วันที่ต้องฝังศพยวี่จิ้นเหวิน เป็นวันที่ฝนตก
ฝน ตกลงมาตั้งแต่เช้า แถมยังตกไม่หยุด
นายท่านยวี่ที่ทำตัวติดดินมาครึ่งค่อนชีวิต ครั้งนี้ ได้ทำการแหกกฎของตัวเอง เพื่อจัดงานศพที่ยิ่งใหญ่ให้กับหลานชายคนเดียวของตน
งานศพถูกจัดขึ้นที่เมืองเป่ย พนักงานจำนวนสามหมื่นกว่าคนของบริษัทตระกูลยวี่ต่างอยู่ในความสงบ ผู้ที่ร่วมลงทุนด้วยกัน เพื่อนสนิท ต่างก็หลั่งไหลกันเข้ามาวางดอกไม้ พวงหรีด และบทกลอนไว้อาลัย
ร่มสีดำ รถสีดำ แน่นขนัดอยู่ในสุสานตระกูลยวี่
สำนักข่าวจำนวนมากหลบอยู่ภายใต้ร่มกันฝน ใช้กล้องวิดีโอบันทึกภาพงานศพ มองเถ้าแก่ คนใหญ่คนโตสวมสูทสีดำอย่างดี ทยอยกันเข้ามาร่วมงาน ได้แต่แอบพูดกับตัวเองในใจ นี่ไม่ใช่งานศพใหญ่ ๆ ทั่ว ๆ ไป
"ถึงแม้ว่างานศพจะถูกจัดขึ้นแค่รูปแบบเดียว แต่ว่าเกิดเป็นคน แล้วได้อะไรขนาดนี้ ก็ถือว่าคุ้มแล้วล่ะ"
ช่างภาพคนหนึ่งอดที่จะพูดออกมาไม่ได้: "ฉันรู้สึกว่าตอนที่ฉันตาย แม้แต่รถที่มาร่วมงานยังไม่น่าจะรวมเป็นขบวนได้เลยมั้ง ถ้าเกิดวันไหนฉันตายไป พวกแกต้องมาร่วมงานศพของฉันด้วยนะ"
"จิ๊ ๆ ๆ มีใครเขาแช่งตัวเองกันแบบนี้บ้าง?"
นักข่าวอีกคนถลึงตาใส่เขา "อีกอย่างนะ ประธานยวี่จากไปมีเกียรติขนาดไหน ขนาดพวกเบื้องบนยังแถลงข่าวไว้อาลัยให้เขา งานขนาดนี้ก็เหมาะสมแล้ว ฉันยังนับถือเขาเลย"
"เฮ้อ ถ้าเกิดว่าฉันมีเงินเยอะแยะแบบเขา ฉันจะไม่รีบตายเป็นอันขาด จะต้องไปกินเที่ยวใช้ชีวิตสุขสบายตามใจตัวเอง"
"ใช่ พวกแกว่า ประธานยวี่ยังไม่แต่งงาน ไม่มีลูก อย่างนั้นทรัพย์สมบัติมากมายขนาดนั้นใครจะมาเป็นผู้สืบทอดต่อล่ะ?"
"เขาจะไม่แต่งงานได้ยังไง? เคยแต่งมาตั้งครึ่งหนึ่งแล้ว! หลังจากนั้นก็แต่งอีกรอบ แต่ว่าเหมือนงานวันนั้นเจ้าสาวจะถูกเปิดโปงเรื่องพฤติกรรมที่ไม่บริสุทธิ์ใจ ก็เลยไม่ได้ดำเนินจนจบพิธี หลังจากนั้นก็ไม่ได้ข่าวอะไรแล้ว"
"โจ๋เซวียนก็แค่มือที่สามไม่ใช่เหรอ เธอบีบบังคับให้ภรรยาเก่าของเขาหย่า แล้วตัวเองก็พยายามมาแทนที่แต่ทำไม่สำเร็จไง แต่ทำไมฉันถึงได้ข่าวมาว่าประธานยวี่กลับไปหาภรรยาเก่าล่ะ?"
