ทุกถ้อยคำ ราวกับถูกใบมีดทิ่มแทงลงปลายหัวใจ
เธอเคยคิดว่า หลังจากที่หายาทั้งสามชนิดมาได้แล้วนั้น โห้หลีเฉินจะสามารถหลุดพ้นออกมาจากเมืองนรกได้แล้ว ชีวิตของพวกเขา จะไม่มีวันพลัดพรากจากกันจากความเป็นความตายอีกแล้ว และจะมีความสุขที่ยืนยาว
เธอจะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียเขาไปและนอนไม่หลับในเวลากลางดึก เพื่อคอยพะว้าพะวังอยู่
ทว่าเพิ่งผ่านมาได้ไม่นาน เพิ่งไม่กี่เดือนเอง ความรู้หวาดกลัวกับการสูญเสีย มันเริ่มกลับมาล้อมรอบเธออีกครั้ง
กระทั่งมันรุนแรงหนักหนากว่าเก่าเสียอีก
ระยะที่สอง คือการบีบบังคับให้เข้าใกล้ความตายเข้าไปทุกที
การพัฒนาในขั้นนี้ถือว่าเร็วมาก อาจจะเร็วมากจนไม่สามารถรอให้ลูกของพวกเขาคลอดออกมาด้วยซ้ำ
"คุณนาย"
เว่ยชีรีบวิ่งเข้ามาหาทันที พลางนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นและประคองเย้นหว่านขึ้นมา และรีบพูดปลอบใจอย่างตื่นตระหนก "คุณอย่าเพิ่งร้อนใจไป คุณชายไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอก ยังมีเวลา ยังทันอยู่"
พูดจบ เขาก็รีบพูดตะคอกใส่แคทเธอรีนอย่างดุเดือดทันที
"แคทเธอรีนแกอย่าพูดจงใจทำให้คนเขาตกใจขนาดนี้ ระยะที่สองทำให้คุณชายต้องเจ็บปวดก็ตาม แต่เวลาก็ไม่ได้สั้นขนาดนั้น มันยังสามารถยื้อถึงวันนั้นที่คุณนายสามารถคลอดลูกได้อยู่"
เมื่อได้ยินดังนั้น เย้นหว่านราวกับเกิดความหวังขึ้นมา แววตาจ้องเว่ยชีอย่างเปล่งประกาย
"นายพูดจริงใช่ไหม? สามารถที่จะยื้อได้ถึงใช่ไหม? จะยื้อได้อีกกี่เดือน?"
แค่วันเดียวก็คือวันเดียว เธอไม่คิดถึงเรื่องการคลอดตามกำหนดคลอดแล้ว
ไม่สนสิ่งที่ตามทุกอย่างอีกต่อไป เธอต้องการให้โห้หลีเฉินมีชีวิตอยู่ต่อ
เว่ยชีพยักหน้าอย่างหนักแน่น "ใช่ครับ สามารถยื้อได้ถึงวันที่เด็กๆ คลอดออกมา ก่อนหน้านี้แคทเธอรีนก็เคยรับประกันแล้ว การที่คุณชายไม่เคยบอกกับคุณ กลัวว่าคุณจะเจ็บปวดการที่เขาต้องเผชิญความลำบากในระยะที่สอง"
วัคซีนป้องกันระยะที่สอง ก็ได้ฉีดไปแล้ว ที่ทำให้ชีวิตคนชีวิตย่ำแย่ยิ่งกว่าตาย
เบ้าตาเย้นหว่านร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง
เจ็บปวดใจจนใกล้จะหมดลมหายใจแล้ว
น้ำตาของเธอนั้นจ้องมองแคทเธอรีนอย่างพร่ามัว และรีบพูดทันควัน
"แกรีบพูดมา จริงไหม? ว่าเขาสามารถอยู่ต่อได้อีกหลายเดือนใช่ไหม?"
"เว่ยชีพูดถูก ตอนแรกก็สามารถอยู่ต่อได้ 4-5 เดือน" แคทเธอรีนใช้แววตาเย็นชาจ้องมองเย้นหว่าน ด้วยการเยาะเย้ย "แต่ว่า ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว"
"แกหมายความว่ายังไง!" เส้นเสียงของเย้นหว่านใกล้จะพังพินาศจนหมดเสียงอยู่แล้ว
"การรักษาในระยะที่สอง มีแค่ฉันคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะมันได้ แม้ว่าพวกคุณจะไปหาหมอคนอื่นมาก็ตาม แต่การใช้ยาที่ไม่เหมือนกัน จะทำให้โห้หลีเฉินตาย ฉะนั้น การที่ให้เขามีชีวิตอยู่ต่อ ไปอีกหลายเดือน ต้องให้ฉันเป็นคนกำหนดถึงจะไปรอด"
แคทเธอรีนยกเท้าขึ้น ปลายเท้าชี้มาที่ปลายคางของเย้นหวานด้วยท่าทางดูถูกเต็มทน
"คุณนายโห้ ตอนนี้ฉันเกลียดคุณเข้ากระดูก ฉันไม่อยากช่วยชีวิตคนรักของคุณแล้วสิ"
เว่ยชีใช้ฝ่ามือสะบัดเท้าของแคทเธอรีนออกไป พร้อมทั้งตะคอกใส่อย่างโกรธเคือง
"แคทเธอรีนแกรนหาที่ตายใช่ไหม?!"
"คนอย่างฉันกลัวตาย แต่ไม่ได้รนหาที่ตาย แต่ว่าชีวิตของโห้หลีเฉินอยู่ในกำมือของฉัน ฉันเป็นคนลิขิตเอง พวกแกก็ไม่กล้าฆ่าฉันจริงๆ หรอก"
แคทเธอรีนมั่นใจอย่างเต็มที่ "พวกแกสามารถทรมานฉันได้ แต่ว่าฉันอยู่เหนือกว่าพวกแกแน่นอน ลองดูสักตั้งไหมล่ะ?"
ลองดูเหรอ? เอาความเจ็บปวดทุกข์ทรมานของโห้หลีเฉินมาต่อรองเนี่ยนะ?
เย้นหว่านตัวสั่นแรงมาก กระทั่งเรี่ยวแรงที่ยืนขึ้นยังไม่มีเลยด้วยซ้ำ
"ตกลงว่าแกคิดจะทำยังไง?"
เธอเอ่ยปากถาม
จุดประสงค์ของแคทเธอรีน ก็ต้องเป็นเธออย่างแน่นอน
การถามเช่นนี้ ถือว่ามีความหมายประนีประนอมแสดงความอ่อนแอออกมา จนทำให้แคทเธอรีนรู้สึกดีใจอย่างเต็มเปี่ยม
เธอพูดจาอย่างหยิ่งผยอง
"ฉันต้องการให้แกไสหัวไปเดี๋ยวนี้ ออกไปจากที่นี่ อย่าได้มาปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีก แน่นอนว่าอย่าได้ปรากฏตัวต่อหน้าโห้หลีเฉิน"
"ฉันไปแล้ว แกก็จะรักษาเขาใช่ไหม?"
แคทเธอรีนพยักหน้าอย่างมีความสุข "แน่นอนสิ ฉันจะช่วยเขา"
ริมฝีปากของเธอยกขึ้นอย่างได้ใจ มองดูแล้วช่างชั่วร้ายอย่างยิ่ง
เธอไม่ได้พูด เย้นหว่านก็คิดได้ แคทเธอรีนต้องการจะทำอะไร
ความรู้สึกท้อแท้ เจ็บปวด และทำให้คนอยากจะบ้าตายเช่นนี้
ทว่าเธอ ชำเลืองมองใบหน้าซีดโพลนที่อยู่บนเตียง ผู้ชายที่นอนหลับลึกทั้ง ๆ ที่ข้างเตียงเสียงดังลั่นขนาดนี้แต่กลับไม่มีอาการตกใจจนอยากจะตื่นเลย ความแค้นเคืองและไม่ยินดีที่อยู่ในใจทั้งหมดนั้น ต่างกลายเป็นความหวาดหวั่นและปวดใจอยู่เต็มอก
ร่างกายของโห้หลีเฉิน ใกล้จะหมดสิ้นอายุขัยจริงๆ แล้ว
เมื่อเอามาเปรียบเทียบการอยู่กับเขา การที่เธอถูกดูแคลนไปบ้างมันจะเป็นอะไรไปล่ะ
เธอไม่อยากยกโห้หลีเฉินให้กับแคทเธอรีน แต่ทำได้แค่ถอยหลังออกไปก้าวหนึ่ง แค่หลับตาลงไปข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งทำไม่รู้ไม่เห็นก็เท่านั้นเอง.....
ถ้ามัวแต่คิดอยู่ ก็อยากจะฆ่าคนเพราะความรำคาญขึ้นมา
เย้นหว่านใช้แขนที่สั่นเทาทั้งสองข้างค้ำกับพื้นเพื่อพยุงให้ลุกขึ้น จากนั้นก็จ้องมองแคทเธอรีนอย่างโหดเหี้ยม ด้วยดวงตาที่บวมแดง
"ได้ ฉันตกลง! แต่ฉันขอเตือนแกไว้ก่อน ถ้าเขาเกิดเป็นอะไรไป แกจะต้องตายไม่มีหลุมฝังศพอย่างแน่นอน"
แคทเธอรีนยิ้มอย่างมีความสุข
เธอประสบความสำเร็จแล้ว
ไพ่ใบสำคัญที่อยู่ในมือของเธอ อำนาจในการสื่อสารตกมาอยู่ในมือของเธอ การบีบให้เย้นหว่านไปจาก มันเป็นวิธีการเพียงก้าวแรกที่ง่ายดายที่สุด
เธอเย้ยหยันอย่างได้ใจมาก "ได้ รีบไปสิ อย่ามายืนขวางหูขวางตาอยู่ที่นี่ จนทำให้ฉันหมดอารมณ์ จนไม่อยากจะรักษาต่อแล้ว"
เย้นหว่านเกลียดแสนเกลียดจนอยากจะบีบคอเธอให้ตายไป
เธอเก็บงำความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่เต็มอกเอาไว้ พลางก้มหน้ามองมายังโห้หลีเฉิน จนน้ำตาไหลพรากเป็นสายอย่างผิดหวัง
ปวดใจ และสำนึกผิด
ปวดใจที่เขาเจ็บใจ
สำนึกผิดในเวลานี้ ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่มีวิธีช่วยเขา แถมยังยกเขาให้กับแคทเธอรีนที่จิตใจชั่วร้ายยากแก่การคาดเดาได้อีก
ถ้าเขารู้ความจริงขึ้นมา ต้องโกรธมากใช่ไหม
เย้นหว่านจิตใจหนาวเหน็บ พลางก้มตัวลง และบรรจงจุมพิตลงบนหน้าผากของเขาอย่างแผ่วเบา
"คุณสามี คุณต้องรอดชีวิตให้ได้นะ เพื่อคุณ ฉันยอมทิ้งทุกอย่างไป"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...