สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 350

"ครืน" เสียงฟ้าร้อง ดังสนั่น

ฝนที่ค่อย ๆ ตกลงมา ทำให้เมืองหนานถูกปกคลุมไปด้วยความชื้นแฉะ เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศก็ค่อย ๆ เย็นลงเรื่อย ๆ เช่นกัน

หนานซ่งดูเหมือนว่าจะไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งอยู่ข้าง ๆ หน้าต่าง ที่ไหล่ของเธอมีผ้าคลุมไหล่คลุมเอาไว้ กำลังนั่งมองสายฝนนอกหน้าต่างที่โหมกระหน่ำ พร้อมความรู้สึกที่อยากออกไปตากฝนเล่น

ที่พื้นมีเหล้าต่างประเทศวางเอาไว้สองขวด คือไอร์แลนด์วิสกี้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง

ความจริงเธอเองก็ไม่ได้คอแข็งอะไร ดื่มนิดดื่มหน่อยก็เมาแล้ว แถมยังชอบทำตัวรั่ว ๆ อีก

แต่วันนี้ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ยิ่งดื่มก็ยิ่งได้สติ

ที่จริงเธอนั้นอยากเมา พอเมาก็จะได้หลับ

ตอนที่ยังตื่นอยู่มันทรมานเกินไป

ความรู้สึกทรมานนี้ เกิดขึ้นอย่างแปลกประหลาด

ราวกับหัวใจของเธอนั้นโดนนำไปแช่ในน้ำมะระขมปี๋ เป็นความรู้สึกขมขื่นที่ไม่สามารถบอกออกมาได้ เป็นความรู้สึกว่างเปล่าในหัวใจที่ไม่รู้จะบอกออกมายังไง

หัวใจที่เคยหนักแน่น อยู่ ๆ ก็เหมือนมีคนมาขุดมันออกไป รู้สึกเหมือนมีลมคอยพัดหมุนวนอยู่ในอก เธอนั้นถึงขั้นได้ยินเสียงลมพัดหวนในอกของเธอด้วยซ้ำไป

ลมที่พัดไปพัดมาไม่หยุด ทำให้หัวใจห้องหนึ่งของเธอกระตุกรัดจนเจ็บร้าว

ประตูห้องของเธอโดนเคาะ ศีรษะของไป๋ลู่ยวี๋โผล่เข้ามาด้านใน ในมือของเขามีถาดอาหารอยู่ด้วย

ด้านหลังของเขา มีพวกพี่ ๆ คนอื่นยืนอยู่ คอยชะเง้อหน้าเข้ามามอง

พอเปิดประตูเข้ามา กลิ่นเหล้าก็ตีปะทะเข้ากับใบหน้าของพี่ชายจนเขาต้องขมวดคิ้ว

"เข้าไป" จี้อวิ๋นที่ยืนอยู่ด้านหลัง ผลักไป๋ลู่ยวี๋เบา ๆ

ไป๋ลู่ยวี๋ถือถาดเดินมาทางหนานซ่ง จากนั้นก็ค่อย ๆ พูดขึ้น "น้องหก อย่าดื่มหนักขนาดนั้นสิ ทรมานแย่เลยนะ ดื่มน้ำผสมน้ำผึ้งหน่อยสิ จะได้ไม่มวนท้อง"

เฮ่อเซินกับจี้อวิ๋นเดินตามเข้ามา "ใช่ ๆ น้องหก จะดื่มแต่เหล้าได้ยังไงกัน กินอะไรหน่อยสิ"

เฉวียนเยี่ยเชียนตามมาเงียบ ๆ ด้านหลัง เขาไม่พูดอะไร เพียงแต่มองใบหน้าขาวซีดของน้องสาวเท่านั้น คิ้วเรียวราวกับกระบี่ขมวดเข้าหากันแน่น

หนานซ่งไม่ได้เมินพวกเขา เธอหันหน้าไปหาเหล่าพี่ชาย จากนั้นก็ค่อย ๆ พูดขึ้น

"ฉันยังไม่หิว เดี๋ยวถ้าหิวแล้วจะกิน"

เหล่าพี่ชายไม่สบายใจ เธอก็ไม่สามารถที่จะบังคับเธอได้ จากนั้นก็ต่างพากันหันหลังกลับไปมองพี่ใหญ่ที่กำลังเดินเข้ามา

ลั่วจวินหัง: "วางไว้นี่แหละ เดี๋ยวฉันเฝ้าเธอกินเอง"

จากนั้นก็โบกมือเล็กน้อย ไป๋ลู่ยวี๋กับคนอื่น ๆ มองมาที่หนานซ่งด้วยสายตาเป็นห่วง จากนั้นก็พากันออกไป

หัวใจของหลาย ๆ คนก็รู้สึกหนักอึ้งเช่นเดียวกัน

การจากไปของยวี่จิ้นเหวิน ทำให้หนานซ่งนั้นดูเหมือนกับหุ่นยนต์ที่ถ่านหมด พระอาทิตย์ของพวกเขาหมองเศร้า ภายในบ้านก็เลยดูเศร้าหมอง มีความรู้สึกอึดอัดบางอย่างที่ไม่รู้จะอธิบายออกมายังไง

