สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 411

พอเดินไปเปิดประตู ก็เห็นว่ายวี่จิ้นเหวินกำลังยืนนิ่งอยู่ แถมเขายังมีใบหน้าเป็นกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? หรือว่าโดนปากแผลเข้า?"

หนานซ่งเห็นใต้ตาที่ดำเหมือนกับแพนด้าของเขา ก็อดจะขมวดคิ้วไม่ได้

"คุณคงไม่ได้รออยู่หน้าประตูทั้งคืนจนไม่ได้นอนหรอกใช่ไหม?"

"เปล่า"

ยวี่จิ้นเหวินส่ายหน้า "เพิ่งจะผ่านมา"

เพิ่งจะผ่านมาบ้าอะไร

เชื่อคุณก็โง่แล้ว!

เพราะสายตาจับผิดของหนานซ่ง ยวี่จิ้นเหวินจึงยอมส่ายหน้า จากนั้นก็กลับคำด้วยน้ำเสียงทะเล้น "เพิ่งมายืนได้สักพักหนึ่งแล้ว"

ที่จริงก็คือไม่ได้นอนทั้งคืนนั่นแหละ

เขากลัวมากว่าถ้าเกิดเขาหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างจะกลับไปเหมือนเมื่อก่อน เป็นเพียงแค่จินตนาการของเขา

มีเพียงตอนที่เขามองเห็นหนานซ่งเท่านั้น เขาถึงจะรู้สึกถึงความเป็นจริงขึ้นมา ได้เห็นเธอ เขาถึงจะรู้สึกปลอดภัย

หนานซ่งมองยวี่จิ้นเหวิน ไม่พูดอะไรออกมา

สายตาของยวี่จิ้นเหวินกลับมองไปที่แขนของหนานซ่ง เขาเห็นว่าที่ผ้าพันแผลเริ่มมีเลือดซึมออกมา คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันทันที "แผลเปิดหรือเปล่า? ขอดูหน่อย"

เมื่อกี้หนานซ่งบิดขี้เกียจ แต่ดูเหมือนเธอจะยืดตัวมากไปหน่อย ก็เลยทำให้ปากแผลที่ปิดไม่สนิทเกิดฉีกออกจากกัน แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ยวี่จิ้นเหวินเอากล่องปฐมพยาบาลออกมา จากนั้นก็ใช้แหนบหยิบสำลีก้อนขึ้นมาทำความสะอาดแผลของหนานซ่ง เขาทำอย่างเบามือ แถมถามขึ้นอย่างเอาใจใส่ "เจ็บไหม?"

"ไม่เท่าไหร่ค่ะ ไม่ได้รุนแรงอะไร"

หนานซ่งไม่ได้สนใจแผลของตัวเองมากนัก แต่เธอกลับมองไปที่ยวี่จิ้นเหวิน จากนั้นก็มองเขาหัวตั้งแต่หัวจรดเท้า

เธอนึกถึงตอนที่ได้เจอกัน เห็นความสามารถในการขับรถกับร่างกายที่แข็งแรงนั่นของเขา ก็อดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ เธอพึมพำเบา ๆ : "ดูเหมือนว่าฉันจะแพ้แล้วล่ะ"

"หืม?" ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ

จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้น อาการบาดเจ็บของยวี่จิ้นเหวินน่าจะรุนแรงกว่าของเหยียนยวน แต่ว่าร่างกายของเขากลับแข็งแรงกว่าเหยียนยวนเสียอีก นี่น่ะขึ้นอยู่กับการรักษาของแพทย์

ขิงยิ่งแก่ยิ่งดีจริง ๆ ด้วย ความสามารถของแม่ทำให้คนที่เหมือนตายไปแล้วกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง เธอได้รับสืบทอดมันมาแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง

หมอเกรซผู้เก่งกาจ ก็ยังสู้หมอเทวดาไม่ได้จริง ๆ

หนานซ่งเม้มริมฝีปาก "ฝีมือการผ่าตัดของแม่ฉัน ดีกว่าฉัน"

