สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 478

ยวี่เฟิ่งเจียวรู้สึกว่าเสิ่นหลิวซูนี่น่าสนใจนัก

แต่ก่อนตอนที่ยังคบอยู่กับเธอ วัน ๆ เขาต้องคอยไปหาโจ๋เยว่ ตอนนี้เขาแต่งงานกับโจ๋เยว่แล้ว แต่กลับมาหาเธอได้แทบจะทุกวัน

ถ้าเกิดว่าเขารักอิสระขนาดนั้น ไม่ชอบถูกผูกมัดด้วยการแต่งงาน อย่างนั้นเขาจะแต่งงานไปทำไม?

บางทีผู้ชายบางคนก็เป็นแบบนี้ ไม่รักดี

เสิ่นหลิวซูค่อย ๆ พูดออกมา "อาเจียว......"

"เสิ่นหลิวซู วันนี้เป็นวันดีของฉัน คุณช่วยเลิกทำตัวน่ารังเกียจสักวันจะได้ไหม?"

ครั้งนี้ยวี่เฟิ่งเจียวไม่ได้เมินเขา แต่ว่าเขาออกมาตรง ๆ อย่างไม่เกรงใจ

"วันดี วันดีอะไร?"

เสิ่นหลิวซูชะงักไปทันที หัวใจของเขาเต้นแรง

"คิดว่าไงละ"

ติงเหมาเอาทะเบียนสมรสออกมาจากกระเป๋า จากนั้นก็โบกมันไปมาต่อหน้าเสิ่นหลิวซู จากนั้นก็ประกาศออกมาเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ "ต่อไปเฟิ่งหวาก็คือภรรยาของฉัน มีแค่พวกเราสองคนเท่านั้น ส่วนคนที่น่ารังเกียจก็หลีกไปให้ไกล!"

เฟิ่งหวา......

ดวงตาของเสิ่นหลิวซูหดลง

เขารู้ นี่ก็คือชื่อเล่นสมัยเด็กของยวี่เฟิ่งเจียว ตอนที่เพิ่งคบกันแรก ๆ เขาเคยเรียกเธอแบบนั้น แต่ว่าเขาโดนเธอห้ามเอาไว้เด็ดขาด เขากลัวว่าจะทำให้เธอโมโห ตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่เคยเรียกเธอแบบนั้นอีกเลย

แต่ตอนนี้ เธอกลับอนุญาตให้ติงเหมาเรียกชื่อเล่นในวัยเด็กของเธอตอนไหนยังไงก็ได้

แถม พวกเขายังจดทะเบียนสมรสกันแล้วด้วย!

เร็วขนาดนี้ เธอกลายเป็นภรรยาของคนอื่นไปแล้ว ไม่แม้แต่จะรอเขาด้วยซ้ำ

"เธอแต่งงานกับเขาแล้วเหรอ?"

ในลำคอของเสิ่นหลิวซูเหมือนมีอะไรค้างอยู่ เขาแสดงความรู้สึกหึงหวงออกมา "เธอมั่นใจนะว่าเขารักเธอจริง ? หรือว่าเขาก็แค่อยากได้เงินกับสถานะแล้วก็ชื่อเสียงทางสังคมจากเธอ......เธออย่าถูกเขาหลอกนะ"

"ไปให้พ้นเลยไอ้เวร!"

ติงเหมาถกแขนเสื้อขึ้นจากนั้นก็พุ่งเข้าไปชกใบหน้าของเสิ่นหลิวซูหนึ่งหมัด โบราณว่าไว้ว่าเวลาชกคนอย่าชกที่หน้า แต่ที่เขาชกอยู่น่ะ มันไม่ใช่คน!

