รังแกเธอแล้ว"

"ฉันจะให้น้องห้ายุบกลุ่ม"

เขาเอ่ยอย่างช้าๆและนุ่มนวล เขาพูดเร็วกว่าสลอธเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และต้องตั้งใจฟังอย่างอดทน

แต่ภาษาจีนของเขาคล่องแคล่วกว่าเมื่อสองสามปีก่อนมาก โดยรวมแล้วก็เริ่มคล้ายกับคนในพื้นที่เลยทีเดียว

ภาษาจีนกลางนั้นดูได้มาตรฐานมากกว่าภาษาพื้นเมืองเสียอีก

บางครั้งหนานซ่งก็รู้สึกลำบากและต้องการพูดภาษาอังกฤษกับเขา แต่เขากลับดื้อรั้นไม่ยอม เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาไม่คุ้นชินกับภาษาจีนเพราะเขารู้สึกว่าภาษาจีนเป็นภาษาที่สวยที่สุดในโลก

อักขระสี่เหลี่ยมจัตุรัสประกอบขึ้นเป็นคำศัพท์ เป็นประโยค ช่างงดงามและน่าทึ่งมาก

"ก็ยังโกรธอยู่"

หนานซ่งโมโหอยู่เล็กน้อย เธอปีนขึ้นไปบนเตียงและสัมผัสเข่าของตนเอง

ลั่วจวินหังเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ "แผลที่หน้าผากเป็นไงบ้าง?"

เขาชะงักไปชั่วขณะและเอ่ยอีกว่า "นั่งเครื่องบินได้หรือเปล่า?"

"ก็ไม่ได้มีปัญหาร้ายแรง"

หนานซ่งนั้นทำดีต่อตัวเองมาก เธอทายาบริเวณหัวเข่าและนวดบริเวณที่แดงจากนั้นเอ่ยถามว่า "พี่ใหญ่ พรุ่งนี้พี่จะส่งใครมารับฉัน?"

"เพื่อนคนหนึ่ง" ลั่วจวินหังเอ่ยตอบ

หนานซ่งผงะ "เพื่อน? พี่ยังมีเพื่อนอยู่อีกเหรอ?"

ลั่วจวินหัง "หมายความว่าไง"

หนานส่งยิ้ม "ไม่มีอะไร แค่อยากรู้ ไม่รู้ว่าคนแบบไหนที่พี่เรียกว่าเพื่อนน่ะ"

"เธอเห็นก็จะรู้เอง"

ลั่วจวินหังไม่ต้องการพูดอะไรมากนัก เขาสั่งว่า "พรุ่งนี้ไม่ต้องเอาอะไรมาเยอะนัก ที่นี่มีทุกอย่างแล้ว"

เขาชะงักไปอีกครั้ง "จะเอาอะไร เดี๋ยวฉันจะให้คนไปเตรียมให้เธอ"

"เข้าใจแล้ว"

หนานซ่งกล่าวว่า "ไม่รู้ว่าทำไมเวลาฉันไปหาพี่ตอนไปก็ไปแบบมือโล่งๆไม่ได้ถืออะไรไปด้วย แต่ตอนขากลับดันมีของเต็มไม้เต็มมือกลับมาตลอดเลย?"

คำพูดไร้ยางอายเช่นนี้ เธอกลับพูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย

ประเด็นก็คือลั่วจวินหังเองก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดไปเช่นกัน

"อืม ก็ใช่"

ราวกับว่าวันนี้ลั่วจวินหังมีความสนใจอยากจะพูดคุย เขาถามอีกว่า "ได้ข่าวว่า เธอไปฉ้อโกงกระถางธูปโบราณจากไอ้สองเหรอ?"

