ฉู่จือมั่วพาเฟิงเชียนเสวี่ยมากินหม้อไฟที่ร้านหม้อไฟสไตล์ไทย ทันทีที่เฟิงเชียนเสวี่ยเห็นคำว่าสไตล์ไทย เธอก็รู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว...
ถึงแม้ว่าเสือจะไม่ใช่ชายในคืนนั้นอย่างแน่นอน แต่หลังจากถูกถ่ายภาพที่สนิทสนมแบบนั้น มันทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้รูปพวกนั้นก็กลายเป็นไพ่ใบสุดท้ายของสองแม่ลูกตระกูลไป๋ไปแล้ว
ทันทีที่ถูกเปิดเผย ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อเสียงของเธอจะถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังจะกระทบถึงลูกๆ ด้วย...
“เป็นอะไรหรือเปล่า” ฉู่จือมั่วเห็นว่าสีหน้าของเฟิงเชียนเสวี่ยไม่ค่อยดีนักจึงถามไปด้วยความเป็นห่วง “ไม่อยากกินหม้อไฟสไตล์ไทยหรือ งั้นก็เปลี่ยนร้านกันเถอะ”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก”
เฟิงเชียนเสวี่ยเห็นว่าฉู่จือมั่วตั้งใจเตรียมมาจึงไม่อยากทำให้เขารู้สึกไม่ดี ยิ่งไปกว่านั้น ร้านนี้อยู่ไกลมาก ถ้าเปลี่ยนร้านคงจะต้องเดินไปๆ มาๆ
“ถ้างั้นพวกเราเข้าไปกันเถอะ”
ฉู่จือมั่วพาเฟิงเชียนเสวี่ยเข้าไปในห้องวีไอพีที่จองไว้ และอาหารทั้งหมดที่เขาสั่งก็เป็นอาหารที่เฟิงเชียนเสวี่ยชอบ
หลังจากพนักงานออกไปแล้ว ทั้งสองคนก็เริ่มพูดคุยถึงความหลัง คุยเรื่องตอนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยกัน ทั้งสองคนมีความสุขมาก เพราะเรื่องราวในตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่บริสุทธิ์ที่สุด ถึงอย่างไรความทรงจำในวัยหนุ่มสาวก็ต้องมีความสุขอยู่แล้ว…
จากนั้นฉู่จือมั่วก็ถามถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเฟิงเชียนเสวี่ยขึ้นมา
รอยยิ้มของเฟิงเชียนเสวี่ยหายไปในทันที เธอก้มหน้าดื่มน้ำชาด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและไม่พูดอะไรสักคำ
“ฉันได้ยินจือหันบอกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับประธานของเซิ่งเทียนกรุ๊ป…ดีมาก?” ฉู่จือมั่วถามหยั่งเชิง
“เขาเป็นเจ้านายของฉัน” เฟิงเชียนเสวี่ยตอบไปแบบเลี่ยงๆ
“เชียนเสวี่ย…” ฉู่จือมั่วพูดเตือนขึ้นมาอย่างจริงจัง “อย่าไปหาเรื่องคนของตระกูลเยี่ยนะ!”
เฟิงเชียนเสวี่ยเหลือบตาขึ้นไปมองเขาและถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ “ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ”
“จะบอกเธออย่างไรดีล่ะ…” ฉู่จือมั่วคิดอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดอธิบายอย่างง่ายๆ “ในโลกของธุรกิจมีเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาว่าใต้มืดมนเหนือหนาวเหน็บ ทั้งสองตระกูลนี้เป็นผู้นำของโลกธุรกิจ และในขณะเดียวกันก็เป็นที่อยู่ของทั้งมังกรและเสือด้วย ซับซ้อนมากและเธอก็ใสซื่อเกินไป ไม่เหมาะกับตระกูลแบบนั้น!”
“อ้อ…” เฟิงเชียนเสวี่ยพยักหน้า “ฉันก็นึกว่านายรู้อะไรเสียอีก”
แม่จูบอกเธอว่าเย่ว์เย่ว์เป็นหวัดและตัวร้อนขึ้นมา ตอนนี้ก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลประจำมณฑลแล้ว…
เฟิงเชียนเสวี่ยได้ยินแบบนั้นก็รีบถามรายละเอียดด้วยความร้อนใจ
แม่จูพูดปลอบใจเธอว่าเด็กน้อยเป็นแค่หวัดกับไข้ธรรมดาเฉยๆ ไม่ได้เป็นอะไรมาก และบอกให้เธอไม่ต้องกังวล เพียงแต่เด็กน้อยคิดถึงแม่และเอาแต่เรียก “หม่ามี้” เฉยๆ
เฟิงเชียนเสวี่ยแทบอยากจะบินไปหาเด็กน้อย แต่เมื่อคิดว่าเรื่องราวยังไม่ถูกแก้ไข ตอนนี้เธอจึงยังไม่กล้าไปรับเด็กๆ ทำได้แค่กำชับกับแม่จูให้ดูแลพวกเขาดีๆ ถ้าเธอจัดการเรื่องราวต่างๆ เสร็จแล้วจะรีบกลับไปรับพวกเขา
หลังจากวางสายโทรศัพท์ เฟิงเชียนเสวี่ยก็จะกลับเข้าไปในห้องวีไอพี จู่ๆ เธอก็เห็นว่าประตูของห้องตรงข้ามแง้มอยู่ เธอเห็นคนคุ้นเคยสองคนผ่านทางช่องว่างขนาดสองนิ้วนั้น
คือซือเฮ่าเซวียนและฉู่จือหัน!
ซือเฮ่าเซวียนน่าจะดื่มไปไม่น้อยเลย เขาดูเศร้ามาก เขาดื่มเหล้าไปพลางเล่าอะไรบางอย่างด้วยความเจ็บปวด
ฉู่จือหันปวดใจมากและเดินเข้าไปโอบกอดเขาไว้อย่างห้ามไม่ได้...
ซือเฮ่าเซวียนไม่ได้ผลักเธอออก แต่จับหน้าของเธอและประทับจูบลงไปแทน...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สามหนูน้อยอัจฉริยะ:มาเฟียคลั่งรัก
เทกันแบบนี้เลยหรอมีต่ออีกมั้ย...
แอด..กลับบ้านด่วน...ยังรออยู่นะคะ😁😁...
ขอบคุที่ลงให้อ่านนะคะ สนุกมากเลย อย่าลืมมาลงต่อนะคะ 👍🏻...
อย่าหายไปนานนะแอด😁😁...
แอด..กลับมาอัพเดทแล้ว..น่ารักที่สุด👍👍👍...
แอด..อย่าเทกันเลย..กลับมาลงต่อหน่อยจ้า😂😂😂...