หนานซ่งเม้มริมฝีปาก บนริมฝีปากของเธอนั้นมีรสสัมผัสของยวี่จิ้นเหวิน
สิ่งนี้กระจายความร้อนบนใบหน้าของเธอไปที่คออย่างรวดเร็ว
ร่างกายของเธอแดงก่ำไปทั่วตัวราวกับกุ้งตัวน้อย
ยวี่จิ้นเหวินเห็นสีหน้าที่ผิดปกติของหนานซ่ง เขารีบเดินเข้าไปหาเธอ "ทำไมหน้าแดงขนาดนี้ เป็นไข้เหรอ?"
เขาเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของเธอ
หนานซ่งเม้มริมฝีปากและไม่พูดจา
ฟู่ยวี่ทนไม่ไหว เขาถอนหายใจ "เมื่อกี้ก็คิดว่าจะยกย่องสรรเสริญความฉลาดของแก แต่แกก็เริ่มโง่อีกครั้ง จูบน่ะมันทำให้เกิดอาการไข้ได้ แกก็คิดซะว่าตัวเองเป็นเตาเลยเนอะ"
เขาเอ่ยว่า "เห็นๆกันอยู่ว่าเสี่ยวซ่งกำลังเขิน"
"นายหุบปาก!"
หนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินต่างก็จ้องมองไปทางฟู่ยวี่
"......."
ฟูี่ยวี่ใช้หมอนปกปิดใบหน้าตัวเองไว้ สองคนนี้อารมณ์มักจะเล่นใหญ่กว่าคนอื่นๆ
ยั่วยุไม่ได้เลย ไม่ได้
*
ฟู่ยวี่มาหาหนานซ่งก็เพื่อจะคุยเรื่องธุรกิจ ดังนั้นเขาจึงกล้าที่จะหยิ่งผยอง
เขานำม้าจำนวนหนึ่งมาจากเมืองหรงและยังส่งมันให้กับพ่อหนานและแม่หนานสองตัว มารยาทในการพบปะผู้คนของเขานั้น เขาทำได้ดี
หนานซ่งเหลือบมองเขา "นายทำดีกับพ่อแม่ฉันไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก พวกเขากับซูยินน่ะห่างกันตั้งสองชั่วอายุคน ไม่ได้เข้าไปยุ่งกับชีวิตของเธอ เรื่องตั้งแต่เล็กจนโตของซูอินน่ะขึ้นอยู่กับพี่รุ่ยของฉัน"
"ฉัน...ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น"
ฟู่ยวี่ต้องการที่จะปกปิด เขาพูดติดๆขัดๆ "ฉันบริสุทธิ์ใจ ฉันแค่อยากจะไปเยี่ยมพวกเขาก็เท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง"
"อ้อ นายนี่ช่างคนดี" หนานซ่งไม่เชื่อแม้แต่น้อย
ฟู่ยวี่คิดว่าเธอกลัวและบอกให้พวกเขาเลี้ยง บอกว่าต้องการไปกินร้านอาหารสือเว่ยสักมื้อและบอกว่าอะไรคือค่าปิดปาก
"เฮอะ"
หนานซ่งเอ่ยอย่างเย็นชา "ฉันรู้สึกว่าการปิดปากกันตรงๆนั้นจะดีกว่านะ"
เธอม้วนแขนเสื้อขึ้น หยิบหมอนขึ้นมา คว้าผมของฟู่ยวี่ไว้พร้อมกับล็อคคอ เธอทั้งตบทั้งตี ทำให้ขนและฝ้ายในหมอนปลิวไปทั่วพื้น
ฟู่ยวี่ร้องคร่ำครวญ "ไอ้ยวี่ ช่วยฉัน ช่วยฉันด้วย...."
ยวี่จิ้นเหวินนั่งอยู่ด้านข้างและมอง ตั้งแต่การเพ่งมองดูเหตุร้ายไปจนถึงรู้สึกเศร้า เขายกมือขึ้นสัมผัสศีรษะตัวเองโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกถึงวิกฤตที่อาจเกิดจากความรุนแรงในครอบครัว
ดูท่าแล้วหลังจากนี้เขาควรจะเป็นเด็กดีกว่านี้อีกหน่อยก็คงจะดี
—
ฟู่ยวี่ได้รับบาดเจ็บและใบหน้าบวมจากการถูกทุบตี แต่เขาก็ยังดื้อดึงกับหนานซ่งและยวี่จิ้นเหวินถึงเรื่องร้านอาหารสือเว่ย
สำหรับนักชิมแล้ว ต่อให้เรื่องใหญ่แค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับรสชาติอาหารที่ดี
ทุกครั้งที่มาถึงร้านอาหารสือเว่ยคนก็แน่นตลอดทุกครั้ง เพราะที่นี่ไม่รับจองโต๊ะล่วงหน้าและรับลูกค้าจำนวนจำกัด การที่ได้ทานอาหารที่นี่นั้นขึ้นอยู่กับโชคชะตา มีของที่ระลึกสำหรับผู้ที่ไม่ได้ทาน ไว้ครั้งหน้ามาลองเสี่ยงโชคดูอีกครั้ง
วันนี้คนต่อแถวยาวเหยียด ฟู่ยวี่เอ่ยพลางถอนหายใจ "ธุรกิจนี้ฮอตขนาดนี้ เธอคิดจะขยายสาขาบ้างไหม เปิดขายแฟรนไชส์นั้นดีมากเลยนะ"
"ไม่คิด"
หนานซ่งเอ่ยว่า "ธุรกิจอาหารนั้นเหนื่อยมาก กำไรก็น้อย ฉันก็แค่เปิดเล่นๆน่ะ"
"ดูฟังเข้า" ฟู่ยวี่เหล่สายตามอง "เริ่มขี้อวดอีกแล้ว"
ยวี่จิ้นเหวินยิ้มเบาๆ เขามองหนานซ่ง "เธอก็ชอบดีแล้ว ธุรกิจอาหารนั้นเหนื่อยจริงๆ ฉันจะช่วยเธอแบ่งเบามันเอง"
หนานซ่งย่นจมูกของเธอเล็กน้อย คำพูดนี้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียว
“……”
กลุ่มคนใส่สูทและรองเท้าหนังเดินไปที่ร้านอาหาร หัวหน้าชายในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเดินไปข้างหน้าพร้อมกับบุหรี่ในปากของเขา
"เกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้เธอมาต่อแถว ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้?"
ชายในชุดสูทถือบุหรี่ไว้ในมือข้างหนึ่งจากนั้นก็ประคองโจ๋เซวียนขึ้นจากพื้นด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ใบหน้าของเขาดูหมดความอดทน
"คุณสามี..."
โจ๋เซวียนเปลี่ยนน้ำเสียงในทันที แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางยวี่จิ้นเหวิน ดวงตาคู่นั้นจับจ้องไปยังใบหน้าของเขา
แต่ยวี่จิ้นเหวินกลับดูเหมือนไม่รู้จักเธอ เขาแค่ยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆและไม่ได้จ้องมองเธอ
หญิงสาวที่โกรธเคืองเมื่อกี้ยังคงบ่นพึมพำถึงโจ๋เซวียน ชายในชุดสูทฟังอย่างเฉยเมย แต่สายตาของเขาจับจ้องไปที่หนานซ่งที่กำลังเดินมาด้วยแววตาประหลาดใจ
"ประธานหนาน!"
เขาปล่อยมือโจ๋เซวียนทันทีและทักทายหนานซ่งด้วยรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าที่ไม่แยแสของเขา "คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบคุณที่นี่ ผมจินต้ากังแห่งบริษัทจินจิงจิวเวลรี่!"
ชายในชุดสูทยื่นมือไปทางหนานซ่ง แต่หนานซ่งกลับไม่ได้ยื่นมือกลับไปหาเขา เธอเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ประธานจิน มาถึงที่นี่เพื่อทานอาหารเย็น?"
"ใช่ครับ ใช่"
จินต้ากังไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไร เขาดึงมือกลับแล้วยิ้มอย่างประจบสอพลอ "ผมได้ยินมาว่าร้านนี้เป็นของคุณ ผมอยากลองกินมาเสมอ เมื่อรู้ว่าต้องต่อคิวผมก็เลยส่งเลขามาเข้าคิวเลย พาลูกค้ามาทานอาหารดีๆสักมื้อ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบคุณ พรหมลิขิตจริงๆ...ผมกำลังอยากคุยกับคุณเรื่องธุรกิจ ยังไม่ทันได้นัดหมายคุณเลย วันนี้คุณว่าอย่างไรบ้างครับ?"
เมื่อเขาเอ่ยจบ หนานซ่งก็มองไปทางโจ๋เซวียนและถาม "นี่คือเลขาคุณเหรอ?"
จินต้ากังรีบพยักหน้า "ครับ ขอโทษด้วย เธอไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ไม่ได้ตั้งใจจะมาก่อเรื่องวุ่นวาย มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ เสี่ยวโจ๋ ยังไม่รีบขอโทษประธานหนานอีก!"
โจ๋เซวียนถูกจินต้ากังลากไปด้านหน้าของหนานซ่ง เธอรู้สึกสั่นสะท้านไปทั่วตัวและรู้สึกเสียหน้า
ร้านอาหารนี้เป็นร้านของหนานซ่งจริงเหรอ?!
ยวี่จิ้นเหวินยังไม่ตาย...
เธอและยวี่จิ้นเหวินวนกลับมาคบกันอีกครั้งแล้วเหรอ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...