ทุกสิ่ง ย้อนกลับไปเป็นเหมือนเมื่อสามปีครึ่งที่ผ่านมา ในตอนที่พ่อกับแม่เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถ

เป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ดวงตาของหนานซ่งนั้นแดงก่ำ แล้วก็ปูดบวม

ความตาย กลายเป็นภูเขาก้อนโตที่ไม่สามารถก้าวผ่านไปได้ในจิตใจของเธอ และทำให้หัวใจที่เคยสดใสของเธอ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชา

พวกเขารู้ดี ในชีวิตของน้องสาว ยวี่จิ้นเหวินอยู่ในฐานะอะไร

พวกเขาจำได้ตลอดว่า ในตอนที่หนานซ่งพูดถึงยวี่จิ้นเหวินนั้นเธอดูตื่นเต้นและสดใสขนาดไหน ราวกับว่าเขาก็คือความฝันของเธอ เป็นแสงไฟในชีวิตของเธอ

เธอรีบลุกขึ้นยืน แล้วก็เอามือปิดปากของตัวเองเอาไว้ แล้วพุ่งตัวเข้าไปในห้องน้ำทันที จากนั้นก็อ้วกออกมา

แม้แต่เหล้าที่เธอดื่มเข้าไปก็ถูกขับออกมาหมด เธอไม่ได้กินอะไรเข้าไป ดังนั้นก็เลยไม่มีอะไรให้อ้วกออกมา ที่ถูกขับออกมามีแค่เพียงน้ำย่อยเปรี้ยว ๆ จนตัวเธอนั้นเกือบจะอ้วกน้ำดีออกมาแล้วด้วยซ้ำ

มือใหญ่ลูบหลังเธอเบา ๆ จากนั้นลั่วจวินหังก็ส่งแก้วน้ำมาให้เธอบ้วนปาก

หลังจากที่อ้วกออกมาแล้ว เธอก็เหมือนจะมีสติมากขึ้น แต่ว่าสีหน้าเธอนั้นดูย่ำแย่มาก

"พี่ใหญ่" หนานซ่งเรียกเขาเบา ๆ ใบหน้าซีดเซียวยกยิ้มไร้เรี่ยวแรง "ฉันนึกว่า ฉันกำลังฝันไป ตอนนี้ตื่นขึ้นมาแล้ว ถึงได้รู้ว่า เขาตายแล้วจริง ๆ "

จากเธอไปแล้วแบบไม่มีวันกลับมา

หัวใจของลั่วจวินหังเจ็บปวด แต่ว่าใบหน้าของเขายังแสดงสีหน้าที่เรียบนิ่ง "การจากไป บางทีอาจจะไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่ว่าแทนที่จะปล่อยให้พวกเธอทั้งสองคนนั้นทำร้ายกันไปมา ไม่สู้บอกลากันด้วยวิธีแบบนี้หรอก"

"แต่ว่า เขาไม่ได้พูดลาฉันสักคำ"

เสียงของหนานซ่งเบาและไร้น้ำหนัก เธอราวกับคนที่ป่วยเป็นโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษาและต้องนอนรอวันตาย ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง "นี่เป็นการบอกลารูปแบบไหนกัน?"

ลั่วจวินหังเงียบไปครู่ใหญ่ เขาไม่พูดอะไรออกมา

หลังนั้น ถึงได้ค่อย ๆ ว่าออกมาช้า ๆ : "บางทีการบอกลา อาจจะทำให้ได้กลับไปคิดถึงบ้าง ตอนที่พี่สะใภ้ของเธอจากไป เธอยิ้มแล้วก็บอกลาพี่ เธอบอกว่า เธอไม่โทษพี่"

หัวคิ้วของลั่วจวินหัวขมวดเข้าหากันเล็กน้อย มือที่คีบบุหรี่เอาไว้สั่นเทา "แต่ว่าพี่ ไม่มีวันไหนเลยที่ไม่โทษตัวเอง"

หนานซ่งเงยหน้ามองลั่วจวินหัง เพราะว่าประโยคนี้ของเขา น้ำตาของเธอต่างก็พากันไหลออกมา

ฝนที่ตกอยู่ด้านนอก ยังคงตกอยู่เหมือนเดิม มันสาดกระทบกับหน้าต่าง ราวกับกำลังสาดเข้ามาในหัวใจของใครที่เจ็บปวด

"ในท้ายที่สุดแล้วพวกเราก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อไป เพราะว่ายังมีครอบครัวที่รักเรา แล้วก็ยังมีความรับผิดชอบอีกมากมายที่คอยเราอยู่"

ลั่วจวินหังยื่นมือของไปบีบไหล่ของหนานซ่ง และไม่ได้ทำเหมือนว่าเธอนั้นเป็นเด็กน้อยอีกแล้ว แต่มองว่าเธอเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง "เวลาจะช่วยเยียวยาทุกสิ่ง สิ่งที่พวกเราต้องทำคือการเดินไปข้างหน้า แล้วก็อย่าหันกลับไปอีก"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา