คนในตระกูลยวี่มีจำนวนไม่น้อย บวกกับคนจากตระกูลหนานเพิ่มเข้าไป คนก็ยิ่งเยอะกว่าเดิม
เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นอีก
งานเลี้ยงในวันนี้ เรียกได้ว่ารื่นเริงยิ่งกว่างานตรุษจีนเสียอีก
สนามหญ้าหน้าบ้าน มีโต๊ะแปดเซียนวางเรียงกันไว้อยู่หลายตัว ก่อกองไฟ จากนั้นก็เอาแกะขึ้นไปย่าง กลิ่นเนื้อแกะหอม ๆ ลอยไปทั่วสนามหญ้า
ในครัวเองก็วุ่นวายกันมาก ๆ เหล่าคนรับใช้ยกอาหารมาเสิร์ฟไม่ได้พัก แต่ใบหน้าของพวกเขานั้นดูมีความสุข
นายหญิงยวี่หมักเหล้าดอกหอมหมื่นลี้กับเหล้าองุ่นเอาไว้ ดังนั้นวันนี้เธอก็เลยเปิดโหลดองเหล้าเพื่อเอามาดื่ม เอาให้หนำใจไปเลย
คนเราพอแก่ตัวลงก็ชอบงานสังสรรค์ ในที่สุดลูกสาวคนโตที่พวกเขารักและเป็นห่วงมากที่สุดที่ต้องเผชิญกับเรื่องร้าย ๆ มานานก็ได้กลับมามีชีวิตที่สดใสเหมือนเดิม พวกเขาดีใจเป็นอย่างมาก มีความสุขยิ่งกว่าตอนที่พวกเขาทั้งสองคนแต่งงานกันอีก
"ลั่วอิน กินอะไรดื่มอะไรเอาเองเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจนะจ๊ะ" นายหญิงยวี่บอกออกมาด้วยรอยยิ้ม
ลั่วอินที่กำลังจิบเหล้าองุ่นอยู่ หัวเราะ: "ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ หนูไม่เคยทำตัวเกรงใจอยู่แล้ว"
"......"
หนานซ่งที่อยู่ข้าง ๆ เอามือก่ายหน้าผาก แม่คนนี้ของเธอ มักจะพูดเรื่องน่าอายได้อย่างเต็มปากเต็มคำ
ลั่วอินมีนิสัยสุดโต่ง สำหรับเธอแล้ว บนโลกใบนี้มีคนแค่สองประเภท ศัตรู กับ คนของตัวเอง
เธอมีศัตรูจำนวนไม่น้อย ในคนกลุ่มหนึ่งต้องมีสักคนที่ใช่
แต่มีคนของตัวเองเยอะกว่า
ตระกูลยวี่ ก็เคยอยู่ในหมวดศัตรูทางการค้าที่แข็งแกร่ง
แต่ตอนนี้ ตระกูลหนานและยวี่นั้นเป็นเหมือนผู้ร่วมงานกัน เป็นเหมือนครอบครัวที่ทำธุรกิจด้วยกัน ตอนนี้ติงเหมากับยวี่เฟิ่งเจียวเองก็แต่งงานกันแล้ว สำหรับเธอนั้นตอนนี้พวกเขาก็คือคนกันเองไปแล้ว
ไม่นานนักเธอก็สามารถเข้ากับตระกูลยวี่ได้ หนานหนิงซงเองก็พูดคุยและหัวเราะกับศัตรูทางการค้าในอดีตอย่างคุณชายยวี่คนที่สองและสาม
ภาพตรงหน้ามองแล้วให้ความรู้สึกรักใครอบอุ่นและสามัคคีกัน
มันดูสวยงามจนดูเหมือนไม่ใช่ความจริง ราวกับกำลังฝันไป
มีบางครั้งที่เธอแอบคิด ถ้าเกิดตอนนั้นพ่อกับแม่เธอไม่ประสบอุบัติเหตุ สามารถมาถึงเมืองเป่ยได้โดยสวัสดิภาพ ถ้าตอนนั้นได้มาพูดเรื่องขอหมั้นอย่างเป็นทางการ เธอกับยวี่จิ้นเหวินนั้นจะได้คบกันหรือเปล่านะ?
ทั้งสองครอบครัวนั้น จะเข้ากันได้ดีและมีความสุขขนาดนี้ไหม?
แต่ไม่นานนัก เธอก็รีบส่ายหน้าในทันที ไล่ความคิดพวกนี้ออกไปจากสมองให้หมด
มีทุกวันนี้ได้ไม่ได้ง่ายเลยสักนิด ใครจะกล้าคิดย้อนกลับไปอีก ?
ตอนนี้เธอคิดว่าเธอนั้นโชคดีมาก ๆ แล้ว!
แต่ว่าคนเรายิ่งอยู่ในช่วงเวลาที่โชคดีมีความสุขมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นกังวลมากเท่านั้น กลัวว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นแค่ฝัน กลัวว่าช่วงเวลาแห่งความสุขความโชคดีนั้นจะแสนสั้น แค่พริบตาเดียวทุกอย่างก็หายไป
"กำลังคิดอะไรอยู่?" มีเสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นข้างใบหูของเธอ
หนานซ่งที่ถูกเรียกก็ดึงตัวเองกลับมาจากภวังค์ความคิด เธอส่ายหน้า จากนั้นก็จิบเหล้าองุ่นเข้าไป เหล้าองุ่นตอนจิบเข้าไปนั้นรสชาตินุ่มลิ้น อมเปรี้ยวอมหวาน อร่อยมาก
ความสามารถในการหมักเหล้าของนายหญิงยวี่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ เหล้าผลไม้นั้นจะมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ค่อนข้างสูง แม้ตอนที่ดื่มเข้าไปจะไม่รู้สึก แต่ว่าฤทธิ์หลังจากนั้นรุนแรงเป็นอย่างมาก
หนานซ่งเป็นคนที่คอแข็งพอสมควร แต่ทุกครั้งที่ดื่มเธอก็มักจะเมาจนหลับทุกครั้งไป จำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เธอเมาหนักจนสลบไปในอ้อมอกของยวี่จิ้นเหวิน
ตอนนั้นเขารังเกียจเธอมาก......จนเขานั้นผลักเธอออก
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นขยับไม่ได้ เธอถูกผ้าห่มพันตัวไว้เหมือนกับดักแด้ที่ถูกห่ออยู่ในรังไหม บริเวณเอวและขาของเธอถูกมัดด้วยผ้าปูที่นอนและเข็มขัดจนแน่น
เธอนอนสงสัยอยู่บนเตียง: บนโลกใบนี้มีผู้ชายคนไหนที่ไม่เข้าใจเรื่องความต้องการของผู้หญิงแบบนี้ด้วยเหรอ?!
เหมือนกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกอย่างนั้นแหละ
นึกถึงความยากลำบากในตอนนั้น หนานซ่งก็เกิดหงุดหงิดขึ้นมาในทันที เธอเหยียบเท้าของยวี่จิ้นเหวินที่อยู่ใต้โต๊ะ
"โอ๊ยซี๊ด" ยวี่จิ้นเหวินเจ็บจนต้องร้องออกมา
วันนี้หนานซ่งสวมรองเท้าส้นสูง เป็นส้นเข็มด้วย
เธอไม่ได้เหยียบให้นิ้วเท้าเขาหักก็ถือว่าเธอนั้นทำบุญแล้วด้วยซ้ำไป
ทุกคนที่อยู่บนโต๊ะหันมามองทางพวกเธอ "เป็นอะไร?"
"อ๋อ ไม่มีอะไรครับ อยู่ ๆ เท้าผมก็เป็นตะคริว"
ยวี่จิ้นเหวินยิ้ม จากนั้นก็หันไปมองหนานซ่ง "ขอโทษนะคะ ฉันบังเอิญเหยียบเท้าคุณเข้าแล้ว"
หนานซ่งมองเขานิ่ง "ไม่เป็นไรครับ ครั้งหน้าระวังหน่อยแล้วกัน"
"......ค่ะ"
ยวี่จิ้นเหวินแอบขยับเท้าเข้าหาตัวเอง เธอพูดแบบนี้ เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอนั้นตั้งใจเหยียบเท้าเขา เขาเริ่มคิดในทันทีว่าคืนนี้เขาไปทำอะไรผิดไป ทำอะไรให้เธอไม่พอใจบ้าง?
เธอนั้นแทบอยากจะเปิดกะโหลกเขาออกมา แล้วก็ตัดเอาความทรงจำทุกอย่างที่ไม่ดีและน่าอายนั่นออกไป ทำให้เขานั้นสูญเสียความทรงจำไปเลยยิ่งดี
"เสี่ยวซ่ง" ยวี่จิ้นเหวินเงยหน้าขึ้นมา ทำหนานซ่งตกใจไปเล็กน้อย
เธอมองไปที่ดวงตาสีดำของเขา มองเห็นอารมณ์ที่ไม่คงที่ในดวงตาของเขา หัวใจของเธอก็กังวลตามไปด้วย "ทำ ทำอะไร?"
"คุณ"
"?"
"วันนี้ดื่มได้ตามใจชอบเลยนะ"
ยวี่จิ้นเหวินเติมเหล้าให้กับเธอ จากนั้นก็มองเธอด้วยสายตาจริงจัง "ดื่มจนเมาไปเลยก็ไม่ต้องกลัว มาหลับบนอกผมได้เลย หรือว่า ให้ผมดื่มจนเมาแล้วคุณมาเอาคืนผมเลยก็ได้ โอเคไหม"
"......"
ริมฝีปากของหนานซ่งกระตุก เขาพูดอะไรอยู่เนี่ย?
"แกล้งใครเหรอครับ?"
เสี่ยวเหมาวิ่งเข้ามาทางด้านหลังของเธอ จากนั้นก็ถามออกมาอย่างไม่ดูสถานการณ์ "พี่สะใภ้จะแกล้งพี่ใหญ่เหรอครับ?"
"......"
พอน้ำเสียงสดใสดังออกมา ทุกคนก็หยุดการกระทำทุกอย่างตรงหน้าของตัวเอง จากนั้นก็หันมามองทางยวี่จิ้นเหวินแล้วก็หนานซ่ง แถมพวกเขายังมีท่าทางราวกับกำลังรอดูเรื่องสนุก ๆ อยู่ด้วย
ราวกับกำลังบอกว่า: เอาเลยสิ แกล้งเขาให้ดูหน่อยสิ!
อย่านิ่งไปสิ จัดการเลยลูกรัก!
กล้า ๆ หน่อย เอาเลย!
หนานซ่งยิ้มออกมาทั้ง ๆ ที่ในใจกำลังกู่ร้อง จากนั้นเธอก็หันไปบอกกับเสี่ยวเหมา: "เธอฟังผิดแล้วล่ะ"
"ฟังผิดเหรอครับ?"
อยู่ ๆ เสี่ยวเหมาก็ทำท่าทีตกใจ "อ๋อ อย่างนั้นก็เป็นพี่ใหญ่ที่จะแกล้งพี่สะใภ้ใช่ไหม? พี่ นี่มันไม่ถูกต้องนะ เป็นผู้ชายอกสามศอก จะมาแกล้งภรรยาของตัวเองได้ยังไง?"
หนานซ่ง: "......"
ยวี่จิ้นเหวิน: "......"
เด็กคนนี้ เป็นปรมาจารย์ด้านการหูแว่วหรือไง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...