"เรื่องนี้พี่ก็รู้เหรอ พี่ใหญ่ พี่มีตาทิพย์สินะ"

หนานซ่งชื่นชมความสามารถด้านสติปัญญาของพี่ใหญ่ ห่างไกลกันพันลี้ แต่แค่การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยของเธอ ลั่วจวินหังก็สามารถรับรู้ได้ ไม่มีสิ่งไหนที่เป็นความลับเลย

"ไม่ถูกนะ อะไรเรียกว่าฉ้อโกง ฉันน่ะเปิดเผยอย่างบริสุทธิ์และตรงไปตรงมาว่าฉันต้องการ"

รอให้ถึงประเทศYก่อนเถอะ เขาจะได้เห็นดีกัน

*

คืนนี้ดึกแล้ว พวกพี่ๆก็ค้างกันที่สวนกุหลาย ทุกคนอยู่กันเต็มห้อง

รู้สึกเหมือนตอนที่พ่อกับแม่อยู่ด้วย

หนานซ่งหลับลงด้วยความรู้สึกสงบใจ

วันรุ่งขึ้น เธอตื่นขึ้นและลุกมาทานอาหารมื้อสาย

หนานซ่งจ้องมองจี้อวิ๋นและเฉิงเซี่ยนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ พี่สี่คนนี้เวลากินอาหารเลือกกินยิ่งกว่าเธอเสียอีก นมไม่ดื่ม ไข่ก็กินแต่ไข่ขาว ไข่แดงก็โยนใส่จานของเฉิงเซี่ยน

เฉิงเซี่ยนก็กินไปโดยที่ไม่เอ่ยปากและไม่กระพริบตาเลยแม้แต่น้อย จานอาหารของเขาเต็มไปด้วยสิ่งที่จี้อวิ๋นไม่ชอบกิน กินเพียงแค่นี้ก็อิ่มแล้ว

อะไรที่เรียกว่า "ตนเองได้รับการโปรดปรานและได้รับความไว้วางใจจึงวางท่าทีหยิ่งยะโส" อะไรที่เรียกว่า "ผู้ที่ได้รับความรักจากความรักมากขึ้นมักจะไม่ทะนุถนอม" หนานซ่งได้เห็นมันแล้ว

คุณชายน้อยจี้ถามหนานซ่งว่า "บ่ายนี้เครื่องบินเทคออฟกี่โมง?"

"บ่ายสาม"

"เก็บของดีแล้วหรือยัง?"

หนานซ่งดื่มซุปไข่และเอ่ยว่า "ไม่ต้องเก็บของอะไร ที่นั่นพี่ใหญ่บอกว่ามีของครบเรียบร้อยแล้ว ห้องที่ปราสาทเวทมนตร์ ฉันสามารถจะย้ายไปเมื่อไหร่ ตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น"

"........."

เมื่อเห็นใบหน้าที่โอ้อวดและภาคภูมิใจของน้องเล็ก เหล่าพี่ๆต่างก็กลอกตาใส่ น่าทึ่งไม่ไหว

ความจริงหนานซ่งก็ไม่ได้เอาอะไรไปเลย เธอเพียงแค่สะพายกระเป๋าหนังสือไปเพียงใบเดียวเท่านั้น เธอสวมเสื้อยืดสีขาว กระโปรงยีนส์และสวมหมวกสีขาว เธอเหมือนกับเด็กนักศึกษาในช่วงมหาวิทยาลัย

พี่ๆและกู้เหิงรวมถึงหนานหลิน ทุกคนมาส่งเธอที่สนามบิน ครั้งนี้เธอไปต่างประเทศโดยที่ไม่ได้ไปทำงาน หนานซ่งจึงไม่ได้พาเลขาของเธอไปด้วย แต่เธอต้องพาบอดี้การ์ดไปด้วยสองคนเพื่อความปลอดภัยของเธอ

หนานซ่งหยิบบอร์ดดิ้งพาสและบัตรประชาชนของเธอจากนั้นเธอเอ่ยกับทุกคนว่า "พอแล้ว ส่งแค่นี้แหละ เดี๋ยวกลับมาแล้วจะซื้อของอร่อยๆมาฝาก"

เธอโบกมือลาและเดินเข้าไปยังเครื่องสแกน

มุมหนึ่งของสนามบิน มีร่างสูงสวมชุดดำยืนอยู่ที่นั่น เขาคอยมองแผ่นหลังของหนานซ่งเดินเข้าเครื่องสแกนจากระยะไกล ดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นเปล่งประกาย

ครั้งนี้เธอไปประเทศY ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้พบเธอ

คงจะ...ไม่นานจนเกินไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา