สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 313

"ยินดีต้อนรับค่ะ"

ในเที่ยวบินระหว่างประเทศ มีผู้คนมากหน้าหลายตา ต่างก็มาจากในหลายๆประเทศ ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารชาวจีน

หนานซ่งและบอดี้การ์ดนั่งตั๋วชั้น First Class บอดี้การ์ดคนหนึ่งนั่งข้างหนานซ่ง อีกคนหนึ่งนั่งข้างหลังหนานซ่ง พวกเขาคอยระวังคนทุกประเภทและปกป้องเธออย่างเคร่งครัด

"พวกนายไม่จำเป็นจะต้องเคร่งขนาดนั้นก็ได้"

หนานซ่งหยิบหนังสือจากกระเป๋าสะพายของเธอออกมาแล้วพูดกับบอดี้การ์ดว่า "สงบอารมณ์ลงหน่อย จัดการกับสีหน้าพวกนายด้วย"

เธอทำนิ้วมือ 'เครื่องหมายถูก' ไว้ใต้ริมฝีปากของเธอ จากนั้นเธอก็แสดงท่าทียิ้มแย้มแจ่มใส

12ชั่วโมงหลังจากนี้เธอจะได้พบกับพี่ใหญ่แล้ว หนานซ่งรู้สึกว่าร่างกายของเธอนั้นกระฉับกระเฉง ราวกับว่าร่างกายไปย้อนกลับไปในช่วงวัยรุ่นอย่างไรอย่างนั้น

บอดี้การ์ดสองคนพยายามปรับสีหน้าให้กับคุณหนูใหญ่ เขายิ้มอย่างเหยเกและส่งเสียงฮะๆ

นี่คือรอยยิ้มที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา

"เอาเถอะ ฉันรู้ว่าพวกนายพยายามอย่างที่สุดแล้ว"

หนานซ่งส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ "ต้องโทษนายเค เขามักจะเข้มงวดกับพวกนายจนมากเกินไป"

บอดี้การ์ดเป็นพี่น้องฝาแฝด คนโตชื่อเซี้ยงจั่ว คนเล็กชื่อเซี้ยงโย่ว นายเครับพวกเขามาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า รับเข้ามาฝึกมาสอนและเลี้ยงดูโดยตัวเขาเอง

เซี้ยงจั่วที่นั่งด้านข้างหนานซ่งพูดกับเซี้ยงโย่วผู้เป็นน้องว่า "นายลองไปตรวจสอบดูหน่อยว่าบนเครื่องบินมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"

เซี้ยงโย่วตอบรับ เขาพูดอะไรบางอย่างกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจากนั้นก็เดินออกไป

เซี้ยงจั่วต้องการรายชื่อผู้โดยสารบนเที่ยวบินนี้ เพื่อดูว่าการสอบสวนครั้งก่อนมีความคลาดเคลื่อนหรือไม่ เขาถูกฝึกในการตรวจดูข้อมูลอย่างละเอียดภายในเวลาไม่กี่วินาที บนเครื่องบินลำนี้มีรายชื่ออยู่ประมาณ300คนที่เขาจำได้อย่างแม่นยำ

เรื่องเหล่านี้ก่อนที่จะออกเดินทาง นายเคได้ย้ำนักย้ำหนา พวกเขาไม่กล้าประมาทหรือละเลยแม้แต่น้อย ความปลอดภัยของคุณหนูใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง

จะมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด

ในความจริงแล้วหนานซ่งอยากจะบอกว่าเครื่องบินที่พี่ใหญ่ได้จัดจองไว้ให้จะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน คาดหวังว่าพวกเขาคงไม่ทำตัวเหมือนกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู ตื่นตระหนกขนาดนั้น

ว่ากันว่ากัปตันในวันนี้ก่อนหน้านี้เขาเคยเป็นคนทิ้งระเบิดในกองทัพ มีประสบการณ์มากล้น ไม่จำเป็นจะต้องกังวล

แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ออกมากับเธอ ความประหม่าและตื่นตระหนกนี้ไม่อาจเลี่ยงได้เลย

หนานซ่งอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอยากรู้อยากเห็น

พี่ใหญ่บอกว่าจะมีคนมารับเธอ ไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนมารับเธอ เธอล่ะอยากเห็นคนที่พี่ใหญ่เรียกว่า'เพื่อน'จนใจจะขาด

หลังจากที่รออยู่นาน ชั้น First Class ก็ไม่มีใครเดินเข้ามาเลย คงเป็นเพราะว่าพี่ใหญ่ได้จองไว้ทั้งหมดแล้ว

ไม่อาจพูดคำว่าจองได้ สายการบินนี้ดูเหมือนจะเป็นอุตสาหกรรมที่ตระกูลShelbyร่วมลงทุนด้วย

"ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ยินดีต้อนรับขึ้นเที่ยวบินนี้ โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำด้านความปลอดภัยดังต่อไปนี้..."

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประกาศสองภาษาว่าเครื่องบินกำลังจะเทคออฟ ขอให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัย เก็บโต๊ะบริเวณที่นั่ง ปิดโทรศัพท์มือถือหรือไม่ก็ปรับเป็นโหมดเครื่องบิน

หนานซ่งส่งข้อความหาพี่ใหญ่ : [เครื่องบินกำลังจะเทคออฟแล้ว]

[ทำไมคนที่พี่บอกว่าจะมารับฉันยังไม่ปรากฎตัวอีกล่ะ?]

[หรือว่าเขารอฉันที่สนามบินเบอร์มิงแฮมแล้วเหรอ?]

ก่อนที่พี่ใหญ่จะตอบ เหนือศีรษะของเธอก็มีเสียงลุ่มลึกและเคร่งขรึมดังขึ้น "เครื่องบินกำลังจะเทคออฟแล้ว เก็บโทรศัพท์ด้วย"

เมื่อหนานซ่งเงยหน้าขึ้น เธอเห็นชายร่างสูงใหญ่ปรากฎตัวขึ้น เขาสวมเครื่องแบบกัปตันและไว้ผมทรงสกินเฮด สูงประมาณ188เซนติเมตร หุ่นนายแบบ เขาดูแข็งแกร่งและดูเย็นชามาก

ดวงตาคู่หนึ่ง ลุ่มลึกและสง่างาม เขากวาดมองด้วยแววตานิ่งสงบ มีออร่าที่น่าตื่นตระหนกออกมา

บอดี้การ์ดทั้งสองสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือก จิตใต้สำนึกของพวกเขาบอกว่าต้องคุ้มกันหนานซ่ง

หนานซ่งมองดูรูปร่างหน้าตาและออร่าของชายผู้นี้ เขาไม่ใช่กัปตันธรรมดาอย่างแน่นอน เขาดูมีระเบียบที่คล้ายกับทหารและไม่น่าจะใช่ทหารในยศธรรมดา

หนานซ่งเงยหน้าขึ้นทันทีและเห็น "ชายร่างใหญ่" ในขณะนี้เขากำลังมองคำสารภาพของเธออยู่และกำลังดูอย่างจริงจัง

ราวกับว่าเขามองเห็นไม่ชัดเจน เขาจึงหยิบกระดาษจากโต๊ะไปแล้วถือเอาไว้ในมือ

????

หนานซ่งตกตะลึงครู่หนึ่ง จากนั้นเธอรีบดึงกระดาษออกจากมือของเขาด้วยสีหน้าเย็นชา "นี่ คุณผู้ชาย คุณไม่เข้าใจเรื่องมารยาทเหรอ?"

กล้าดียังไงเอาคำสารภาพของเธอไปอ่าน ใจกล้ามากเกินไปหรือเปล่า?!

เธอกางกระดาษจดหมายออกอีกครั้ง แต่โชคดีที่มันไม่ขาด มันแค่มีรอยย่นเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงบุคลิกของพี่ใหญ่ หนานซ่งรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เธออดไม่ได้ที่จะจ้องมองชายคนนั้นอย่างดุดัน

จากนั้นเธอเก็บกระดาษลงในหนังสือและพับมัน

ชายคนนั้นก็จ้องไปที่หนังสือของเธอ เขาจ้องปกหนังสือแล้วพึมพำช้าๆว่า "รักในห้วงเวลาอหิวาตกโรค ผู้เขียนการ์เซีย มาร์เกซ"

คราวนี้เขาสุภาพมากและถามว่า “ขอฉันดูหน่อยได้ไหม”

แน่นอนว่าไม่ได้!

หนานซ่งไม่ได้พูด มีเพียงหน้าปกของหนังสือที่เปิดขึ้นเท่านั้น หน้าแรกมีชื่อของเธอ การลงวันที่รวมถึงลายลักษณ์อักษร

ดูเหมือนชายคนนั้นจะเป็นโรคชอบอ่านคำศัพท์ เขาค่อยๆอ่านมันออกมาด้วยเสียงของเขา "หนังสือสะสมของหนานซ่ง ปีXX เดือนมกราคม วันที่ 5 หนังสือของหนานซ่งไม่ให้คนนอกยืม"

"อ้อ"

คนคนนั้นดูเหมือนจะเข้าใจ จากนั้นเขาหันไปมองเธอแล้วถามอย่างจริงจังว่า "เธอชื่อหนังสือสะสมของหนานซ่งเหรอ?"

หนานซ่ง "....."

หรือว่าเพื่อนของพี่ใหญ่เป็นคนโง่?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา