สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 668

หนานซ่งโดนเขาถาม ก็เลยหยุดเดิน

พอเห็นสีหน้าจริงจังของเขาก็ทำเธอหลุดหัวเราะออกมาไม่ได้ "ฉันว่า คุณนี่ก็เจ้าคิดเจ้าแค้นเหมือนกันนะคะ"

เธอหยอกเขาเล่น ๆ แต่เขากลับเก็บเอามาใส่ใจเสียได้

ตอนแรกยวี่จิ้นเหวินก็ไม่ได้ใส่ใจมันสักเท่าไหร่ แต่ว่าวันนี้เขาได้เจอซือเจ๋อ ทั้งเด็กกว่าแล้วก็ดูดีกว่า เจ้าพวกเด็กหนุ่มที่สดใสราวกับดวงอาทิตย์กลุ่มนั้นทำเขาตาพร่า ทำให้เขาสัมผัสได้ว่าใคร ๆ ก็ต้องแก่ไปตามอายุ เด็กนั่นยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย แต่เขานั้นย่างเข้าเลขสามไปแล้ว

เขาก็เลยรู้สึกเศร้ามาก ๆ

"พอแล้วน่า ฉันก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้รังเกียจที่คุณแก่นะ"

หนานซ่งหัวเราะแล้วพูด: "ฉันเป็นถึงปรมาจารย์เชฟของเขาเชียวนะ นั่นคือสิ่งที่ฉันเป็น แก่กว่าหน่อยก็แก่กว่าหน่อย คุณคิดแบบนี้สิ พวกเราเคยผ่านอายุยี่สิบมาแล้ว พวกเขาเคยมีอายุสามสิบบ้างหรือยังล่ะ? ไม่เคยใช่ไหม? พวกเราเดินทางผ่านอะไรมามากมายกว่าพวกเขา รอจนพวกเขาอายุเท่าเราในตอนนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะไม่ได้ดูดีเท่าพวกเราก็ได้ อย่าไปคิดมาก ยังไงพวกเขาก็ต้องมีวันนี้เหมือนกัน"

ยวี่จิ้นเหวินได้ฟังคำพูดของหนานซ่ง ก็ต้องหัวเราะออกมา "นี่เธอกำลังปลอบฉัน หรือว่ากำลังปลอบใจตัวเองกันแน่?"

"......"

หนานซ่งถลึงตามองเขา "รู้แล้วก็อย่าพูดสิ มันเป็นมารยาทอย่างหนึ่งนะ"

เรื่องอายุ เธออ่อนไหวกับเรื่องนี้มากกว่าเขาเสียอีก

"โอเค ๆ ๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"

ยวี่จิ้นเหวินเอามือพาดไหล่เธอเอาไว้ แล้วก็ไม่อยากจะพูดเรื่องของซือเจ๋ออะไรนี่อีก เขารีบลืมเรื่องของคนคนนั้นในทันที แล้วก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่น "ยังไงก็มาถึงเมืองจิงทั้งที พวกเราไปซื้อของท้องถิ่นกันหน่อยดีไหม จะได้ซื้อไปฝากคนที่บ้านด้วย พวกเขาจะได้ดีใจ"

"ดีเลย" เป็นสิ่งที่เธอก็คิดเหมือนกัน

หนานซ่งกับยวี่จิ้นเหวินไปเดินเล่นที่ตลาดขายของกินเล่นพื้นเมือง ส่วนใหญ่พวกเธอเดินกินไปซื้อไป ซื้อมาสองชุด ชุดหนึ่งส่งไปที่เมืองเป่ย อีกชุดพวกเขาจะเอากลับไปที่เมืองหนาน ยวี่จิ้นเหวินเดินถือถุงใบเล็กใบใหญ่กลับไปทางโรงแรมเต็มมือ ส่วนหนานซ่งกลับกำลังกินถังหูลู่ (ผลไม้เคลือบน้ำตาลเสียบไม้) ที่เปรี้ยวจนเธอนั้นเข็ดฟัน

"คุณลองกินสักลูกสิ"

หนานซ่งยื่นถังหูลู่ไปป้อนถึงปากยวี่จิ้นเหวิน ยวี่จิ้นเหวินกินเข้าไปลูกหนึ่ง แต่เขาถึงขั้นต้องนิ่วหน้า "ทำไมถึงได้เปรี้ยวแบบนี้เนี่ย?"

หนานซ่งหัวเราะ ทั้งสองคนเดินไปด้วยแล้วก็กินไปด้วย

จากตำแหน่งที่ไกลออกไปจากพวกเขา เลนส์สีดำกำลังขยับตามพวกเขาไปเรื่อย ๆ เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นหลายครั้ง เก็บภาพต่าง ๆ ของพวกเขา

อยู่ ๆ หนานซ่งก็หันกลับไปมองทางด้านหลัง

"ทำไมเหรอ?" ยวี่จิ้นเหวินช่วยเธอกินถังหูลู่ลูกสุดท้าย เห็นว่าหนานซ่งมีสีหน้าที่ผิดปกติไปจากเดิม เขาเลยถาม

หนานซ่งไม่เห็นอะไร เลยส่ายหน้า "ไม่มีอะไรค่ะ ก็แค่รู้สึกเหมือนมีคนกำลังตามเราอยู่"

ยวี่จิ้นเหวินเองก็พยายามมองไปรอบ ๆ แต่เขาไม่พบอะไรที่ผิดปกติ แต่สัญชาตญาณของหนานซ่งไม่มีทางผิดแน่ เขาเองก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน

"ไป กลับไปที่โรงแรมกันก่อน"

เขาย้ายของไปไว้ที่มือข้างเดียว จากนั้นก็เอามือข้างที่ว่างโอบไหล่หนานซ่งเอาไว้ เพื่อกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน แล้วก็แน่นมากด้วย

หลังจากที่ระแวงกันมาทั้งทาง ในที่สุดพวกเขาก็กลับมาถึงเมืองหนานอย่างปลอดภัย

กลับไปถึงสวนกุหลาบ ยวี่จิ้นเหวินก็ส่งของฝากทั้งหมดให้พ่อบ้านจ้าว

หนานซ่งถาม: "แม่ละคะ?"

พ่อบ้านจ้าว: "ออกไปตั้งแต่บ่ายแล้วครับ จนตอนนี้ก็ยังไม่กลับมาเลยครับ"

"ออกไปข้างนอกเหรอคะ?" หนานซ่งหันไปมองยวี่จิ้นเหวิน ทั้งสองคนคิดเหมือนกัน ดูเหมือนว่าแม่ของเธอรอไม่ไหวจนออกไปหาหวังผิงแล้ว

ขึ้นไปด้านบน หนานซ่งก็รีบไปที่ห้องของลั่วจวินหังก่อน เธอเคาะประตูสามครั้ง พอได้ยินเสียงอนุญาตว่า "เข้ามา" ถึงจะผลักประตูเข้าไป

"พี่ใหญ่ พี่ไม่ได้ไปหาหวังผิงพร้อมพ่อกับแม่เหรอ?"

ลั่วจวินหังดูเหมือนเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เขากำลังอ่านหนังสืออยู่ ใต้แสงไฟที่ส่องสว่าง เขาดูผ่อนคลาย ราวกับว่าเขาเป็นนักปราชญ์อย่างไรอย่างนั้น หนานซ่งรู้ว่าพี่ชายกลับมานานแล้ว และวัน ๆ เขาก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่กับของแนววัฒนธรรม ยิ่งทำให้เขาดูเหมือนพวกนักมานุษยวิทยา

ดวงตาสีฟ้าเข้มของเขาเหลือบขึ้นมามองเล็กน้อย พูดขึ้น: "ฉันจะตามไป แต่แม่ห้าม"

และอย่างที่ใคร ๆ พูดว่าลูกสาวมักจะรู้จักแม่ของตัวเองดี ในตอนนี้ลั่วอินกำลังนั่งคุยกับหวังผิงอยู่จริง ๆ หนานหนิงซงโดนเธอทิ้งเอาไว้แถวนั้น เขานั่งอยู่ห่างจากเธอพอสมควร ไม่กล้าเข้าไปรบกวน อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าตัวเขานั้นเป็นคนนอก เขามองภรรยาของตัวเองที่ขยับปากพูดอยู่เรื่อยไม่หยุดเสียที เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้

ราวกับคนบ้า

สามชั่วโมงยวี่สิบสามนาทีก่อนหน้า ลั่วอินทนรอต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอก็เลยโทรหาหวังผิง

เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของหวังผิง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้ ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเดาออกหรือเปล่าว่าเบอร์แปลกนี้เป็นเบอร์ของใคร เพราะผ่านไปแป๊บหนึ่งเขาก็รับสาย

"ฮัลโหลครับ"

วินาทีที่เสียงทุ่มต่ำดีงเข้ามาในหู ลั่วอินก็รู้สึกเหมือนหัวใจของเธอกำลังโดนทิ่มแทง

เธอไม่ต้องการเอกสารเพื่อมาพิสูจน์อะไรอีกแล้ว เธอแน่ใจมาก หวังผิงก็คือหลานอวี้!

ดังนั้น ลั่วอินก็บอกกับเขาออกไป: "ฉันต้องการเจอคุณ วันนี้ เดี๋ยวนี้เลยด้วย!"

เธอรีบร้อนไปยังตึกของหวังผิง แต่พบว่าหวังผิงกำลังรอเธออยู่ในรถแล้ว หลังจากที่เจอกัน เขาก็พาเธอมาที่ร้านกาแฟ

ทั้งสองคนนั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน ลั่วอินจ้องตาเขาอยู่ครู่หนึ่ง

"ฉันไปตรวจสอบเรื่องคุณมาแล้ว"

หวังผิงจิบกาแฟไปนิดหน่อย ราวกับว่าเขานั้นคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว สีหน้าของเขายังคงเป็นปรกติ "อ๋อ"

"แต่ไม่พบอะไร" ลั่วอินไม่โกหก

หวังผิงเหลือบตาขึ้นมา ดวงตาสีน้ำตาลจับจ้องมายังเธอเป็นครั้งคราว

ลั่วอินโน้มตัวเข้าไปหาเขา แล้วจ้องตาเขานิ่ง ดวงตาของเธอเป็นประกาย

"ฉันรอไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นฉันก็เลยขอถามคุณตรง ๆ ตกลงแล้ว คุณคือหลานอวี้ใช่ไหม?"

แววตาของหวังผิง วูบไหวเล็กน้อย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา