สอนรักอดีตภรรยา นิยาย บท 786

ท้องฟ้าดำมืดราวกับถูกหมึกดำสาดใส่ ดอกไม้ไฟบานสะพรั่ง มันดูแพรวพราวยิ่งขึ้นในความมืด

หนานซ่งเหม่อมองท้องฟ้ายามราตรี จู่ ๆ ก็นึกอะไรออก เธอบ่นพึมพำ “อาจิ้น ปีนั้น ฉันถูกเซียวเอินกับเฉียวเหลิ่งลักพาตัว ฉันถูกย่ำยีด้วยน้ำมือของเฉียวเหลิ่ง เป็นนายที่ช่วยฉันกลับมา บาดแผลบนตัวฉันค่อย ๆ หายแล้ว แต่ฉันมีปัญหาทางจิตใจ ผ่านไปนานมากก็ยังหลุดพ้นไม่ได้”

ยวี่จิ้นเหวินหยุดนิ่ง เขามองคนในอ้อมกอดอย่างสงสาร จากนั้นก็ตอบรับเสียงเบา “ฉันเคยได้ยินพ่อแม่พูดถึง”

“ตอนนั้น เพื่อไม่ให้คนในครอบครัวเป็นกังวล อยู่ต่อหน้าคนอื่นแสร้งทำเป็นไร้หัวใจ เป็นทองไม่รู้ร้อน ลับหลังคนกลับไม่อยากพูดอะไร อารมณ์มักจะบูดบึ้ง ตอนนั้นฉันรู้ดีว่าฉันมีปัญหาทางจิต พี่สี่ช่วยหาหมอจิตแพทย์ชื่อดังมารักษาฉัน แต่ก็ไม่หาย ฉันเดินออกมาไม่ได้ เพียงแค่หลับตาลง ก็นึกถึงตอนที่ตัวเองถูกขังอยู่ในกรง ถูกคนกดขี่รุกราน”

หนานซ่งพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเหล่านี้ น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย ทำให้ยวี่จิ้นเหวินเจ็บหัวใจอย่างมาก

“อาจิ้น…” เธอเรียกเขาเบา ๆ

ยวี่จิ้นเหวินกอดเธอไว้แน่นกว่าเดิม “ฉันอยู่ตรงนี้”

หนานซ่งขอร้อง “บีบฉัน นายบีบฉันหน่อย…”

ฝ่ามือใหญ่ของยวี่จิ้นเหวินบีบลงบนตัวเธอเบา ๆ แต่แรงแค่นี้ไม่สามารถทำให้เธอจิตใจสงบลงได้ “แรงหน่อย ไม่เป็นไร”

เขาทำในสิ่งที่เขาพูด เธอต้องการอะไร เขาก็จะทำให้เธอ

รู้สึกได้ถึงแรงของเขา จิตใจที่เหม่อลอยของหนานซ่งค่อย ๆ สงบลง เธอพูดต่อ “ตอนนั้นฉันรู้สึกเหมือนวิญญาณของฉันถูกดึงออกมา เหมือนเป็นผู้ชมอยู่ด้านข้าง มองดูฉันที่หดหู่สีหน้าไร้ความรู้สึก วินาทีแรกยังมีความสุข วินาทีต่อมาแทบอยากจะกระโดดจากราวกั้นลงไปด้านล่าง…” เธอพูดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดที่เอว เธอเจ็บจนสูดหายใจเข้า แล้วยิ้มปลอบเขา “ไม่ต้องเป็นกังวล ฉันหายแล้ว”

ดวงตาของยวี่จิ้นเหวินมืดกว่าท้องฟ้าในคืนนี้เสียอีก เขามองดูเธอยิ้ม แล้วก้มหน้าลงไปจูบเธอ

ลมหายใจติดขัดไปหมด

เขาหันหน้ามาหาเธอ เมื่อมองดูใบหน้าอันสวยงามของเธอภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน เขาค่อย ๆ ปัดผมบนหน้าผากของเธอเบา ๆ

“ภายหลังล่ะ?” เขาถามเธอ “เธอเดินออกมาได้ยังไง?”

หนานซ่งพูด: “แม่ของฉันรู้ว่าฉันในตอนนั้นไม่ปกติมาก ๆ เธอบอกฉัน ว่าพวกเขาร้อนใจมาก แต่พวกเขาช่วยฉันไม่ได้”

ลั่วอินมองดูลูกสาวที่ผอมลงจนซูบโทรม เธอรู้สึกว่าหัวใจเหมือนจมอยู่ในน้ำเน่า ทั้งเปรี้ยวทั้งเหม็น เธอแทบทนไม่ไหวอยากจะด่าทอออกมา

“ลูกรัก สภาพย่ำแย่ของลูกในตอนนี้ ทำให้แม่นึกถึงตอนที่เพิ่งคลอดลูกออกมา ลูกน่าเกลียดจนแม่อยากจะยัดลูกกลับไปในท้อง”

หนานซ่งมองดูแม่ของเธอ แต่ไม่พูดอะไร

“ตอนที่แม่คลอดลูก มันเจ็บมาก ๆ”

ลั่วอินพูด: “เมื่อก่อนแม่โดนแทงโดนยิง ยังไม่เคยเจ็บขนาดนั้น แม่ด่าพ่อของลูก และก็ด่าแม่ของแม่ ไม่รู้ว่าตอนนั้นยายเกิดแม่มาทำไม ให้แม่ต้องรับเคราะห์แบบนี้ ตอนที่ลูกมาอยู่ในท้องแม่ แม่กำลังคิดว่าจะเกิดลูกออกมาดีไหม หรือว่าทำลายลูกทิ้งดีนะ? แม่พูดตามตรง แม่อยากจะทำลายลูกทิ้งไปซะ ทำไมต้องมาลำบากบนโลกใบนี้? โลกใบนี้มีค่าเหรอ? แต่เราชาวอีหลานไม่มีกฎที่ทำแท้งลูก เด็กที่ถูกทำแท้ง จะโดนสาปแช่ง พ่อของลูกตัดใจจากลูกไม่ได้ เขาคุกเข่าขอร้องแม่ ผู้ชายคนหนึ่ง ร้องไห้อย่างกับอะไร เขาดูเป็นผู้หญิงมากกว่าแม่ด้วยซ้ำ”

