สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 650

ในที่สุด ลั่วอินก็ได้ทำตัวเป็นแม่ต่อหน้าคนนอกเสียที เธอเป็นคนพูดขอบคุณกับหวังผิงด้วยตัวเอง

ขอบคุณที่เขาช่วยหนานซ่งล้างความผิดที่เธอไม่ได้ก่อ ทำให้เธอกลับมาเป็นผู้บริสุทธิ์อีกครั้ง

หวังผิงกลับไม่รับความดีความชอบนั้นไว้ เขาพูดออกมานิ่ง ๆ : "ผู้ที่บริสุทธิ์ย่อมรู้ดีว่าตนนั้นบริสุทธิ์ ผู้ที่มีความผิดย่อมรู้ดีว่าตนนั้นมีความผิด การจัดการเรื่องพวกนี้เป็นงานของตำรวจ ไม่จำเป็นที่จะต้องขอบคุณครับ"

ตอนที่กำลังพูด สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่ลั่วอิน แต่ลั่วอินนั้นกลับเหม่อไปอีกครั้ง

เป็นครั้งแรกที่เธอเป็นแบบนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปต้องถูกหาว่าโดนสะกดจิตแน่

"หัวหน้าหวัง พวกเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าคะ?"

ลั่วอินถามออกไปตรง ๆ ถ้ามีเรื่องสงสัยในใจก็ถามออกไปตรง ๆ เธอไม่ให้โอกาสให้ตัวเองได้ลองคิดเองเออเองเลยแม้แต่วินาที

คำถามที่ถูกถามออกมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่ใช่แค่หัวหน้าหวังกับเฮ่อเสี่ยวเหวิน แม้แต่คนในตระกูลหนานเอง ก็พากันเงยหน้าขึ้นมามองลั่วอิน

หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินหันมองหน้ากัน

คำพูดแบบนี้ ถ้าเกิดเป็นคนอื่นพูดออกมา คนคงจะมองว่ากำลังจีบกันอยู่แน่ ๆ แต่ว่าพอมันหลุดออกมาจากปากของลั่วอิน ทำไมพอได้ฟังแล้วถึงรู้สึกแปลกประหลาดก็ไม่รู้

หวังผิงยังคงมีสีหน้าแบบเดิม ราวกับ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ไม่มีผลต่อความรู้สึกของเขาทั้งนั้น

เขาถาม "เคยเจอกันเหรอครับ?"

ลั่วอินตอบ: "ฉันรู้สึกว่าคุณดูคุ้น ๆ มักจะรู้สึกว่า ฉันเคยเจอคุณที่ไหนมาก่อน"

ได้ยินแบบนั้น หวังผิงก็ยกยิ้มเล็กน้อย มันเป็นองศาความโค้งที่เล็กน้อยมากจริง ๆ

"คนตั้งเยอะตั้งแยะ บางทีอาจจะเคยเจอกันก็ได้ครับ บางที คุณผู้หญิงอาจจะรู้สึก ถูกชะตากับผม"

หนานซ่งเลิกคิ้ว

และนี่คือสิ่งที่เธอรู้สึกว่าแปลก เพราะว่าแม่ของเธอไม่ได้ถูกชะตากับใครง่าย ๆ ไม่ใช่ตั้งแต่แรกเจอ

ถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรก คำที่ใครก็ใช้ จะต้องมีเหตุผลอะไรอยู่แน่

แม่ของเธอเป็นคนที่ไม่พูดจาโกหกอ้อมค้อมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ถ้าเธอบอกแบบนี้ นั่นหมายความว่า เธอนั้นคุ้นตาหวังผิงจริง ๆ

อย่างนั้นปัญหาก็คือ เขาเป็นแฟนเก่าของแม่เธอหรือไง?

หลายคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น ภายในหัวของพวกเขาต่างก็มีสายตาที่เหมือนกันกับหนานซ่ง แม้แต่สีหน้าของหนานหนิงซงยังเปลี่ยนไป

มีแค่ลั่วอินเท่านั้น ที่ยังคงสีหน้าจริงจังเอาไว้

แม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกประหลาด ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับใครคนหนึ่งมากขนาดนี้ แถมคนคนนั้นยังไม่หล่ออีกด้วย!

ทำไมเธอถึงได้จำผู้ชายที่ไม่หล่อได้นะ?

แถมยังนึกไม่ออกอีกต่างหากว่าเคยเจอเขาที่ไหน

ลั่วอินก็เลยเอาแต่นั่งเท้าคางมองหวังผิง แล้วเอาแต่นั่งมองเขาด้วยท่าทีครุ่นคิด ท่าทางจริงจังแบบนั้นทำเอาคนกลัวกันเป็นแถว ๆ

หนานหนิงซงทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็เลยกระแอมออกมา เพื่อที่จะเตือนให้คุณนายของเขานั้นรักษากิริยาหน่อย

เฮ่อเสี่ยวเหวินกลับมีเสียงร้องเตือนดังอยู่ในใจ เธอควงแขนของหวังผิง จากนั้นก็ออกความเห็น: "พวกเราไปกันไหม?"

หวังผิงหันไปมองเฮ่อเสี่ยวเหวิน จากนั้นก็ตอบรับว่า "อืม"

เสียงตอบรับว่าอืมแค่ครั้งเดียว ทำให้หูของลั่วอินรู้สึกชาไปหมด เสียงที่ฟังดูคุ้นเคย มันกระแทกอกเธอเข้าอย่างจัง แม้แต่หัวใจของเธอก็ยังเต้นแรง ราวกับมีใครกำลังตีกลองอยู่ในนั้น ตัวเธอชา จนต้องนั่งหลังตรง

หวังผิงกับเฮ่อเสี่ยวเหวินลุกขึ้นแล้วบอกลาพวกเธอ หนานซ่งกับคนอื่น ๆ ตามไปส่งทั้งสองคน มีเพียงแค่ลั่วอินที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ขยับไปไหน

จนกระทั่งพวกเขากำลังจะเดินไปถึงประตู ลั่วอินก็พูดขึ้น "เดี๋ยวก่อน!"

ทุกคนหยุดเดิน จากนั้นก็ค่อย ๆ หันหน้ากลับมา

จนถึงตอนนี้ หนานซ่งเริ่มรู้สึกว่าแม่ของเธอนั้นผิดปกติ เพราะว่าใบหน้าของเธอ อยู่ ๆ ก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาแถมยังดูขาวซีด

สีหน้าแบบนี้ ไม่ใช่แค่ปีที่แล้ว หรือเมื่อก่อน แต่มันไม่เคยมีสีหน้าแบบนี้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแม่เธอเลย

ไม่ว่าจะตอนไหน ลั่วอินก็คือตัวแทนของเขาความนิ่ง ความเท่ และความขี้เกียจ ต่อให้ฟ้าถล่มแผ่นดินทลายเธอก็ยังคงหาทางออกได้อย่างใจเย็นเสมอ แม้แต่ในตอนที่เธอโกรธก็ตาม? เหมือนกับว่ามีอะไรที่มีผลต่อจิตใจของเธอเข้าเต็ม ๆ จนทำให้เธอนั้นทั้งกลัวแล้วก็อ่อนแอ

หนานหนิงซงอยู่ใกล้กับลั่วอิน เขาเองก็เห็นสีหน้าผิดปกติของเธอเหมือนกัน เลยเข้าไปพยุงภรรยา "อาอิน มีอะไรหรือเปล่า?"

ลั่วอินผลักมือของเขาออก ภายใต้สายตาของทุกคน จากนั้นก็เดินตรงไปหาหวังผิง

"คุณน้าลั่ว มีอะไรคะ?"

ลั่วอินทำให้เฮ่อเสี่ยวเหวินตกใจ

เฮ่อเสี่ยวเหวินขมวดคิ้ว: เธอรู้อะไรบ้างเนี่ย?

หนานซ่ง: ฉันไม่รู้อะไรเลย

ครั้งนี้เธอไม่รู้อะไรเลยจริง ๆ เธอเองก็งงเหมือนกัน กำลังสงสัยอยู่เนี่ย

ในตอนที่ทุกอย่างกำลังจะอยู่เหนือการควบคุม อยู่ ๆ ลั่วอินก็เบนสายตากลับมา สีหน้าของเธอกลับมาเป็นปกติ "ฉันก็แค่ล้อเล่นน่ะค่ะ หัวหน้าหวังอย่าถือสาเลยนะคะ คุณหน้าตาคล้ายกับน้องชายคนรองที่เป็นลูกของคุณลุงที่เป็นญาติห่าง ๆ ของฉันมาก ทั้งคิ้ว จมูก ตา ปาก เหมือนราวกับว่าโคลนนิ่งกันมาเลย"

"......"

ทุกคนที่ได้ฟังต่างก็ขมวดคิ้ว: น้องชายคนรองที่เป็นลูกของคุณลุงที่เป็นญาติห่าง ๆ ?

นี่มันไม่ห่างกันไปหน่อยหรือไง

หนานซ่งหันไปมองลั่วจวินหัง เครื่องหมายคำถามค่อย ๆ ผุดขึ้นมาบนหน้าผากของเธอ: ทำไมพวกเธอไม่เห็นจะรู้เลยว่าแม่มีคุณลุงที่เป็นญาติห่าง ๆ ด้วย? น้องรอง?

หวังผิงกลับหัวเราะออกมาเบา ๆ "อย่างนั้นเหรอครับ? อย่างนั้นก็ถือว่าดวงสมพงศ์พอสมควรนะครับ"

ในที่สุดเขาก็ยิ้มออกมาแล้ว

หนานซ่งรู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศที่ทุกคนได้มาเจอกันนั้นมันค่อนข้างที่จะประหลาดไปหน่อย คุณนายลั่วเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย หัวหน้าหวังก็นิ่ง ๆ เงียบ ๆ

และรอยยิ้มสุดท้ายนั่น ถือว่าทำให้บรรยากาศในวันนี้สมบูรณ์

แต่ว่า รอยยิ้มของหวังผิงที่หนานซ่งเห็น มันดูแข็ง ๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติมาก ๆ ถ้าไม่ใช่คนที่กล้ามเนื้อมีปัญหา ก็เพิ่งไปฉีดโบท็อกซ์มา

แต่ยังไง หัวหน้าหวังก็ไม่มีทางไปทำศัลยกรรม ฉีดโบท็อกซ์อยู่แล้ว คงมีแต่กล้ามเนื้อใบหน้ามีปัญหาเท่านั้นแล้ว

เฮ่อเสี่ยวเหวินขึ้นไปรถของหัวหน้าหวัง แล้วก็กลับไปกับเขา

พอส่งหวังผิงกับเฮ่อเสี่ยวเหวินเสร็จแล้ว ทุกคนก็หันมามองลั่วอิน

ลั่วอินอ้าปากหาว "ง่วงแล้วล่ะ"

เธอหมุนตัว กำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน

"แม่ อย่าหนีนะคะ! เล่ามาให้หมดเดี๋ยวนี้นะ!"

หนานซ่งตะโกนไปจากทางด้านหลังของเธอ "พวกเรามีคุณลุงเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา