หนานซ่งเห็นภาพน้ำเน่าอยู่ไม่ไกล ก็ยิ้มขณะที่ขอบตาแดงโดยไม่รู้ตัว
ตั้งแต่เมื่อไรกัน ที่จากลากันมันยากแบบนี้?
เธอพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง โบกมือให้กับยวี่จิ้นเหวิน คิดสักพัก ก็ทำมือเป็นรูปหัวใจอยู่เหนือศีรษะ
เมื่อก่อนตอนเขาทำให้เธอ เธอก็รังเกียจที่เขาทำตัวเป็นเด็ก ตอนนี้ตัวเองกลายเป็นเด็กนั้นแล้ว
ก็อาจจะเพราะอยู่ใกล้ใครก็เป็นแบบนั้นก็ได้ล่ะมั้ง
ยวี่จิ้นเหวินโดน “หัวใจ” เธอกระแทกอยู่ที่เดิม มองเธอโบกมืออย่างอึ้งๆ หันตัวและเดินจากไป
แค่รู้สึกหัวใจมีเข็มทิ่ม มันเจ็บปวดอย่างอึดอัดมาก
ตอนนี้ในหัวสมองมีแค่ความคิดเดียว: ต้องรีบจบชีวิตระหว่างสองเมืองนี้โดยเร็ว
ปฏิเสธความรักทางไกล!
*
กลับมาถึงเมืองหนาน หนานซ่งเข้าสู่ช่วงที่ยุ่งวุ่นวาย
ยุ่งทั้งในบ้านและนอกบ้านไม่หยุด
งานแต่งหนานหลินใกล้จะมาถึง ทั้งตระกูลหนานก็ยุ่งมากเพื่อเตรียมจัดงานแต่ง
ธรรมเนียมการแต่งงานในเมืองหนานนั้นซับซ้อน งานแต่งลั่วอินและหนานหนิงซง ลูกสาวครอบครัวเราก็ต้องมีอย่างลูกสาวครอบครัวคนอื่น การต้อนรับขับสู้ต่างๆ เดิมทีแล้วหนานหลินรู้สึกว่าที่หนานซ่งเตรียมบ้านหลังหนึ่งกับรถคันหนึ่งให้เธอมันก็มากพอแล้ว รู้สึกได้รับการโปรดปรานจนประหลาดใจ ได้รับจนรู้สึกละอายใจซาบซึ้งจนอยากตอบแทน ไม่คิดว่าลั่วอินและหนานหนิงซงโอเวอร์ยิ่งกว่า
ลั่วอินให้ทุกคนในตระกูลหนานเย็บผ้านวมมงคลด้วยกันกับมือ วันนั้นหนานซ่งกลับมาถึงบ้านก็ตกใจ ลานบ้านเต็มไปด้วยผ้าฝ่ายที่ซื้อมาจากสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีผ้าปูที่นอนสีแดงอันใหญ่ เต็มอยู่ในลานบ้าน เธอเกือบสงสัยว่าตัวเองเข้าผิดบ้านหรือเปล่า
เมื่อเข้ามาในประตูบ้านยิ่งตกใจ คุณนายลั่วอินในห้องรับแขกรวมถึงพ่อบ้านจ้าวพาเหล่าคนรับใช้นั่งพื้นเย็นผ้านวมมงคล ไม่ใช่แค่สาวรับใช้ บอดี้การ์ดชายก็ร่วมด้วย นายเคและเหล่านายท่านทั่วทุกทิศกำลังถือเข็มปัก อีนุงตุงนังกันด้วยใบหน้าจริงจัง ภาพแปลกๆ นั้นดูอย่างไรแล้วก็น่าประหลาดใจ ดูอย่างไรแล้วก็น่าขำ……
“นี่พวกคุณกำลังถ่ายหนังเหรอ?” หนานซ่งหากล้องทั่วทั้งห้องรับแขก
ลั่วอินกำลังเรียนวิธีปักเข็มจากพ่อบ้านจ้าว เห็นลูกสาวกลับมา ไม่ต้อนรับ แถมยังกลอกตาใส่เธออีก “ถ่ายหัวลูกน่ะสิ กำลังเย็บผ้านวมมงคลให้หลินหลินอยู่ ลูกกลับมาก็พอดีเลย รีบวางกระเป๋า เปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วมาทำกับเรา”
เธอพูด “พ่อบ้านจ้าวสอนลูกมาตั้งหลายปี สอนในงามสงบมานาน ถึงเวลาที่ลูกต้องปฏิบัติจริงแล้ว”
หนานซ่งเพิ่งลงจากเครื่อง อยากจะพักผ่อนสักหน่อย ไม่อยากทำอะไร
สายตาเฉียบคมของลั่วอินจ้องมอง หรี่ตา “เกือบลืม เมื่อก่อนลูกเคยเย็บสนับเข่ากับผ้าห่มให้อดีตแม่สามีไม่ใช่เหรอ ลูกบอกว่าอยากเย็บให้แม่สักสองสามชิ้นนี่? ไหนสนับเข่า? ไหนผ้าห่ม?!”
“……” เริ่มคิดบัญชีหลังฤดูใบไม้ร่วงอีกครั้ง ไม่มีวันจบสิ้น
หนานซ่งปวดหัวกับเรื่องนี้ “นี่จะเข้าฤดูร้อนแล้ว แม่ไม่ได้ใช้หรอก เย็บไปก็เปลือง ถึงหน้าหนาวค่อยว่ากัน”
“ลูกเลิกให้ความหวังแม่สักที แม่ไม่ติดกับดักหรอก”
ลั่วอินพูดด้วยความเคือง “เลี้ยงลูกมาเสียเปล่าตั้งหลายปี ตอนเด็กๆ ไม่มีน้ำใจ เร็ว รีบมาช่วย!”
หนานซ่งหมดหนทาง “ได้ค่ะ รอฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
พอขึ้นไปชั้นบนเธอก็บ่นกับยวี่จิ้นเหวิน 【แม่ฉันเริ่มเปรียบเทียบกับคุณน้ายวี่อีกแล้ว บอกว่าเลี้ยงลูกสาวให้คุณน้ายวี่】
ยวี่จิ้นเหวินตอบกลับอย่างรวดเร็ว 【เธอบอกน้าลั่วสิ ว่าแม่ฉันเลี้ยงลูกชายให้หล่อน】
หนานซ่งเม้มปากหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็พูดขึ้น 【มันไม่เหมือนกัน แม่ฉันไม่ขาดลูกชายนะ】
【ก็จริง】 ยวี่จิ้นเหวิน: 【ไม่เป็นไร ฉันเป็นลูกสาวก็ได้】
หนานซ่ง:ขำพรวด
เพื่อประจบสอพลอว่าที่แม่ยาย เจ้าปลาแห้งเขาสู้ตาย
เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว หนานซ่งก็ลงมาข้างล่าง เดินมาด้านหลังแม่แล้วเหลือบมอง ตกใจจนพูดไม่ออก “ฝีมือเข็มของแม่ ไม่ได้นะนั่น”
*
หลังจากหนานซ่งกลับไปถึงเมืองหนาน หาเวลานัดกับเฮ่อเสี่ยวเหวิน เล่าเรื่องที่เจอหวังผิงในพิธีฝังศพ
เฮ่อเสี่ยวเหวินไม่รู้ว่าหวังผิงกับเสิ่นหลิวซูคือคนบ้านเดียวกัน จึงตกใจอย่างมาก
“หวังผิงไม่เล่าเรื่องของเขาให้คุณฟังเหรอ?”
เฮ่อเสี่ยวเหวินส่ายหน้า “น้อยมาก ฉันก็ไม่ได้สนใจด้วย”
เขาเขย่ากาแฟ “งานแต่งของฉันกับหวังผิงมันเป็นเรื่องไร้สาระตั้งแต่แรก ก่อนแต่งกับฉันเขาเคยแต่งมาแล้วสองรอบ ฉันก็เคยสองรอบ รู้สึกเฉยๆ กับเรื่องแต่งงาน มันก็แค่กระดาษใบหนึ่ง ต่างคนต่างอยู่แบบส่วนตัว ไม่ก้าวก่ายกันและกัน”
การแต่งงานของครอบครัวร่ำรวยมีอยู่ทุกที่ แม้แต่วงการบันเทิงก็เป็นแบบนี้ ไม่รู้ว่าสามีภรรยากันแค่ในนามมีเท่าไร ต่างเที่ยวเล่นกันแบบส่วนตัว บางครั้งการแสดงความรักก็เป็นปฏิสัมพันธ์เพียงหนึ่งเดียว หนานซ่งเห็นมาเยอะมาก เห็นจนชินแล้ว
“แล้วหวังผิงกับโจ๋เซวียน คบกันได้ยังไงตอนแรก?”
หนานซ่งพูด “พูดตรงๆ นะ ฉันตรวจสอบหวังผิงแล้ว ที่อยู่เขาคาดเดาไม่ถูก นอกจากโจ๋เซวียน ฉันก็ตรวจสอบไม่เจอว่าเขามีคนรักอื่นอยู่ข้างนอก สมัยก่อนฉันคิดว่าเสิ่นหลิวซูจับคู่โจ๋เซวียนให้หวังผิงเพื่อปกป้องโจ๋เยว่ ครั้งนี้มาเจอกับหวังผิง ฉันก็เกิดความรู้สึกนี้อย่างอธิบายไม่ถูก ว่าเรื่องนี้มันไม่ง่ายแบบนั้น เขาก็ไม่เหมือนชอบคนประเภทโจ๋เซวียน”
“ถ้าคุณพูดแบบนี้ ที่จริงแล้วตอนนั้นฉันก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน”
เฮ่อเสี่ยวเหวินวางแก้วกาแฟไว้ “พูดออกมาคุณอาจจะไม่เชื่อ ฉันรู้จักโจ๋เซวียน หวังผิงออกตัวอธิบายกับฉัน บอกว่าเขามีคนรักอยู่ข้างนอก หวังว่าฉันจะออกหน้าช่วยเขาแก้ไขได้ ที่จริงแล้วฉันไม่สนใจเมียน้อยของเขาเลย ไม่อยากสนด้วย ได้รู้จักกับจิงจิงพอดี และได้ยินจากลั่วโยวเกี่ยวกับเรื่องของคุณ ก็เลยโกรธมาก จัดการโจ๋เซวียน”
หนานซ่งได้ยินดังนั้น ระหว่างคิ้วเต็มไปด้วยประหลาดใจ ไม่คิดว่าหวังผิงจะออกตัวเชิญเธอไปจัดการโจ๋เซวียน?!
ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงสิ่งที่หวังผิงพูดกับเธอในพิธีงานศพในวันนั้น——
“ได้ยินว่าพวกคุณกลายเป็นเพื่อนรักกัน ร่วมมือกันมาก”
“สาวน้อยคนนั้น ไม่ใช่คนที่เป็นเพื่อนตามใจชอบได้”
ในสมองหนานซ่งมีสายธนู แล้วมันก็ตึงทันที
หรือจะบอกว่า เฮ่อเสี่ยวเหวินและชีจิงจิง รวมถึงเธอกลายเป็นเพื่อน ล้วนเป็น “คนกลาง” และ “จัดเตรียม” อย่างลับๆ ของหวังผิง?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...