หนานซ่งนิ่งไป เธอจ้องอยู่ที่พี่เล็กครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาในลำคอ
"นายนี่มันน่ารำคาญจริง ๆ "
เธอก้มหน้าทำงานต่อ ไม่อยากจะคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
"ฉันรู้ เรื่องไหนไม่ควรพูดแต่ก็ยังจะพูด"
ไป๋ลู่ยวี๋เก็บโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินไปทางหนานซ่ง แล้วก็พิงตัวเข้ากับโต๊ะทำงานของเธอ แล้วเหล่ตามองน้องสาว "ฉันก็แค่หวังว่า จะมองเห็นว่าเธอไม่มีปฏิกิริยาอะไรหลงเหลืออยู่เมื่อฉันพูดถึงเขา อย่างนั้นหมายความว่าเธอปล่อยวางได้แล้ว"
ปล่อยวาง
เธอนึกว่าตัวเองปล่อยวางได้แล้วเสียอีก แต่ว่าพูดง่าย แต่พอได้ทำจริง ยากมาก
"ไม่ว่าจะรับได้หรือไม่ได้ ปล่อยวางได้หรือไม่ แต่เขาไม่อยู่แล้ว นี่คือเรื่องจริง"
หนานซ่งพูดขึ้นเบา ๆ : "ฉันก็แค่รู้สึกว่า เขาไม่ควรจะตายไปทั้งอย่างนี้ มันง่ายเกินไป แล้วมันก็ดูไม่มีความรับผิดชอบด้วย"
"ใครว่าไม่ใช่ล่ะ แต่ว่า เรื่องบางเรื่องมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรานี่ บอกได้แค่ว่าชีวิตเรามันสั้น รีบ ๆ เก็บความสุขเอาไว้ให้มาก ๆ เถอะ"
ไป๋ลู่ยวี๋ถอนหายใจเบา ๆ "เอาเถอะ เธอทำงานของเธอไปเถอะ ฉันขอไปดูเจ้าหนูเจียหางกับเจ๋ออวี่สองคนนั้นหน่อย สงสัยคงจะแอบนั่งร้องไห้อยู่ในซอกแน่ ๆ "
ชีวิตของคนคนหนึ่งมันสั้น ตอนเด็กคิดว่าไม่มีอะไรที่ตัวเองทำไม่ได้ พอโตขึ้นถึงได้รู้ว่า ความสามารถของคนเรานั้นมันมีขีดจำกัด
ทำเรื่องที่ถูกจำกัดในชีวิตที่มีขีดจำกัด ใช้ชีวิตให้เท่ ๆ สบาย ๆ ตามใจตัวเอง จะได้ไม่ต้องเสียเปล่า
ส่วนเรื่องเสียใจภายหลัง มีใครคนไหนบ้างที่ไม่เคยเสียใจเลย?
หนานซ่งจ้องไปที่ปฏิทินอยู่นาน
เพิ่งจะผ่านงานศพของยวี่จิ้นเหวินไปได้สองอาทิตย์เอง แต่เธอรู้สึกว่ามันนานราวกับครึ่งชีวิต
กำลังจะถึงวันชาติจีนแล้ว เร็วจริง ๆ
-
ตั้งแต่ที่หนานซ่งเข้ามาในบริษัทยวี่กรุ๊ป ไม่ต่างอะไรกับการทำงานไปแล้วก็เลี้ยงเด็กไปด้วย
ที่จริง เธอไม่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงเด็กมาก่อน ในฐานะน้องเล็กของบ้าน เธอมักจะมีเหล่าพี่ชายคอยพาไปเล่นด้วยเสมอ แต่ว่าเพราะได้เลี้ยงซูยินกับหนานหยาบ้าง เธอก็เลยพอจะมีประสบการณ์อยู่นิดหน่อย
ตามใจเกินไปไม่ได้ แล้วก็เอาใจเกินไปไม่ได้ ต้องดุด้วยแล้วก็ต้องใจดีไปด้วยในเวลาเดียวกัน สรุปง่าย ๆ ก็คือถ้าตีหนึ่งครั้งก็ต้องให้ลูกอมด้วยหนึ่งเม็ด
ยวี่เจียหางกับยวี่เจ๋ออวี่ถือว่าเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายพอสมควร อย่างน้อยต่อหน้าเธอก็เป็นแบบนั้น
แต่ว่าตามนิสัยวัยรุ่น อยากทำเรื่องอะไรก็ต้องได้ทำไม่ค่อยมีความอดทน
ในทุก ๆ วัน เธอจะสั่งให้พวกเขาเขียนสรุปการทำงานออกมา แต่ว่าไม่ได้ตรวจทุกวัน นึกขึ้นได้เมื่อไหร่ถึงจะขอมาตรวจ
และวันนี้ก็บังเอิญนึกได้พอดี เพราะอย่างนั้นยวี่เจียหางก็เลยลนขึ้นมา ค่อย ๆ เอาสมุดบันทึกออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
หนานซ่งเปิดดูผ่าน ๆ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยท่าทีนิ่ง ๆ : "เมื่อวานไม่ได้เขียนเหรอ?"
"......ครับ"
ยวี่เจียหางอธิบายออกมาอย่างติด ๆ ขัด ๆ "เมื่อวาน กลับบ้านดึกครับ พอดีว่าออกไปด...ดื่ม กับพวกพี่...พี่ แล้วก็พะ..เพื่อน ๆ มา เลยมะ...เมา ก็เลยละ...ลืมครับ"
"ลืมแล้วก็ไม่เป็นไร ก็ไปเขียนเพิ่มมา"
หนานซ่งยังคงมีสีหน้าเรียบนิ่ง
ยวี่เจียหางรีบพูดขึ้น: "ผมจะเขียนเดี๋ยวนี้เลยครับ!"
เขานึกว่าตัวเองนั้นรอดตายแล้ว ทว่า วินาทีถัดไป หนานซ่งก็เอาไม้บรรทัดออกมาจากลิ้นชัก จากนั้นก็พูดออกมาอย่างน่ากลัว "ยื่นมือมา"
"........"
ยวี่เจียหางทำหน้าเศร้า "พี่หนาน ผมผิดไปแล้ว"
"รู้ว่าผิดก็ต้องยอมรับผิด ยื่นมือออกมา" หนานซ่งยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์
ยวี่เจียหางยื่นมือออกไปอย่างยอมรับในโชคชะตา จากนั้นก็โดนไม้บรรทัดตีลงไปบนมือ หลังจากที่ถูกตีแล้ว ก็นั่งเขียนสรุปการทำงานของเขาอยู่บนโต๊ะน้ำชา
เพิ่งจะจัดการเรื่องนี้เสร็จ อีกเรื่องหนึ่งก็เข้ามาติด ๆ
ผู้ช่วยของฝ่ายธุรการเคาะประตูห้องทำงานของเธออย่างรีบร้อน "ประธานหนาน แย่แล้วค่ะ คุณชายอวี่กำลังต่อยกับผู้อำนวยการหวังจากฝ่ายการตลาดอยู่ข้างล่างค่ะ"
ตอนที่หนานซ่งลงมาด้านล่าง ฝ่ายการตลาดนั้นวุ่นวายไปหมด ยวี่เจ๋ออวี่กับผู้อำนวยการหวงกำลังสู้กันอยู่ตรงกลาง กระชากกันไปกระชากกันมาจนแว่นตาที่อยู่บนดั้งจมูกของผู้อำนวยการหวงกระเด็นออกไป
ยวี่เจ๋ออวี่ชี้หน้าผู้อำนวยการหวง ด้วยสีหน้าไม่ยอมรับ "ให้ผมขอโทษเขา?"
