สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 390

ต้นเดือนพฤศจิกายน หนานซ่งเข้าร่วมแสดงละครเรื่อง "ดั่งดอกไม้สองพิภพ”

การเปิดตัวภาพถ่ายของนักแสดงทำให้เกิดกระแสฮือฮาในหมู่ชาวเน็ต

กำกับการแสดงโดยผู้กำกับชื่อดังหลินเจวี๋ย เขียนบทโดยนักเขียนบทชื่อดังเชียนซุ่ย นักแสดงหญิงนำโดยซูอิง และนักแสดงชายนำโดยเฮ่อเซิน ถือเป็นการรวมตัวของคนมีชื่อเสียงโด่งดัง

ผู้กำกับและนักเขียนบท รวมทั้งซูอิงและเฮ่อเซิน เคยทำงานร่วมกันหลายครั้ง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง

การกลับมารวมตัวของพวกเขาไม่ได้ทำให้แฟนๆประหลาดใจมากนัก

แต่ที่เซอร์ไพรส์ที่สุด คือหนานซ่ง!

คุณหนูใหญ่ของตระกูลหนาน เข้าสู่วงการบันเทิงแล้วจริงๆ!

ไม่ใช่แค่สารคดี แต่ตอนนี้กำลังถ่ายทำละคร ถึงแม้จะสวย แต่การแสดงไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะสามารถแสดงได้

ชาวเน็ตพากันแสดงความคิดเห็นในเวยป๋อของหนานซ่ง

“คุณหนู เป็นประธานหญิงสวยๆไม่ชอบเหรอ? ทำไมถึงอยากไปแสดงละคร?”

“เงินไม่พอใช้หรือไง? เป็นถึงคนที่ร่ำรวยที่สุด ทายาทของบริษัทตระกูลหนาน ทำไมถึงอยากเป็นนักแสดงล่ะ?”

“รวบรวมเงินทุนไม่ได้ จนต้องลงไปแสดงเองเลยเหรอ?”

มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน มีผู้สนับสนุนน้อยมาก ส่วนมากจะแสดงความคิดเห็นด้านลบ

ไป๋ลู่ยวี๋ทนอ่านต่อไปไม่ไหว ต้องการที่จะลบคอมเม้นต์ แต่หนานซ่งห้ามเขาไว้

“เปิดเวยป๋อเป็นสาธารณะ ก็ต้องถูกพูดถึงอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”

หนานซ่งอยู่ในห้องแต่งตัวนักแสดง สวมชุดในละคร ยืดเส้นยืดสาย เตรียมตัวที่จะออกไปถ่ายฉากต่อไป เธอพูดเบาๆว่า “ปล่อยพวกเขาด่าไปเถอะ มีคำกล่าวหนึ่ง ทำงานอย่างเงียบๆ แล้วโชว์ผลลัพธ์ที่น่าอึ้งให้พวกเขาเห็น รอละครเรื่องนี้ถ่ายทำเสร็จ คนที่ด่าฉันในตอนนี้ พวกเขาต้องเปลี่ยนคำพูดแล้วชื่นชมฉันอย่างแน่นอน”

ไป๋ลู่ยวี๋ถอนหายใจ "เธอดูมั่นใจในทักษะการแสดงของเธอจัง"

"สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงคือความมั่นใจในตัวเอง"

หนานซ่งพูดอย่างยืนหยัด แต่ในใจเธอก็แอบไม่มั่นใจเล็กน้อย

แม้ว่าเธอจะเติบโตมากับวงการบังเทิง และเคยเรียนการแสดงกับแม่เมื่อเธอยังเด็ก โตมาก็ยังเคยไปแสดงบทบาทอื่นที่ไม่ใช่ตัวเองมาตลอดสามปีในเมืองเป่ย

แต่ทักษะการแสดงในชีวิตไม่เหมือนกับทักษะการแสดงในกล้อง ดาราหลายคน ในชีวิตจริงเป็นอีกแบบ พออยู่หน้ากล้องก็แสดงเป็นอีกอย่าง

มีคำพูดหนึ่งที่ล้อเลียนว่า "การแสดงที่เหมือนจริงที่สุดคือการแสดงเป็นตัวของตัวเอง การแสดงเป็นคนอื่นก็คือตัวคุณเอง"

ละครเรื่องนี้พี่สามเขียนตามชีวิตจริงของเธอ แค่เล่นตามน้ำก็พอ

อย่างไรก็ตาม ละครเรื่องนี้ไม่ได้ใช้เงินทุนของเธอ ดังนั้นจึงไม่มีแรงกดดันมากนัก

“น้องหก ได้เวลาเข้าฉากแล้ว”