"ภรรยาเก่าของประธานยวี่เป็นแค่สาวบ้านนอกไม่ใช่เหรอ คนมันคนละชนชั้นกัน ให้กลับมาคบกันก็คงไม่ง่ายนักหรอก แต่ฉันน่ะได้ยินมาว่าครึ่งปีมานี้ประธานยวี่เทียวไปเทียวมาเมืองหนานอยู่นี่ เห็นว่ากำลังพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกสาวคนโตของตระกูลหนาน......"
"ไม่ใช่แค่เท่านี้นะ ฉันเคยเห็นกับตาตัวเองเลยด้วย ตอนที่ฟาร์มม้าเป่ยเจียวที่เมืองหนานเปิดให้บริการ ฉันไปทำข่าวที่นั่นมา ความสัมพันธ์ของประธานยวี่กับประธานหนานดูจะไม่ธรรมดาด้วย"
ดังนั้นปัญหาได้เกิดขึ้นแล้ว คนที่ควรจะมาก็มากันหมดแล้ว แล้วคุณหนูใหญ่ตระกูลหนานคนนั้น จะมาหรือเปล่านะ?
ยังไม่ทันจะได้เห็นเงาของประธานบริษัทตระกูลหนาน ก็ดันไปเห็นคนสองคนเสียก่อน มีนักข่าวตะโกนขึ้น "นี่ นั่นมันพิธีกรของหวนย่าไถ โจ๋เยว่กับโจ๋เซวียนใช่ไหม?"
เลนส์กล้องเปลี่ยนทิศทางในทันที หลังจากนั้นเลนส์ก็ทำการซูมไปที่สองคนนั้น
โจ๋เยว่กับโจ๋เซวียนสวมชุดสีดำ ถึงแม้ว่าจะเป็นวันที่ฝนกำลังตก แต่ว่าการแต่งกายของพวกเธอทั้งสองคนนั้นก็ยังคงดูสะอาดและเรียบร้อย มองแล้วดูสวยงามเป็นอย่างมาก
โจ่เซวียนร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด น้ำตาไหลอาบ ได้เห็นแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วย โจ๋เยว่นั้นประคองตัวของเธอไว้แล้วพาเดินเข้าไปด้านใน
เพราะว่าเสียงร้องไห้ที่ไม่ได้กักเก็บเอาไว้เลยของเธอ ทำให้คนจำนวนมากค่อย ๆ หันมามอง
เฉียวเหลิ่งตายไปแล้ว ยวี่จิ้นเหวินก็ตายตามไปด้วย
ตอนที่โจ๋เซวียนได้ยิน เธอรับไม่ได้มาก ๆ รู้สึกว่าพระเจ้ากำลังกลั่นแกล้งเธออยู่
จะเป็นไปได้ยังไงกัน?
เฉียวเหลิ่งวางแผนเอาไว้ว่าจะหายตัวไประหว่างทางที่ไปประเทศTไม่ใช่หรือไง และเพื่อการนี้ก็เลยพาเธอไป 'แนะนำ' ให้หวังผิงรู้จัก มิเช่นนั้นเธอก็คงจะไม่มีทางโชคร้ายไปอยู่ในกำมือเฮ่อเสี่ยวเหวินหรอก
เธอตบจนเธอฟันร่วงไปซี่หนึ่ง จนหน้าบวมช้ำ
เธอยอมเสียสละไปตั้งมากมายขนาดนี้ เพราะต้องรอให้เฉียวเหลิ่งหนีไปได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่ตั้งรกรากได้แล้วก็ค่อยกลับมารับเธอ และนั่นก็ไม่ใช่เพียงทางออกเดียวของเธอ
แต่ว่า เขากลับตายไปเสียได้?!
และเรื่องที่ทำให้เธอรับไม่ได้มากกว่านั้นอีกก็คือ ยวี่จิ้นเหวินเองก็ตายแล้วเหมือนกัน!
คนคนนั้นที่เคยรักเธอ คนที่ดีกับเธอจริง ๆ เธอนั้นเกือบจะได้เป็นภรรยาของผู้ชายคนนี้ อยู่ ๆ ก็ตายไปเสียอย่างนั้น?
ที่จริง เธอเคยคิดและไม่ใช่แค่ครั้งเดียว ว่ายวี่จิ้นเหวินนั้นรักเธอจริงหรือไม่?
วินาทีนั้น โจ๋เยว่กลับรู้สึกว่าสะใจที่สุด สะใจจนแทบอยากจะเงยหน้าหัวเราะออกมาดัง ๆ
ยวี่เฟิ่งเจียวเอ๋ยยวี่เฟิ่งเจียว ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องมานั่งจัดงานศพให้กับลูกชายตัวเอง?
หย่ากับสามี ไม่มีลูก แก่ขนาดนี้มีแค่ตัวกับขาพิการอีกสองข้าง จิ๊ ๆ น่าสงสารจริง ๆ เลยนะ
เธออดไม่ได้ที่จะลูบท้องของตัวเอง คิด ว่าเด็กคนนี้ มาได้ถูกเวลาเสียจริง
ใบหน้าของเธอยังคงแสดงสีหน้าเศร้าสลดเสียใจออกมา "พี่เจียว เสียใจด้วยนะคะ ไม่ว่ายังไง พี่จะต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะคะ ฉันเชื่อว่าอาจิ้นที่อยู่บนฟ้า จะต้องอยากให้แม่ดูแลตัวเองดี ๆ "
ยวี่เฟิ่งเจียวไม่ได้สนใจเธอ แล้วทำเหมือนกับว่าไม่มีเธออยู่ตรงนั้น
เธอนั้นทำสงครามกับโจ๋เยว่มาครึ่งชีวิตแล้ว เธอรู้สึกว่าตัวเองพอแล้ว เธอไม่อยากจะทะเลาะกับหล่อนต่อหน้าลูกชายแม้กระทั่งในตอนสุดท้ายของชีวิตเขา
"เธอมาได้ยังไง?" เสิ่นหลิวซูมองโจ๋เยว่แล้วขมวดคิ้ว
โจ๋เยว่ยกยิ้มแล้วหันไปทางเสิ่นหลิวซู มองใบหน้าเขาที่ดูเหมือนว่าจะดูแก่ขึ้นเช่นกัน จากนั้นก็ยกมือขึ้นไปลูบหน้าเขา "อาซู อย่าเสียใจให้มากนักเลยนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณเอง"
เสิ่นหลิวซูมองใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของยวี่เฟิ่งเจียว จากนั้นก็จับมือของโจ๋เยว่ออกไป แล้วขมวดคิ้วพร้อมพูดขึ้น: "คุณรีบพาโจ๋เซวียนกลับไปก่อน ออกไปจากที่นี่"
แน่นอนว่าโจ๋เยว่ไม่มีทางไป เธอพูดออกมาอย่างเศร้า ๆ : "อาจิ้นไม่มีผู้หญิงคนอื่นอีกแล้ว ยังไงเขากับโจ๋เซวียนก็เคยคบกันมาก่อน ให้เซวียนเอ๋อร์ได้มาร้องไห้ร่ำลาเขาหน่อยเถอะ"
นายท่านยวี่กับนายหญิงยวี่ขมวดคิ้วพร้อมกัน ได้ยินเสียงร้องของโจ๋เยว่จนรู้สึกรำคาญ สะอิดสะเอียน อยากให้ใครสักคนมาพาตัวโจ๋เยว่ออกไป แต่ว่าต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้ ก็ไม่กล้าทำอะไรที่มันดูไม่ดีนัก
และในตอนนี้เอง บอดี้การ์ดสองคนก็เข้ามา จากนั้นก็ดึงตัวของโจ๋เซวียนขึ้น
วันฟ้าหม่น ที่เคล้าไปด้วยเสียงร้องไห้ของผู้คน "พาเธอไปให้ไกลจากที่นี่ อย่าให้น้ำตาของเธอทำให้ที่นี่สกปรกแปดปื้นไปด้วย"
นักข่าวต่างก็หมุนเลนส์กล้องไปอีกทางในทันที ก็เห็นแค่ร่มคันสีดำ แล้วก็เงาของร่างกายผอมเพรียว ที่สวมชุดสูททางการสีดำเอาไว้
คุณหนูใหญ่ตระกูลหนานมาจริง ๆ ด้วย?!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...