หลังจากที่ได้อาบน้ำอุ่น ก็เหมือนได้ชำระล้างความเหนื่อยล้าออกไปด้วย รูขุมขนบนตัวของเธอเปิดกว้าง
หนานซ่งเช็ดผมไปด้วยระหว่างที่เดินออกมาจากห้องน้ำ ปากของเธอยังฮัมเพลงแต่ไม่ตรงคีย์ ส่วนตัวเธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นร้องได้ดีพอสมควร ก็เลยหลงอยู่ในดนตรีของตัวเอง
"ที่ภูเขาลูกนั้น ที่ผืนน้ำที่กว้างใหญ่ มีจิตวิญญาณที่สดใส พวกเขาแข็งแกร่งและฉลาด พวกเขาเล่นซนและรวดเร็ว......"
และในตอนที่กำลังร้องเพลงอยู่ พี่ใหญ่ก็โทรมา
พอกดรับสายแล้ว น้ำเสียงไร้อารมณ์ของลั่วจวินหังก็ดังขึ้น "คนอื่นเขาร้องเพลงเพราะอยากได้เงิน เธอร้องเพลงเพราะอยากฆ่าคน"
"อะไร พี่แอบดูวิดีโอเหรอ?"
"......"
ดูคลิปผีน่ะสิไม่ว่า
ลั่วจวินหังนวดขมับของตัวเอง จากนั้นก็มองไปทางเหยียนยวน พูดออกมาแบบไม่กลัวจะทำร้ายจิตใจน้องสาวของตัวเองด้วย "เสียงร้องเพลงของเธอ เกือบจะฆ่าเหยียนยวนไปแล้ว"
"หา? ร้ายแรงขนาดนั้นเลย?"
หนานซ่งหยุดเช็ดผมในทันที "อย่างนั้นเขา......ยังมีชีวิตอยู่ไหม?"
"ตอนนี้ยังคงอยู่บนโลก"
ถึงแม้ว่าภาษาจีนของลั่วจวินหังจะไม่ดีมากนัก แต่ว่าเขาชอบพูดให้คำคล้องจอง เพราะรู้สึกว่ามันดูสุขุมดี "ก็แค่มีขยับนิ้วบ้าง"
หนานซ่งถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็เช็ดผมต่อ "อย่างนั้นก็ดีแล้ว"
ลองคิด ๆ เธอก็พูดขึ้น: "ไม่อย่างนั้น ให้ฉันร้องให้เขาฟังอีกสักเพลงดีไหม? หนามยอกต้องเอาหนามบ่งไง?"
"อย่าเลยเถอะ"
ลั่วจวินหังตอบโดยไม่แม้แต่จะหยุดคิด เขาปฏิเสธออกมาในทันที "ฉันกลัวเขาไม่ทันฟื้น ฉันก็ตายไปก่อนแล้ว"
"......"
หนานซ่งโดนพี่ใหญ่พูดหยอกจนอารมณ์ดี "ฉันร้องแย่ขนาดนั้นเลยหรือไง?"
ลั่วจวินหังหัวเราะ "ใช่"
ก็ได้ คุณมันเป็นพี่ใหญ่ คุณพูดว่าใช่ อย่างนั้นก็ใช่ก็ได้
แต่ยังไงก็ห้ามความชอบในการร้องเพลงของเธอไม่ได้อยู่ดี
หนานซ่งทำเสียง "หึ"
เธอมัดผมของตัวเองขึ้น จากนั้นก็วางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็เปิดลำโพง ระหว่างนั้นก็เธอเซรั่มไปด้วยแล้วก็คุยกับพี่ใหญ่ไปด้วย
"นิ้วมีการขยับบ้างเล็กน้อย หมายความว่าร่างกายของเขายังรู้สึกตัว ดูเหมือนว่าเขาใกล้จะฟื้นแล้ว ไม่ต้องกังวลหรอก"
ลั่วจวินหัง: "อืม"
หนานซ่งพูดต่อ: "ถ้าว่างก็คุยกับเขาเยอะ ๆ หน่อย ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียงดังจนทำให้เขาตื่น ขอแค่ไม่ใช่เสียงที่ดังมาก ๆ ก็ไม่มีทางทำให้เขาตกใจตื่นได้ กัปตันเหยียนยวนไม่ใช่คนขี้กลัว"
"ขี้กลัวจะตาย" ลั่วจวินหังพูด
หนานซ่ง: "หืม?"