"จะให้ฉันพูดครั้งที่สามเหรอ?" หนานซ่งเสียงขรึม
หลู่เหิงยืนอยู่ทางด้านหลังของเธอ จากนั้นก็ส่งสายตาให้กับยวี่เจ๋ออวี่ ยวี่เจ๋ออวี่อดทน เขาเม้มริมฝีปาก จากนั้นก็หันหน้าไปหาคนสกุลหวง "ขอโทษ"
หนานซ่งดึงให้ยวี่เจ๋ออวี่มาอยู่ด้านหลังตัวเอง จากนั้นก็หันไปพูดกับผู้อำนวยการหวง: "ผู้อำนวยการหวง วันนี้ฉันดูแลคนใต้บังคับบัญชาของตัวเองได้ไม่ดี ฉันต้องขอโทษคุณด้วยนะคะ เรื่องค่ารักษาพยาบาลฉันจะเป็นคนจ่ายให้ ดำเนินเรื่องกับทางบริษัทได้เลย"
ผู้อำนวยการหวงมองหนานซ่งด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ ริมฝีปากของเขายกยิ้มเล็กน้อย "ประธานหนานเกรงใจไปแล้วครับ"
"ไม่เป็นไร"
หนานซ่งกวาดตามองไปรอบ ๆ "แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว"
เธอหมุนตัวไปจ้องหลู่เหิงกับยวี่เจ๋ออวี่
"พวกเธอทั้งสองคน ตามฉันมาที่ห้องทำงาน"
หลังจากที่เข้าไปในห้องทำงาน หนานซ่งสั่งพวกเขาโดยไม่ได้หันหน้ากลับไปมองด้วยซ้ำ: "ปิดประตู ว่ามาสิ เกิดอะไรขึ้น?"
หลู่เหิงปิดประตู ยวี่เจ๋ออวี่พูดออกมาอย่างหงุดหงิด: "ไอ้คนสกุลหวงเขา......"
หลังจากที่พูดออกไป เขากลับไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็ก้มหน้าลงไป
ยวี่เจียหางยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะน้ำชา เมื่อกี้เขาอยากตามไปด้วย แต่หนานซ่งห้าม เขาก็เลยไม่กล้าไปไหน
ยวี่เจ๋ออวี่ไม่พูดอะไรต่อ หลู่เหิงก็เลยต้องพูด: "ตอนที่พวกเรากำลังเข้าห้องน้ำกันอยู่ ได้ยินผู้อำนวยการหวงนินทาคุณกับคนอื่น ๆ ในห้องน้ำครับ เขาว่าคุณเสีย ๆ หาย ๆ คุณชายอวี่ก็เลยโมโหจนทนไม่ไหว ก็เลยเกิดเรื่องชกต่อยกับเขาขึ้นมา"
"พวกเขาก็เลยทะเลาะกันมาตั้งแต่หน้าห้องน้ำจนถึงฝ่ายการตลาด มีแรงในการทำสงครามเยอะเชียวนะ"
หนานซ่งพูดล้อออกมาเล็กน้อย จากนั้นก็ถามของมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง "เขาพูดอะไรบ้าง?"
หลู่เหิงกับยวี่เจ๋ออวี่มองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าบอก
คิด ๆ ไปแล้ว มันก็ไม่ใช่คำพูดที่น่าฟังเลยสักนิด
หนานซ่งหยิบคีย์บอร์ดมา จากนั้นเสียงต๊อกแต๊กก็ดังขึ้น หน้าจอก็แสดงภาพกล้องวงจรปิดขึ้นมา พอเปิดเสียง ก็ได้ยินเสียงผู้อำนวยการหวงที่กำลังพูดอยู่ตรงระเบียง
"ก็แค่ผู้หญิงที่ถูกคนรวยทิ้ง มีอะไรให้น่ายกย่องกัน แถมเกือบจะได้เป็นแม่หม้ายแล้วด้วย อ๋อ เธอยังเป็นเด็กกำพร้าด้วยนะ สองสามีภรรยาตระกูลหนานเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้หญิงคนนี้กำพร้าพ่อกำพร้าแม่กำพร้าสามี เป็นหายนะกลับชาติมาเกิดหรือยังไงกัน ฮ่า ๆ ๆ ๆ ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...