เธอถอนหายใจเบา ๆ “สุดท้ายก็เกิดลูกออกมา เกิดลูกออกมาแล้วก็ต้องรับผิดชอบในตัวลูก แม่กับพ่อของลูกระวังทุก ๆ อย่าง ไปไหนก็พาลูกไปด้วย แทบอยากจะผูกลูกไว้กับเข็มขัดกางเกง แต่พวกเราลืมไป ว่าลูกเป็นคน ไม่ใช่ของตาย ผูกติดไว้ข้างกายพวกเรา ไม่ผ่านลมผ่านฝน จะเติบโตได้ยังไง? ก้าวเดินนี้ ลูกเดินออกไปเอง ลูกได้เห็นความชั่วร้ายบนโลกใบนี้ เห็นความมืดของจิตใจคน แต่วันนี้แม่จะบอกกับลูก ว่าโลกนี้มีค่า เพราะว่าลูกยังมีพวกเรา คนที่รักลูก”

เธอลูบหัวหนานซ่ง เผยความรักของแม่ออกมา “ลูกโตแล้ว ต่อไปจะเห็นลูกเป็นเด็กไม่ได้แล้ว โลกของผู้ใหญ่โหดร้าย มันไม่เหมือนกับสวยกุหลาบที่รักใคร่สามัคคีกัน ยังมีอีกหลายสิ่งที่ลูกต้องเจอ แม่กับพ่อจะแก่เฒ่าเมื่อลูกโตขึ้น ลูกจะจากโลกของพวกเราไป ยิ่งเดินยิ่งไกล เหลือบ่ากว่าแรงของพวกเรา เมื่อถึงเวลาวิกฤต ไม่มีใครช่วยลูกได้ ลูกก็ต้องหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง”

ลั่วอินยิ้มแล้วพูด “ผู้หญิงชาวอีหลาน ไม่มีคนขี้ขลาด คนอื่นพูดว่าพวกเราคือ ‘แม่พระ’ แม่พระกับผีอะไร เป็นแม่พระดีตรงไหน จะดีกว่าถ้าได้เป็นหมาป่า อย่างน้อยก็เป็นอิสระที่ควบระหว่างสวรรค์ โลก และภูเขา แม้ว่าเผชิญกับอันตราย ก็จะไม่มีวันถอย ลูกคือลูกหมาป่าที่แม่เกิดมา มีสายเลือดในกระดูก ใครกล้ารังแกลูก ลูกก็รังแกกลับ ใครกล้าทำร้ายลูก ลูกก็หันกลับไปกัดเขา!”

“ไม่เสียแรงที่เป็นแม่ยายของฉัน” ยวี่จิ้นเหวินหัวเราะเบาๆ “ทรงพลังมาโดยตลอด”

หนานซ่งยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “แม่ฉัน”

ยวี่จิ้นเหวินโอบเอวของเธอไว้แน่น แล้วพูดแก้ “แม่ของพวกเรา”

“ใช่ แม่ของพวกเรา”

หนานซ่งยิ้มอ่อน เธอมองดูใบหน้าหล่อเหลาของเขาภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน แล้วถามขึ้น “อาจิ้น นายกลัวไหม?”

วันที่สองของปีใหม่ พี่ชายและพวกพี่สะใภ้มาถึงทีละคน

เมื่อเข้าบ้าน ลั่วอินก็แจกเสื้อไหมพรมแดง จี้อวิ๋นรักสวยรักงามที่สุด หยิบเสื้อไหมพรมขึ้นมาดูแล้วทำท่าทางรังเกียจ “ขี้เหร่มาก”

จากนั้นก็ได้รับการปรนนิบัติแบบเดียวกับไป๋ลู่ยวี๋ ถูกถีบครั้งแรกในปีใหม่

“โอ๊ยโอ๊ยโอ๊ย อย่าถีบผม” จี้อวิ๋นหลบเท้าของแม่ “ผมใส่ ผมใส่แล้วก็ได้”

เขารีบจับมือเฉิงเซี่ยนขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชั้นบน

“ผมไม่เข้าใจ” จี้อวิ๋นมองดูภาพบนเสื้อไหมพรมแล้วถามลั่วอิน “ทำไมผมกับพี่เฉิงถึงเป็นกระต่าย?”

ลั่วอินพูดอย่างเรียบเฉย: “เพราะว่าขาว”

“อ้อ” จี้อวิ๋นกำลังจะถูกชักชวน จากนั้นก็คัดค้านขึ้น “แต่พี่เฉิงคือกระต่ายสีเทา”

ลั่วอินพูด “แยกแยะได้ง่าย”

“แยกแยะอะไร?” จี้อวิ๋นถามจนถึงที่สุด

ลั่วอินถลึงตาใส่เขา “เพศ รุ่น นายจะถามอะไรอีก?”

“ไม่ถามแล้ว”

จี้อวิ๋นหลบเข้าในอ้อมกอดของเฉิงเซี่ยน แล้วพูดฟ้อง “แม่ของฉันดุมาก”

“ไม่ต้องกลัว” เฉิงเซี่ยนยิ้มมุมปาก “ฉันทะนุถนอมนายเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สอนรักอดีตภรรยา