เธอได้ยินไม่ชัด ก็เลยหยุดทุกการกระทำของตัวเอง
ลั่วจวินหังบอก: "เขากลัวแมลง"
หนานซ่งชะงักไป ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ "กัปตันเหยียนยวน กลัวแมลง?"
"อืม"
ลั่วจวินหังวางโทรศัพท์เอาไว้บนเตียง ก็เลยตัดสินใจเปิดลำโพงด้วยเหมือนกัน ทำการนินทาคนนั้นต่อหน้าเขาเลย "แมลงทุกชนิด เขากลัวหมด"
"นึกไม่ถึงเลยนะเนี่ย ว่ากัปตันเหยียนยวนกลัวแมลง"
หนานซ่งนึกถึงใบหน้าที่นิ่งและสุขุมของเหยียนยวน ไหนจะส่วนสูงที่แทบจะเสียดฟ้านั่นของเขา คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเขาจะกลัวแมลงจนกระโดดตัวโยน
"อย่างนั้น แต่ก่อนที่พวกพี่ไปออกค่ายในป่าทำยังไงกันล่ะ?"
หนานซ่งถามอย่างสนใจ "สิ่งที่ในป่าต้องมีแน่ ๆ คือแมลงนี่ อย่างนั้นเขาไม่กลัวจนหัวใจวายตายไปเลยเหรอ"
ลั่วจวินหัง: "ปกติเขาก็แค่ขุดหลุม แล้วก็มุดตัวเข้าไปในนั้น"
พี่ใหญ่พูดออกมาด้วยจังหวะเอื่อย ๆ แต่กลับมีน้ำเสียงเย็นชา ทำให้หนานซ่งรู้สึกตลกจนต้องหัวเราะออกมา จนความเครียดที่เธอมีนั้นค่อย ๆ สลายไป
รอบตัวพี่ชายและน้องสาวไม่มีใครอยู่ด้วย ก็เลยมีการถามไปตอบมาและไม่ตอบบ้างในบางคำถาม
ลั่วจวินหัวถามเธอ "วันนี้เป็นยังไงบ้าง? โดนใครเบ่งใส่บ้างไหม?"
"นี่คุณจวินหังรู้จักคำว่าเบ่งด้วยเหรอคะเนี่ย"
หนานซ่งรู้สึกว่าภาษาจีนของพี่ใหญ่นั้นดูจะเก่งขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว คำพูดที่คนใช้กันบ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันหลุดออกมาจากปากเขาจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
"ฉันใคร ฉันเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลหนานเชียวนะ ถ้าฉันไปข่มขู่เขาน่ะสิถึงจะใช่"
หนานซ่งเช็ดผมของตัวเองต่อ จากนั้นก็พูดขึ้น: "วันนี้ในที่ประชุมใหญ่ ฉันน่ะจัดการได้อยู่หมัดเลยนะ"
เหยียนยวนขยับริมฝีปากขาวซีด จากนั้นก็หัวเราะแบบไร้เสียง
ซูรุ่ยเข้าใจได้ในทันที: "ฉันก็ว่าทำไมอยู่ ๆ เขาถึงฟื้นขึ้นมาได้ ที่แท้ก็เพราะตกใจตื่นนี่เอง"
เหล่าพี่ชายหัวเราะออกมาเสียงดัง ไป๋ลู่ยวี๋หัวเราะจนโทรศัพท์เกือบจะหลุดออกจากมือ
หนานซ่งทำหน้าโมโหในทันที
เธอขี้เกียจจะสนใจพวกพี่ชายที่ไม่เอาถ่านพวกนี้ จากนั้นก็พูดเหยียนยวน: "เสียงของฉันมีแค่กัปตันเหยียนนี่แหละที่จะได้ฟัง เดี๋ยวฉันจะร้องให้คุณฟังอีกนะ คุณดูแลตัวเองดี ๆ นะ เดี๋ยวมีเวลาว่างฉันจะกลับไปเยี่ยมคุณ"
เหยียนยวนพยักหน้าเบา ๆ
คุยกันมาครู่ใหญ่ เหยียนยวนเองก็เริ่มเหนื่อยแล้ว
จี้อวิ๋นบอกแล้วว่าผู้ป่วยจะต้องพักผ่อนเยอะ ๆ ก็เลยรีบไล่ให้ทุกคนออกไปจากห้อง ไป๋ลู่ยวี๋เองก็วางสายแล้วเหมือนกัน
แต่หนานซ่งกลับยืนนิ่งอยู่ข้างโซฟา ไม่ขยับตัวไปไหนอยู่ครู่ใหญ่ สายตาของเธอมองไปที่จุดจุดหนึ่ง เหมือนคนเหม่อลอย
จนกระทั่งไป๋ลู่ยวี๋ดีดนิ้วตรงหน้าเธอ "เหม่ออะไรน่ะ?"
หนานซ่งได้สติกลับมา เธอมีท่าทีตกใจอยู่เล็กน้อย
ไป๋ลู่ยวี๋มองสีหน้าของเธอ "คิดถึงไอ้ยวี่อีกแล้วเหรอ?"
หนานซ่งเม้มริมฝีปาก ไม่พูดอะไรออกมา จากนั้นเปลี่ยนจากรองเท้าส้นสูงเป็นสลิปเปอร์ แล้วเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นก็หันไปพูดกับไป๋ลู่ยวี๋: "อยู่ที่นี่ไปก็เบื่อ นายกลับไปที่เมืองหนานเถอะ งานของฉันไม่เสร็จเร็ว ๆ นี้หรอก"
เธอเพิ่งจะมาที่บริษัทยวี่กรุ๊ป มีเรื่องมากมายให้จัดการ จนตัวเธอนั้นเหนื่อยจนตัวแทบจะขาดเป็นสองท่อน
"ไม่ต้องกลับไปแล้ว"
ไป๋ลู่ยวี๋บอกออกมา: "พี่ใหญ่รอดูอาการของพี่เหยียนอีกสักสองสามวัน ถ้าเกิดอาการคงที่แล้วพี่ใหญ่จะย้ายเขาไปโรงพยาบาลอื่น"
หนานซ่งเงยหน้าขึ้นไปมอง "ย้ายโรงพยาบาล?"
"ใช่ ย้ายมาเมืองเป่ย"
ไป๋ลู่ยวี๋บอก: "พี่รุ่ยบอกว่าเรื่องกายภาพบำบัดหลังจากนี้ เปลี่ยนมารักษาที่คลินิกแพทย์แผนจีนซูฉือที่เมืองเป่ยดีกว่า อุปกรณ์การแพทย์ของที่นี่ครบกว่า ตอนที่พี่เขาไม่มีเวลา พวกอวิ๋นชิงจะได้มาช่วยดูแลด้วย"
หนานซ่งพยักหน้า ถึงตอนนั้นเธออาจจะได้หาเวลาไปเยี่ยมเขาสักหน่อย
"น้องหก"
อยู่ ๆ ไป๋ลู่ยวี๋พูดออกมา หนานซ่งเงยหน้าขึ้น "ทำไมเหรอ?"
"เธอน่ะ ยังรับเรื่องที่ยวี่จิ้นเหวินจากไปแล้วไม่ได้ใช่ไหม?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...