เฮ่อเซินมาเรียกหนานซ่ง หนานซ่งตอบรับและเดินออกไปทันที

นักแสดงมักจะมีผู้จัดการ หนานซ่งไม่มี เธอใช้พี่ชายทั้งสามกับพี่สะใภ้สามคน คนกันเองไม่จำเป็นต้องเกรงใจ

เพราะหนานซ่งมีเวลาจำกัด ฉากที่เธอต้องเข้าจึงจัดเรียงตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ ล้วนเป็นฉากการต่อสู้

หลินเจวี๋ยและผู้สอนศิลปะการต่อสู้เข้ามาสอนท่าทางและบรรยายให้กับหนานซ่ง

“เข้าใจแล้ว ฉันจำได้แล้ว ทวนท่าอีกครั้งไหม?”

"ลองดูก่อน"

หลังจากนั้นหลินเจวี๋ยก็เดินไปที่จอมอนิเตอร์ หนานซ่งสวมกางเกงรัดรูปและมีมีดทหารสวิสติดอยู่ในรองเท้าบูท

การถ่ายทำวันนี้เป็นฉากท้ายๆ หนานซ่งที่เล่นเป็นน้องสาวต้องไปช่วยพี่สาวและต่อสู้กับกองกำลังชั่วร้าย

การแต่งหน้าบนใบหน้าของหนานซ่งต้องไม่สวย ไม่ดูดี ครูแต่งหน้าไม่กล้าทำ เธอจึงใช้นิ้วของตัวเองปาดขี้เถ้ามาทาหน้าตัวเอง

ไม่ห่วงภาพลักษณ์ของไอดอล

เบื้องหลังจอ เฮ่อเซิน, ซูอิง, ไป๋ลู่ยวี๋, เชียนซุ่ยและซือตั๋วนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองดูการแสดงของหนานซ่งอย่างเป็นห่วง

เมื่อผู้กำกับตะโกนว่า "แอ็กชั่น!" นักแสดงที่เล่นเป็นตัวร้ายก็บีบคอหนานซ่ง ยกเธอลอยขึ้นไปในอากาศ

ผิวขาวนวลที่คอของหนานซ่งมีรอยนิ้วมือสีแดง

“ไม่เป็นไร ไม่รู้สึกอะไรเลย”

หนานซ่งยกคิ้วแล้วหันไปพูดกับนักแสดงฝ่ายตรงข้าม “พี่ชาย เล่นดีมาก ท่าทางตกใจเมื่อกี้เล่นได้สมจริงมาก”

"..."

พี่ชายขยับมุมปาก เขาไม่ได้เล่นสมจริงหรอก เขาตกใจมากจริงๆ

หนานซ่งยังไม่ได้ถอดสายสลิง เดินตรงไปทางหลินเจวี๋ย "ผู้กำกับ เป็นไงบ้าง ท่าทางใช้ได้ไหม?”

“ไม่ใช่แค่ใช้ได้ แต่โครตสวยเลย!”

หลินเจวี๋ยเงยหน้าขึ้นมองหนานซ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่พอใจ

ทีมงานทุกคนประหลาดใจ พวกเขาทำงานร่วมกับผู้กำกับหลินเจวี๋ยมาหลายปี แต่ไม่เคยเห็นเขามีความสุขขนาดนี้มาก่อน

ยิ้มจนเห็นรอยตีนกา

หลินเจวี๋ยย้อมกลับไปให้หนานซ่งดู พูดถึงทักษะด้านสายตาของเธอ หนานซ่งฟังอย่างตั้งใจและพยักหน้าตาม

ตั้งแต่บ่ายถึงค่ำ หนานซ่งไม่เคยพูดว่าเหนื่อยหรืออยากพักผ่อนเลย ถ่ายทำฉากแล้วฉากเล่า มีจำนวนช็อตที่สวยจนเลือกไม่ถูกหลายฉาก

แม้แต่ผู้สอนศิลปะการต่อสู้ยังต้องประหลาดใจกับความสามารถในการเรียนรู้และความแข็งแกร่งทางร่างกายของหนานซ่ง

“คุณหนูใหญ่ที่ดูเหมือนถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจและนิสัยเสีย แต่จริงๆแล้วเป็น ‘หญิงแกร่ง’”

หลินเจวี๋ยหัวเราะและพูดว่า "ถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจแต่ก็ไม่ได้ตามใจจนเกินไป สมแล้วที่เธออยู่กับแม่ตั้งแต่เด็ก”

เมื่อเห็นหนานซ่งกินข้าวกล่องกับนักแสดงคนอื่นๆ ทีมงานทุกคนก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

คุณหนูใหญ่นิสัยดีกว่าที่คิด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา