รถคันสีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูของสวนกุหลาบ
หน้าต่างรถถูกลดลงมาเล็กน้อย คนที่นั่งอยู่ที่ตำแหน่งเบาะโดยสารด้านหลัง แต่งตัวสบาย ๆ ที่ปลายนิ้วของเขาคีบซิการ์เอาไว้มวนหนึ่ง เขากำลังสูบมันด้วยท่าทีไม่รีบร้อน คอยเคาะเถ้าซิการ์ที่ขอบหน้าต่างรถเป็นบางครั้ง สายตาของเขากำลังมองเข้าไปยังสวนกุหลาบ แววตาของเขาเรียบนิ่ง เขานั่งอยู่เงียบ ๆ ราวกับตนเองนั้นเป็นรูปสลัก
คนขับรถที่นั่งเงียบ ๆ อยู่เป็นเพื่อนเขามาพักใหญ่แล้ว ทนไม่ไหวจนต้องถามออกมา: "คุณผู้ชาย พวกเราจะไม่ลงไปดูหน่อยเหรอครับ?"
หวังผิงพูดด้วยเสียงเรียบ: "ไม่ต้อง"
"......"
บอกว่าไม่ต้อง แต่ว่าสายตาที่มองไปที่สวนกุหลาบนั้นมันยังไม่ขยับไปไหน แถมแทบจะมองทะลุเข้าไปด้านในแล้วด้วยซ้ำ
คนขับรถอดทนต่อไป แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้อยู่ดี "คุณผู้ชาย ผมขอพูดมากหน่อยแล้วกัน ผู้หญิงน่ะ เราต้องเอาใจเขาหน่อยนะครับ คุณผู้ชายเพิ่งจะทะเลาะกับคุณผู้หญิงเฮ่อมา จากนิสัยของเธอ อาจจะไม่ยอมออกมาเจอคุณก็ได้ ยังไงเราก็มาถึงที่นี่แล้ว เราก็ลดระดับความสูงของบันไดของเราให้มันต่ำลงสักนิดสิครับ คนเขาจะได้มาหาเราได้ง่าย ๆ คุณผู้หญิงเฮ่ออาจจะเอาแต่ใจไปบ้าง แต่ว่าเธอก็มีเหตุผลนะครับ อีกเรื่องก็คือ เรามาถึงบ้านของตระกูลหนานทั้งที ถ้าไม่ลงไปจะดูไม่เหมาะนะครับ"
ได้ฟังคำบ่นเพราะความเป็นห่วงราวกับคุณยายของคนขับรถ หวังผิงยังคงมีสีหน้าเช่นเดิม บอกออกมาแค่ว่า: "พูดมากไปแล้ว"
คนขับรถ: "......"
เยี่ยม พูดไปก็เท่านั้น
ในสวนกุหลาบ กำลังมีสายตาคู่หนึ่งมองออกไปด้านนอกเช่นเดียว คิ้วของคนมองขมวดเข้าหากันจนแทบจะเป็นปมแน่น
ลั่วอินถามพ่อบ้านจ้าวด้วยความไม่สบอารมณ์ "คนข้างนอกนั่นยังไง ไม่ใช่ว่ามารับคนหรอกเหรอ ทำไมถึงยังไม่ลงมาจากรถอีก?"
พ่อบ้านจ้าวตอบ: "ผมออกไปถามแล้วครับ เห็นบอกว่าพวกเขารับคนเสร็จก็จะไปเลย ก็เลยไม่อยากรบกวน"
ลั่วอินพูด: "เหอะ มาบ้านคนอื่นเขาแล้วไม่เข้ามาทักทาย ใหญ่โตจริงนะคนคนนี้ ตกลงแล้วหัวหน้าหวังคนนี้เป็นใครกัน ได้ยินชื่อเขามาหลายครั้งแล้ว"
พวกหัวหน้าหน่วยต่าง ๆ ในเมืองหนาน พวกเขารู้จักทั้งนั้น แต่อย่างไรเสียคนนี้ก็เกษียณไปหลายปีแล้ว เลยไม่ค่อยจะรู้จักมักคุ้นเท่าไหร่
"ดูมีเรื่องราวให้ฟังพอสมควร อายุยังน้อยแต่ว่ามีชื่อเสียงมาก แถมยังเป็นคนติดดินอีกด้วย"
หนานหนิงซงเองก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่ายังไม่เคยไปตรวจสอบจริงจัง "เรื่องของหนานซ่งในครั้งนี้ เขาเองก็มีส่วนช่วยอยู่ไม่น้อย"
"อย่างนั้นเหรอ?"
ลั่วอินได้ฟัง คิ้วเรียวของเธอก็ยกขึ้น "ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็ควรจะเชิญเขาเข้ามาด้านใน ควรจะขอบคุณเขาเสียหน่อย"
ระหว่างที่พูด เธอก็ลุกขึ้นเพื่อที่จะไปต้อนรับเขาด้วยตัวเอง
หนานหนิงซงมองภรรยาของตัวเองที่กำลังรีบเดินออกไปด้านนอก แล้วก็ส่ายหน้า เขารู้อยู่แล้ว ว่าเขาไม่มีทางห้ามความสงสัยของเธอได้
ในตอนที่คนขับรถกำลังจะบอกอะไรกับหวังผิง เขาก็มองเห็นเงาของคนกำลังเดินมาทางนี้อยู่ไกล ๆ ก็เลยรีบร้องว่า "ไอ้หยา" ออกมา "ดูเหมือนว่าคุณผู้หญิงหนานจะออกมาแล้วครับ!" ระหว่างที่พูด เขาไม่สนใจว่าหวังผิงจะลงไปจากรถด้วยกันหรือไม่ แต่ตัวเขานั้นได้เปิดประตูลงไปจากรถเรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดชุดของตัวเองเล็กน้อย
ถ้าเกิดว่าเป็นคนเมืองหนาน ไม่มีใครที่ไม่รู้จักท่านประธานหนานแล้วก็คุณผู้หญิงหนาน แล้วก็ไม่มีใครที่ไม่เคารพพวกเขา
หวังผิงมองลั่วอินที่เดินลงมาจากบันไดแล้วเดินออกมาจากสวน จากนั้นก็เดินตรงมายังเขา แววตาก็มีประกายพาดผ่าน คิ้วของเขาขยับเล็กน้อย
เถ้าซิการ์ตกลงมาใส่มือเขา มันแสบร้อนราวกับไฟลวก
รู้สึกเหมือนตรงหน้า กำลังมีไฟลุกโชน
ไม่มีที่สิ้นสุด
"คุณผู้หญิงหนาน" คนขับรถเข้าไปทักทาย แล้วโน้มตัวให้ลั่วอินเพื่อแสดงความเคารพ
ประตูด้านหลังค่อย ๆ เปิดออก สายตาอยากรู้อยากเห็นของลั่วอินมองไปทางนั้น อยากจะเห็นว่าหัวหน้าหวังที่หลายคนพูดกันหน้าตาเป็นยังไง
ทว่าเมื่อประตูถูกเปิดออก ภาพที่สะท้อนเข้ามาในนัยน์ตา เป็นใบหน้าที่ดูเฉย ๆ ทั่วไป ไม่มีจุดเด่นอะไร
ก็เป็นคนที่พอจะบอกได้ว่าธรรมดาทั่วไป เรื่องหล่อ......ก็ไม่ได้หล่อตรงไหน
"ได้ครับ ไม่อย่างนั้นคงเสียมารยาทแย่"
หวังผิงไม่ได้ปฏิเสธอีก เขาให้คนขับรถเปิดท้ายรถแล้วเอาเหล้ากับใบชาออกมาอย่างละลัง จากนั้นก็ถือเข้าไปในบ้าน
ลั่วอินพูดปฏิเสธแบบพอเป็นพิธี ที่พูดว่าพอเป็นพิธี เพราะว่าจนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ชินกับมารยาทพวกนี้
วิธีที่เธอชินนั้นก็คือ ถ้ามีคนให้ของขวัญเธอ เธอก็จะรับมันไว้เลย หลังจากนั้นก็ค่อยหาของที่มีราคาใกล้กัน ส่งกลับคืนไป นี่คือ "มารยาทของเธอ" หนานซ่งเองก็เรียนมันมาจากเธอ เพราะฉะนั้นในเวลาทั่วไปเธอก็จะทำแบบนี้เหมือนกัน ดังนั้นสองแม่ลูกก็เลยหันไปมองตากันเล็กน้อย แล้วคิดในใจว่าหัวหน้าหวังคนนี้ไม่ได้เก่งเรื่องเข้าหาคนเท่าไหร่ แต่ว่าเขาเองก็ยังเรียนรู้เรื่องมารยาทเอาไว้บ้าง มิน่า เขาถึงได้มีชีวิตที่ดี ที่คนอื่นเขาประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผล
ดังนั้น ถึงได้เข้าไปด้านในสวนกุหลาบกัน
พอเข้าไปด้านใน หวังผิงก็สบตากับเฮ่อเสี่ยวเหวิน
เฮ่อเสี่ยวเหวินไม่คิดว่าเขาจะเข้ามาจริง ๆ ตอนแรกเธอก็ยังเอาแต่ใจอยู่บ้าง ก็แค่คิดว่าเขามารับเธอแต่ไม่เห็นจะยอมลงมาจากรถเลย แบบนั้นมันดูไม่จริงใจเลยสักนิด แต่ว่า ตอนที่เขาลงมาจากรถจริง ๆ แถมยังถือเหล้าถือชามาด้วย ราวกับเขานั้นมาเยี่ยมเยียนคนอื่น เธอก็รู้สึกหวานซึ้งในใจ
เมื่อก่อนเวลาหวังผิงไปที่ไหนเขาแทบจะไม่เอาพวกของเยี่ยมไปด้วย พอโดนเธอบ่นเข้านานหน่อย ถึงได้ยอมทำตาม "ธรรมเนียม" พวกนี้บ้าง
เฮ่อเสี่ยวเหวินบ่นเขาอยู่หลายครั้ง "ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าคุณเอาตัวเองมาอยู่ที่จุดจุดนี้ได้ยังไง......"
แต่ว่า ตอนที่เขาถอดเสื้อ แล้วเธอได้เห็นพวกรอยบาดแผลต่าง ๆ บนตัวเขา เธอก็รู้ว่าที่เขามีวันนี้ได้นั้น ก็เพราะตัวเขาเองล้วน ๆ
หวังผิงมองเฮ่อเสี่ยวเหวิน เฮ่อเสี่ยวเหวินรู้สึกกลัวเล็กน้อย เธอก็เลยบีบนิ้วของตัวเองอยู่ทางด้านหลังของเธอ
นานครั้งที่หนานซ่งจะได้เห็นเฮ่อเสี่ยวเหวินทำตัวเหมือนสาวน้อยแบบนี้ เธอนั่งมองเพื่อนโดนแกล้งอยู่ข้าง ๆ แล้วคิดในใจ: ยอมทำตัวแบบนี้ก้เพราะผู้ชายจริง ๆ
หวังผิงยังคงมีสีหน้าแบบเดิม แต่สายตาของเขานั้นกลับเผยความรู้สึกหน่ายใจ แล้วยื่นมือไปทางเฮ่อเสี่ยวเหวิน
เฮ่อเสี่ยวเหวินก็ยอมเดินไปหาเขาดี ๆ ราวกับลูกแมวตัวน้อย
แถมยังไม่ลืมที่จะส่งสายตามาหาหนานซ่ง เพื่อบอกถึงชัยชนะของเธอ: แผนสำเร็จ เย้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา
ต่อๆค่ะรอนานแล้ว...
อยากอ่านเร็วๆทำไงดี...
มีถึงตอนจบมั๊ยค่ะ อ่านสนุกมากเลย อ่านจบตอนทีลง 940 แล้วค่ะมีต่ออีกม่ะค่ะ รอๆอยู่ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
ทำไมตั้งแต่บทที่ 57 ขึ้นไปมี 4-5 บรรทัดตอนสั้นๆล่ะ...
แอด..ช่วยกลับมาลงต่อหน่อยจ้า .อย่าเทกันแบบนี้😄😄...
1...
1...
พี่ยวี่..ตายจริงไหม.ใครเป็นพระเอกอ่ะ😂😂...
สนุกมาก.....
นางเอกไม่น่าให้อภัยนะ เพราะผู้ชายใจดำ ดูแลมาตั้งสามปี ไม่เคยทำดีด้วยแล้วจู่ๆก็ทิ้ง นี่ถ้าไม่ถูกเปิดโปง เขาก็จะแต่งกับนังโจ๋...