ยวี่เฟิ่งเจียว ยวี่จิ้นเหวิน แล้วก็หนานซ่งยืนมองเฉย ๆ ไม่มีใครคิดจะเข้าไปห้าม

ใบหน้าของเสิ่นหลิวซูถูกชกเข้าไปเต็ม ๆ ทำให้ตัวของเขาเซไปชนกับผนัง ติงเหมาไม่รอให้เขาได้ยืนดี ๆ ก็เข้าไปเตะเข้าซ้ำอีกที ครั้งนี้เสิ่นหลิวซูล้มไปนั่งพิงอยู่กับกำแพง ในปากของเขามีรสชาติเค็มแล้วก็กลิ่นคาวคละคลุ้ง

ติงเหมามองเขาด้วยสายตาเย็นชา จากนั้นก็ด่าเขาออกมาชุดใหญ่ "คนกระจอกแบบมึง ก็แค่หนอนเน่าที่คลานออกมาจากกองขยะเท่านั้นแหละ ยังจะกล้ามาโวยวายต่อหน้ากูอีก! ตัวมึงมันเน่าไปยันกระดูกด้วยซ้ำ มึงคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนมึงหรือไง? มึงนี่มันต้นแบบนิสัยของคนชั้นต่ำแท้ ๆ ! กูจะบอกอะไรมึงให้นะไอ้คนสกุลเสิ่น ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามึงมีเวลาเหลืออีกไม่นาน กูส่งมึงกลับไปอยู่บ้านเก่านานแล้ว!"

ยวี่เฟิ่งเจียวกับยวี่จิ้นเหวินหน้าตึง มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาไร้เยื่อใย

แต่ดวงตาของหนานซ่งกลับหดเล็กลง เธอเม้มริมฝีปาก

"ไปกันเถอะค่ะอาจารย์ ไม่ต้องเสียเวลาพูดกับเขาหรอก"

ยวี่จิ้นเหวินพยุงยวี่เฟิ่งเจียวเดินเข้าไปด้านใน หนานซ่งเองก็กระชากตัวติงเหมาตามไปเหมือนกัน ทิ้งเสิ่นหลิวซูเอาไว้ที่มุมกำแพงเพียงคนเดียว ที่โหนกแก้มของเขามีรอยช้ำสีม่วงรอยใหญ่ เขากุมหน้าท้องของตัวเองไว้แล้วไอโขลก ๆ ออกมาอย่างแรง

เขาไอจนเจ็บอวัยวะภายในไปหมด ร่างกายของเขาอ่อนล้า ไร้เรี่ยวแรงราวกับหมาข้างถนนที่ถูกทิ้ง

เขาเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าสีหม่น นึกถึงภาพแม่ของตัวเองที่นอนอยู่บนฟูกเพราะป่วยหนัก เธอบอกเขาว่า "ลูกชาย ใช้ชีวิตให้ดี ๆ นะ พยายามมีชีวิตที่ดี เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ!"

สุดท้ายแล้ว เขาเองนั้นไม่สามารถมีชีวิตที่ดีได้

สุดท้ายแล้ว เขาก็ไม่สามารถเป็นคนที่ดีได้

-

ตอนแรกก็เป็นวันที่ดีมีความสุขแท้ ๆ เพราะว่าหนูสกปรกอย่างเสิ่นหลิวซู อาหารมื้อนี้แทบจะเป็นหมันไปเสียแล้ว

ติงเหมาไม่ค่อยจะได้ชกต่อยกับใครเท่าไหร่ พอออกแรงชกแรง ๆ หลังของเขาก็เกิดเป็นรอยแดงขึ้นมาเป็นวงกว้าง

ยวี่เฟิ่งเจียวไม่ได้เป็นห่วงเสิ่นหลิวซูที่โดนชกจนใบหน้าฟกช้ำดำเขียวเลยแม้แต่น้อย แต่เธอเป็นห่วงติงเหมาที่ไปชกคนอื่นจนมือแดงมาก ๆ ยังไงก็ต้องทายาให้เขาให้ได้

เธอไม่เคยพูดเรื่องนี้กับติงเหมาเลย แต่เขากลับเตรียมมันเอาไว้ให้เธอ

เขาบอกกับลั่วอินแบบนี้ "ไม่ว่าจะแบบตะวันตกหรือตะวันออก แบบทางเหนือหรือทางใต้ เจ้าสาวคนอื่นมี เจ้าสาวของฉันก็ต้องมีเหมือนกัน! ต้องจ่ายเท่าไหร่ไม่สำคัญ แค่เธอมีความสุขก็พอแล้ว! ฉันเก็บเงินมาตั้งครึ่งชีวิต ไม่มีที่ไหนให้ฉัน ถ้าไม่ใช้ตอนนี้แล้วจะใช้ตอนไหน! เรื่องต่าง ๆ ในงานแต่งเธอช่วยฉันจัดการก็แล้วกัน แล้วก็ยังมีพวกชุดแต่งงาน รัดเกล้าแต่งงานก็เอามาอย่างละชุด!"

ลั่วอินเลียนเสียงแล้วก็ท่าทางการพูดของเขา ขายติงเหมาให้ยวี่เฟิ่งเจียวฟัง ยวี่เฟิ่งเจียวหัวเราะจนน้ำตาไหล ในใจของเธอทั้งสงสารแล้วก็รู้สึกดีไปด้วยพร้อมกัน

"คนโง่เอ๊ย"

เครื่องทองสามชิ้นมาจากบริษัทหนานจิวเวลรี่ ลั่วอินเป็นคนออกแบบเองกับมือ หนานซ่งเป็นคนแกะสลักเองทุกชิ้น ถือว่าเป็นของขวัญวันแต่งงานให้กับยวี่เฟิ่งเจียวและติงเหมา

"ว้าว พวกเธอใจกว้างจัง!"

ติงเหมาเซอร์ไพรซ์เป็นอย่างมาก เขาเอาแขนพาดไหล่ลั่วอินเอาไว้อย่างมีความสุข "อย่างนั้นฉันไม่เกรงใจละนะ!"

หนานหนิงซงค่อย ๆ เอาแขนของเขาออกจากไหล่ของลั่วอิน จากนั้นก็พูดนิ่ง ๆ : "ไปโอบเมียแกสิ"

ติงเหมาเหล่ตามองเขา "แกนี่มันขี้เหนียวจริง ฉันกับอาอินเป็นเพื่อนรักกัน พาดนิดโอบหน่อยเป็นไรไป?"

"กันไฟกันขโมยกันเพื่อนสนิท แกไม่รู้หรือไง" หนานหนิงซงไม่มีทางปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นมีโอกาสแตะต้องภรรยาของเขา

ติงเหมาหมดคำพูด เขาคร้านจะสนใจพวกเขาต่อ ก็เลยเดินไปอ้อนยวี่เฟิ่งเจียวที่อยู่อีกทาง

หนานซ่งยืนมองอยู่ข้าง ๆ เธออดจะถอนหายใจออกมาไม่ได้ คนแก่พวกนี้ พอได้แสดงความรักกันก็ทำเหมือนรอบข้างไม่มีใครเลยนะ ไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นบ้างเลย

อย่างนี้มันดีจริงเหรอ?

อยู่ ๆ ไหล่ของเธอก็โดนใครบางคนโอบ พอเธอหันไป ก็เจอกับสายตาแพรวพราวของยวี่จิ้นเหวิน "ทำอะไร?"

มาจับโน่นแตะนี่ มันเหมาะสมหรือไง?

ยวี่จิ้นเหวินมองเธอ เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงสดใสแล้วก็อบอุ่น "ก็แค่รู้สึกว่า ตอนนี้ถ้าไม่โอบไหล่สักหน่อย ก็ดูเหมือนจะเป็นคนไม่เข้าพวก"

"......"

ดังนั้น นี่ก็คือเหตุผลที่เขาโอบไหล่ของเธออย่างนั้นเหรอ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา