ยวี่จิ้นเหวินที่ถูกหนานซ่งกอดเช่นนี้ ร่างกายของเขาเอนไปด้านหลังแต่กลับคว้าเธอไว้ได้อย่างมั่นคง
เมื่อโดนเรียกว่า 'พี่ชาย' ร่างกายของเขาทั้งตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
ทันใดนั้นภาพฉากที่เขากอดเธอเอาไว้และเดินออกมาจากซากปรักหักพัง เธอยิ้มพร้อมกับเรียกเขาว่า 'พี่ชาย'
เหมือนกับว่าภาพทรงจำทุกอย่างยังคงชัดเจน
ปรากฎว่าหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาไม่เคยลืมฉากที่พวกเขาเคยพบเจอกันครั้งแรก
เขาไม่สามารถลืมเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ฆ่าศัตรูและอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ในซากปรักหักพังกับเขา ไม่สามารถลืมเด็กผู้หญิงที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของเขา เธอเป็นเหมือนก้อนสำลี เธอยิ้มพลางถามเขาว่าเขาชื่ออะไร
ช่างงดงามเหลือเกิน
เมื่อยวี่จิ้นเหวินกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง เขายกมือขึ้นและสัมผัสแผ่นหลังของเธอและลูบเบาๆ "ฉันอยู่นี่ ฉันไม่ได้ไปไหน ฉันอยู่ที่นี่..."
หนานซ่งกอดเขาไว้แน่นราวกับว่าเธอหลงอยู่ในทะเลทรายกระหายน้ำมาหลายวันกระทั่งได้พบเจอกับแอ่งน้ำและเหมือนกับคนที่กำลังคว้าฟางเส้นสุดท้ายในชีวิต เธอกอดเขาแน่นและไม่ยอมปล่อย
มีอีกภาพหนึ่งฉายขึ้นต่อหน้าต่อตาของเธอ ภาพเฉียวเหลิ่งกำลังยิ้มอย่างเย็นชา ความเจ็บปวดจากเข็มที่แทงเนื้อและเลือดของเธอ ความอัปยศของศักดิ์ศรีที่ถูกเหยียบย่ำลงบนพื้น...
ท้ายที่สุด ภาพทั้งหมดก็ถูกทำลายลงจากชายผู้หนึ่ง
เขาพุ่งตัวออกจากวงล้อม เข้าไปในซากปรักหักพังท่ามกลางมีดและปืน เขาโยนปืนให้กับเธอ ความแม่นปืนของเขาทรงพลังมาก ทักษะที่ดูเรียบง่ายและเฉียบคมนั้นศัตรูต่างก็ถูกกำจัดไปทีละคน
ท้ายที่สุดเธอก็หมดเรี่ยวแรงและล้มลงในอ้อมแขนของเขา เธอจ้องมองใบหน้าที่หล่อเหลาได้รูปและได้ยินเสียงที่แหบพร่าของเขาเอ่ยว่า
"ฉันชื่อยวี่จิ้นเหวิน"
ในตอนนั้นไม่รู้ว่าทำไมสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเรือนร่างของเขานั้นเย็นยะเยือก แต่ราวกับว่ากำลังตกลงไปในกระแสน้ำอุ่น ความอบอุ่นภายในใจพลุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่างกาย
เช่นเดียวกับตอนนี้ ร่างกายเธอสั่นสะท้านไปทั้งตัว แต่ภายใต้อ้อมกอดและการปลอบโยนจากเขา เธอก็ค่อยๆสงบลง
ภาพที่มัวหมองและเกินจะทนได้เหล่านั้นก็ค่อยๆเลือนลางและจางหายไปจากความทรงจำ
หนานซ่งค่อยๆผละออกจากเขา ดวงตาสีดำสนิทของเขานั้นเหมือนน้ำในทะเลสาบในปลายฤดูใบไม้ร่วง ทำให้คนอยากจะกระโดดลงไปและจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของทะเลสาป
ยวี่จิ้นเหวินค่อยๆเอ่ย "เสี่ยวซ่ง..."
ทันทีที่ริมฝีปากเริ่มเอ่ย ทันใดนั้นก็ถูกปิดกั้นเอาไว้
หนานซ่งมอบจูบให้แก่เขา
เธอสัมผัสใบหน้าของเขา เป็นเหมือนตุ๊กตาหิมะตัวน้อยที่หนาวเหน็บอยู่ข้างนอกเป็นเวลานานและได้หวนคืนสู่อ้อมกอดของดวงอาทิตย์ ราวกับว่าเธอกำลังซึมซับความอบอุ่นอย่างไรอย่างนั้น
ในช่วงเวลาที่ยวี่จิ้นเหวินถูกจูบนั้น เขาทั้งตื่นตกใจและรู้สึกดีใจ
เขาหลับตาลงทันทีด้วยสัญชาตญาณและความรู้สึกจากจิตใจ
ส่วนลึกภายในจิตใจนั้นกลับรู้สึกเจ็บปวด
ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคาดหวังในเรื่องของความรัก ในตอนที่รู้ตัวว่าตกหลุมรัก มันก็สายไปแล้ว หัวใจของคนที่รักเขาแตกสลายไปแล้ว
ดังนั้นเขาจึงพยายามไล่ตามหาอย่างสุดชีวิต เขาคิดว่าตัวเขาไม่อาจที่จะคว้าคืนกลับมาได้ พระเจ้าเห็นใจเขา ให้โอกาสเขาที่จะมีชีวิตรอด ให้เขาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกครั้ง
เขาจะละทิ้งโอกาสที่ได้มาอย่างยากลำบากนี้ได้อย่างไร?
ขณะที่ร่างกายของเขาค่อยๆอ่อนแรงลง ยวี่จิ้นเหวินก็ทรุดตัวลงบนโซฟาโดยที่ไม่รู้ตัว
มือของหนานซ่งนั้นกุมมือเขาเอาไว้และนิ้วทั้งสิบของคนสองคนประสานกันแน่น
จู่ๆประตูก็ถูกเปิดจากด้านนอก "เสี่ยวซ่ง....."
ฟู่ยวี่เขย่ากุญแจรถและเปิดประตูอย่างมีความสุข "ไอ้ เชี่ย!"
เขารีบปิดตาทันที "ขอโทษ โทษๆ .... คิดไม่ถึงว่าเอ่อ ฉันคิดไม่ถึง...จู่ๆมันก็...ก็....ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้นนะ พวกคุณต่อเลย ต่อได้เลย..."
คุณชายน้อยฟู่บ่นพึมพำและสบถด่าในใจจากนั้นก็ปิดประตูลง
หัวใจดวงน้อยๆเต้นตึกตักตึกตัก
ฟู่ยวี่เอามือออกจากดวงตาของเขาแล้วเลื่อนมาทาบอก ปฏิกิริยาแรกของเขาคือ : ภาพที่เขาเห็นเมื่อครู่นี้เป็นของจริงไหม?
ปฏิกิริยาที่สองคือ——เขาจะถูกปิดปากหรือเปล่า?
ต่างคนต่างลูบหัวใจของตนเองด้วยความตื่นตระหนก
"จบเห่แล้ว ดูเหมือนว่าจะไปรบกวนเรื่องดีๆของประธานหนานเข้าให้ นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้เห็นคุณหนานไฟปะทุแบบนี้"
"โบนัสเดือนนี้ดูเหมือนจะสูญเปล่า..."
หลู่เหิงหัวเราะเบาๆ "เธอคิดมากแล้ว ในไตรมาสนี้ไม่ต้องคิดถึงโบนัสเลย"
"เอ๊ะ? ไม่เอาสิ! ฉันผิดไปแล้ว!!"
วินาทีที่ประตูปิดลง หนานซ่งมองฟู่ยวี่ด้วยแววตาฆ่าฟัน
"นายไม่รู้จักมารยาทเหรอ? โตตัวเท่านี้แล้วเคาะประตูไม่เป็นหรือไง?"
"ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่มีมารยาท"
ภายใต้การจ้องมองของดวงตาทั้งสอง ฟู่ยวี่สารภาพความผิดพลาดของเขาแต่โดยดี เขาสัมผัสหนังศีรษะที่เจ็บและพึมพำเบาๆว่า "เรื่องนี้อย่าตำหนิฉัน ฉันไม่รู้ว่าไอ้ยวี่อยู่ด้วย"
ยวี่จิ้นเหวินพูดอย่างเย็นชา "ฉันไม่อยู่แล้วแกก็จะเข้ามาโดยไม่เคาะประตูก็ได้งั้นเหรอ?"
เขาไม่กล้าเข้ามาสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่แล้ว เขาก็คงจะรอด้านนอก
ฟู่ยวี่ชำเลืองมองเขา "แล้วใครจะไปรู้ว่ากลางวันแสกๆพวกคุณจะมาสร้างความสงบสุขกันภายในห้องทำงานล่ะ..."
เมื่อเขาพูดจบก็โดนหนานซ่งเตะเข้าให้ เขาร้อง'โอ้ย'ออกมาด้วยความเจ็บปวด
"โอเค พอแล้ว ไม่แกล้งพวกคุณแล้ว"
ฟู่ยวี่ทรุดตัวลงบนโซฟาและมองดูพวกเขาด้วยความสนใจ "คาดไม่ถึงเลย พัฒนากันเร็วเชียว พวกคุณคืนดีกันแล้วเหรอ?"
ยวี่จิ้นเหวินและหนานซ่งมองตากัน
เมื่อนึกถึงการจูบที่ฉับพลันและเร่าร้อนเมื่อครู่นี้ ทั้งสองคนก็หน้าแดงอย่างอดไม่ได้
ทำไมถึงได้จูบกันนะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...