เมื่อได้ยินน้ำเสียงเศร้าสร้อยและไม่พอใจเหมือนเด็กของเธอ ยวี่จิ้นเหวินก็หัวเราะออกมา "ไม่เป็นไร เธอยังอายุน้อยอยู่ ยังมีเวลาให้ฝึกอีกเยอะ"

"อืม" หนานซ่งรู้สึกดีขึ้นในทันที "ฉันอายุน้อยกว่าเธอ"

นึกถึงตอนที่เขายังอยู่บนเกาะแล้วคุณผู้หญิงลั่วอินพูดเปรียบเทียบเรื่องความสวย ความเยาว์วัย ออร่าของตัวเธอกับลูกสาว ยวี่จิ้นเหวินก็ยิ่งอยากหัวเราะออกมา

แม่ลูกคู่นี้ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนสาวคนสนิทกันเลย

หลังจากที่ทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ยวี่จิ้นเหวินก็ถามหนานซ่ง "ให้ช่วยล้างหน้าแล้วก็แต่งหน้าด้วยไหม?"

หนานซ่งนึกถึงที่เขาช่วยล้างเครื่องสำอางให้เธอเมื่อคืน ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าฝีมือการแต่งหน้าของเขานั้นมันจะดึขนาดไหน "ได้ จัดการเลย"

ดังนั้นอาจารย์โทนี่ยวี่ ก็ลงมือในทันที เขาเริ่มจากกันทำให้สำลีเปียก จากนั้นก็เช็ดหน้าให้กับหนานซ่ง พอทาครีมบำรุงเสร็จก็เริ่มลงรองพื้นในทันที

หนานซ่งถือจังหวะที่เขากำลังแต่งหน้าให้เธอ ถามเขา "พี่ใหญ่กับพี่รองของฉัน ไปหาพ่อแม่ฉันใช่ไหม?"

ยวี่จิ้นเหวินเหลือบมองหนานซ่งเล็กน้อย แล้วเขาก็เม้มริมฝีปากเพราะไม่รู้ว่าควรพูดว่าอะไร

"คุณไม่ต้องมาปิดบังฉัน อยู่ ๆ พวกเขาก็หายไปเหมือนกับระเหิดไปในอากาศ นอกจากเรื่องนี้ ก็ไม่มีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว"

อารมณ์ดี ๆ ของหนานซ่งค่อย ๆ หายไป เหลือเพียงแต่ความหงุดหงิด

"โชคดีที่ฉันไปถามพี่ใหญ่เอาไว้ก่อน ว่ารู้ข่าวคราวของพ่อกับแม่บ้างหรือเปล่า แถมเจ้าลั่วจวินหังยังบอกเสียดิบดีว่าถ้าเกิดว่ามีข่าวอะไรจะรีบมาบอกฉันเป็นคนแรก"

"แล้วเป็นไงล่ะ?"

"ปิดฉันเอาไว้เสียมิดชิด"

"เหลือเกินจริง ๆ !"

ปากเล็ก ๆ ของหนานซ่งบ่นขมุบขมิบ ระบายความโมโหออกมาไม่จบเสียที

ยวี่จิ้นเหวินได้ฟัง ริมฝีปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้น เขาชอบฟังเรื่องพวกนี้ที่เธอพูด ที่จริงพอเธอยินดีที่จะคุยกับเขาดี ๆ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็สามารถทำให้เขาพอใจได้ทั้งนั้น

หนานซ่งพูดขึ้น: "สิ่งที่ยากที่สุดได้ผ่านไปแล้ว ไม่มีอะไรทำให้พวกเขาดีใจไปกว่าการที่คุณยังมีชีวิตอยู่หรอก"

เธอเอ่ย: "อนาคตยังอีกไกล ถ้าเกิดว่ารู้สึกผิดจริง ก็ดูแลพวกเขาดี ๆ แล้วก็ใช้เวลาอยู่พวกเขา"

"อืม" ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้า

"เจียหางกับเจ๋ออวี่ครึ่งปีมานี้ก็มีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดด งานต่าง ๆ เริ่มทำงานต่าง ๆ ในบริษัทได้ดีขึ้น แถมยังเข้าใจสิ่งต่าง ๆ เยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้วด้วย"

ยวี่จิ้นเหวินพยักหน้าอีกครั้ง "ฉันรู้แล้ว เพราะว่าเธอสอนพวกเขาดี ครึ่งปีที่ผ่านมา ลำบากเธอแย่เลย"

เขาอยู่บนเกาะมาครึ่งปี ถือว่าเขานั้นก็ไม่ได้ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอกเสียทีเดียว

ในตอนที่เขากำลังนอนอยู่ ไม่สามารถขยับหรือทำอะไรได้ เรื่องต่าง ๆ ในตระกูลอยู่ เขาได้รู้มันผ่านคำบ่นและคำด่าของคุณผู้หญิงลั่ว

"ที่คุณบอกว่ามีสมบัติทิ้งไว้ให้น่ะ ให้แค่เงินลูกสาวฉันก็พอแล้ว มีสิทธิ์อะไรไปขอให้เธอเป็นคนสืบทอดบริษัทยวี่กรุ๊ปต่อ ห้ะ? แถมยังให้เธอเป็นประธานยวี่อะไรนั่นอีก คุณอยากทำให้เธอเหนื่อยตายหรือไง!"

"ฉันรู้อยู่แล้วว่าคงไม่ได้มีแค่บริษัทยวี่กรุ๊ปแน่ ๆ แต่คุณยังกล้าจะฝากให้ลูกสาวแสนโง่ของฉันดูแลเด็กอีกสองคนด้วยอย่างนั้นเหรอ น้องชายไม่เอาไหนที่เป็นญาติกับคุณสองคนนั้นน่ะ! คุณมันเป็นคนแบบไหนกัน!"

หนานซ่งพิงกับพนักเก้าอี้ เมื่อคืนเธอไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ ดังนั้นสีหน้าก็เลยดูค่อนข้างเหนื่อยล้า

"ไม่เท่าไหร่หรอก พวกเขาก็ถือว่าเป็นเด็กดีพอสมควร ไม่ได้สอนยากขนาดนั้น"

ยวี่จิ้นเหวินมองเห็นความเหนื่อยล้าบนใบหน้าของเธอ เขาพูดขึ้น: "ต้องบินตั้งชั่วโมงกว่า ง่วงก็นอนเถอะ"

"อืม"

หนานซ่งหาวออกมา จากนั้นก็หันไปมองเขา "คุณเองก็นอนสักพักสิ ตาดำจนจะกลายเป็นหมีแพนด้าอยู่แล้ว"

ยวี่จิ้นเหวินหัวเราะออกมาเบา ๆ "อืม อย่างนั้นก็นอนกันเถอะ"

หนานซ่งหลับตาลง

ยวี่จิ้นเหวินมองใบหน้าทางด้านข้างของเธอ เขามองอยู่นาน แต่เขารู้สึกว่าไม่ว่าจะมองยังไงก็ไม่พอ

อุณหภูมิในห้องโดยสารค่อนข้างเย็น ดังนั้นยวี่จิ้นเหวินก็เลยขอผ้าห่มหนึ่งผืนจากพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แล้วห่มให้หนานซ่งด้วยความระมัดระวัง

เธอหลับไปแล้ว แต่เพราะเครื่องบินเกิดสั่นสะเทือนขึ้นมาเล็กน้อย ศีรษะของเธอก็เลยเอียงไปทางด้านข้าง

ยวี่จิ้นเหวินเห็นอย่างนั้นก็เลยค่อย ๆ ขยับไปทางด้านนั้นแล้วเอียงไหล่ของเขาลงไป เขารับศีรษะของหนานซ่งได้อย่างพอดิบพอดี

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา