ยวี่เฟิ่งเจียวรู้สึกว่าเสิ่นหลิวซูนี่น่าสนใจนัก
แต่ก่อนตอนที่ยังคบอยู่กับเธอ วัน ๆ เขาต้องคอยไปหาโจ๋เยว่ ตอนนี้เขาแต่งงานกับโจ๋เยว่แล้ว แต่กลับมาหาเธอได้แทบจะทุกวัน
ถ้าเกิดว่าเขารักอิสระขนาดนั้น ไม่ชอบถูกผูกมัดด้วยการแต่งงาน อย่างนั้นเขาจะแต่งงานไปทำไม?
บางทีผู้ชายบางคนก็เป็นแบบนี้ ไม่รักดี
เสิ่นหลิวซูค่อย ๆ พูดออกมา "อาเจียว......"
"เสิ่นหลิวซู วันนี้เป็นวันดีของฉัน คุณช่วยเลิกทำตัวน่ารังเกียจสักวันจะได้ไหม?"
ครั้งนี้ยวี่เฟิ่งเจียวไม่ได้เมินเขา แต่ว่าเขาออกมาตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจ
"วันดี วันดีอะไร?"
เสิ่นหลิวซูชะงักไปทันที หัวใจของเขาเต้นแรง
"คิดว่าไงละ"
ติงเหมาเอาทะเบียนสมรสออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็โบกมันไปมาต่อหน้าเสิ่นหลิวซู จากนั้นก็ประกาศออกมาเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ "ต่อไปเฟิ่งหวาก็คือภรรยาของฉัน มีแค่พวกเราสองคนเท่านั้น ส่วนคนที่น่ารังเกียจก็หลีกไปให้ไกล!"
เฟิ่งหวา......
ดวงตาของเสิ่นหลิวซูหดลง
เขารู้ นี่ก็คือชื่อเล่นสมัยเด็กของยวี่เฟิ่งเจียว ตอนที่เพิ่งคบกันแรก ๆ เขาเคยเรียกเธอแบบนั้น แต่ว่าเขาโดนเธอห้ามเอาไว้เด็ดขาด เขากลัวว่าจะทำให้เธอโมโห ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่เคยเรียกเธอแบบนั้นอีกเลย
แต่ตอนนี้ เธอกลับอนุญาตให้ติงเหมาเรียกชื่อเล่นในวัยเด็กของเธอตอนไหนยังไงก็ได้
แถม พวกเขายังจดทะเบียนสมรสกันแล้วด้วย!
เร็วขนาดนี้ เธอกลายเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว ไม่แม้แต่จะรอเขาด้วยซ้ำ
"เธอแต่งงานกับเขาแล้วเหรอ?"
ในลำคอของเสิ่นหลิวซูเหมือนมีอะไรค้างอยู่ เขาแสดงความรู้สึกหึงหวงออกมา "เธอมั่นใจนะว่าเขารักเธอจริง ? หรือว่าเขาก็แค่อยากได้เงินกับสถานะแล้วก็ชื่อเสียงทางสังคมจากเธอ......เธออย่าถูกเขาหลอกนะ"
"ไปให้พ้นเลยไอ้เวร!"
ติงเหมาถกแขนเสื้อขึ้นจากนั้นก็พุ่งเข้าไปชกใบหน้าของเสิ่นหลิวซูหนึ่งหมัด โบราณว่าไว้ว่าเวลาชกคนอย่าชกที่หน้า แต่ที่เขาชกอยู่น่ะ มันไม่ใช่คน!
ยวี่เฟิ่งเจียว ยวี่จิ้นเหวิน แล้วก็หนานซ่งยืนมองเฉย ๆ ไม่มีใครคิดจะเข้าไปห้าม
ใบหน้าของเสิ่นหลิวซูถูกชกเข้าไปเต็ม ๆ ทำให้ตัวของเขาเซไปชนกับผนัง ติงเหมาไม่รอให้เขาได้ยืนดี ๆ ก็เข้าไปเตะเข้าซ้ำอีกที ครั้งนี้เสิ่นหลิวซูล้มไปนั่งพิงอยู่กับกำแพง ในปากของเขามีรสชาติเค็มแล้วก็กลิ่นคาวคละคลุ้ง
ติงเหมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็ด่าเขาออกมาชุดใหญ่ "คนกระจอกแบบมึง ก็แค่หนอนเน่าที่คลานออกมาจากกองขยะเท่านั้นแหละ ยังจะกล้ามาโวยวายต่อหน้ากูอีก! ตัวมึงมันเน่าไปยันกระดูกด้วยซ้ำ มึงคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนมึงหรือไง? มึงนี่มันต้นแบบนิสัยของคนชั้นต่ำแท้ ๆ ! กูจะบอกอะไรมึงให้นะไอ้คนสกุลเสิ่น ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามึงมีเวลาเหลืออีกไม่นาน กูส่งมึงกลับไปอยู่บ้านเก่านานแล้ว!"
ยวี่เฟิ่งเจียวกับยวี่จิ้นเหวินหน้าตึง มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาไร้เยื่อใย
แต่ดวงตาของหนานซ่งกลับหดเล็กลง เธอเม้มริมฝีปาก
"ไปกันเถอะค่ะอาจารย์ ไม่ต้องเสียเวลาพูดกับเขาหรอก"
ยวี่จิ้นเหวินพยุงยวี่เฟิ่งเจียวเดินเข้าไปด้านใน หนานซ่งเองก็กระชากตัวติงเหมาตามไปเหมือนกัน ทิ้งเสิ่นหลิวซูเอาไว้ที่มุมกำแพงเพียงคนเดียว ที่โหนกแก้มของเขามีรอยช้ำสีม่วงรอยใหญ่ เขากุมหน้าท้องของตัวเองไว้แล้วไอโขลก ๆ ออกมาอย่างแรง
เขาไอจนเจ็บอวัยวะภายในไปหมด ร่างกายของเขาอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรงราวกับหมาข้างถนนที่ถูกทิ้ง
เขาเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าสีหม่น นึกถึงภาพแม่ของตัวเองที่นอนอยู่บนฟูกเพราะป่วยหนัก เธอบอกเขาว่า "ลูกชาย ใช้ชีวิตให้ดี ๆ นะ พยายามมีชีวิตที่ดี เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ!"
สุดท้ายแล้ว เขาเองนั้นไม่สามารถมีชีวิตที่ดีได้
สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่สามารถเป็นคนที่ดีได้
-
ตอนแรกก็เป็นวันที่ดีมีความสุขแท้ ๆ เพราะว่าหนูสกปรกอย่างเสิ่นหลิวซู อาหารมื้อนี้แทบจะเป็นหมันไปเสียแล้ว
ติงเหมาไม่ค่อยจะได้ชกต่อยกับใครเท่าไหร่ พอออกแรงชกแรง ๆ หลังของเขาก็เกิดเป็นรอยแดงขึ้นมาเป็นวงกว้าง
ยวี่เฟิ่งเจียวไม่ได้เป็นห่วงเสิ่นหลิวซูที่โดนชกจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียวเลยแม้แต่น้อย แต่เธอเป็นห่วงติงเหมาที่ไปชกคนอื่นจนมือแดงมาก ๆ ยังไงก็ต้องทายาให้เขาให้ได้
เธอไม่เคยพูดเรื่องนี้กับติงเหมาเลย แต่เขากลับเตรียมมันเอาไว้ให้เธอ
เขาบอกกับลั่วอินแบบนี้ "ไม่ว่าจะแบบตะวันตกหรือตะวันออก แบบทางเหนือหรือทางใต้ เจ้าสาวคนอื่นมี เจ้าสาวของฉันก็ต้องมีเหมือนกัน! ต้องจ่ายเท่าไหร่ไม่สำคัญ แค่เธอมีความสุขก็พอแล้ว! ฉันเก็บเงินมาตั้งครึ่งชีวิต ไม่มีที่ไหนให้ฉัน ถ้าไม่ใช้ตอนนี้แล้วจะใช้ตอนไหน! เรื่องต่าง ๆ ในงานแต่งเธอช่วยฉันจัดการก็แล้วกัน แล้วก็ยังมีพวกชุดแต่งงาน รัดเกล้าแต่งงานก็เอามาอย่างละชุด!"
ลั่วอินเลียนเสียงแล้วก็ท่าทางการพูดของเขา ขายติงเหมาให้ยวี่เฟิ่งเจียวฟัง ยวี่เฟิ่งเจียวหัวเราะจนน้ำตาไหล ในใจของเธอทั้งสงสารแล้วก็รู้สึกดีไปด้วยพร้อมกัน
"คนโง่เอ๊ย"
เครื่องทองสามชิ้นมาจากบริษัทหนานจิวเวลรี่ ลั่วอินเป็นคนออกแบบเองกับมือ หนานซ่งเป็นคนแกะสลักเองทุกชิ้น ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับยวี่เฟิ่งเจียวและติงเหมา
"ว้าว พวกเธอใจกว้างจัง!"
ติงเหมาเซอร์ไพรซ์เป็นอย่างมาก เขาเอาแขนพาดไหล่ลั่วอินเอาไว้อย่างมีความสุข "อย่างนั้นฉันไม่เกรงใจละนะ!"
หนานหนิงซงค่อย ๆ เอาแขนของเขาออกจากไหล่ของลั่วอิน จากนั้นก็พูดนิ่ง ๆ : "ไปโอบเมียแกสิ"
ติงเหมาเหล่ตามองเขา "แกนี่มันขี้เหนียวจริง ฉันกับอาอินเป็นเพื่อนรักกัน พาดนิดโอบหน่อยเป็นไรไป?"
"กันไฟกันขโมยกันเพื่อนสนิท แกไม่รู้หรือไง" หนานหนิงซงไม่มีทางปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นมีโอกาสแตะต้องภรรยาของเขา
ติงเหมาหมดคำพูด เขาคร้านจะสนใจพวกเขาต่อ ก็เลยเดินไปอ้อนยวี่เฟิ่งเจียวที่อยู่อีกทาง
หนานซ่งยืนมองอยู่ข้าง ๆ เธออดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ คนแก่พวกนี้ พอได้แสดงความรักกันก็ทำเหมือนรอบข้างไม่มีใครเลยนะ ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นบ้างเลย
อย่างนี้มันดีจริงเหรอ?
อยู่ ๆ ไหล่ของเธอก็โดนใครบางคนโอบ พอเธอหันไป ก็เจอกับสายตาแพรวพราวของยวี่จิ้นเหวิน "ทำอะไร?"
มาจับโน่นแตะนี่ มันเหมาะสมหรือไง?
ยวี่จิ้นเหวินมองเธอ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วก็อบอุ่น "ก็แค่รู้สึกว่า ตอนนี้ถ้าไม่โอบไหล่สักหน่อย ก็ดูเหมือนจะเป็นคนไม่เข้าพวก"
"......"
ดังนั้น นี่ก็คือเหตุผลที่เขาโอบไหล่ของเธออย่างนั้นเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...