แองเจล่ามองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ ราวกับว่าเธอกำลังถูกฟ้าผ่าห้าครั้ง
ถ้าทำให้สะอาดไม่ได้จริงๆ ผมก็จะขุดหัวใจออกมา?
แม้ว่าเขาจะถูกสะกดจิต และรู้สึกห่วงใยเธอโดยที่ไม่รู้ตัว แต่เขาก็ยังเกลียดชังและต่อต้านเธอมากขนาดนี้เลยหรือ?
ความคาดหวังทั้งหมดถูกทำลายลงในทันที ใบหน้าของแองเจล่าซีดเซียว จนเธอสั่นเทาจนยืนแทบไม่ไหว
ที่แท้ ทุกสิ่งที่เธอทำนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์
ตราบใดที่ชายผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะเป็นของเย้นหว่านเพียงคนเดียว และไม่มีใครสามารถพรากมันไปได้
หลังจากที่โห้หลีเฉินจัดการกับแองเจล่า เขาก็ไม่มองเธออีกเลย เขาหันหลังและเลื่อนรถไปทางป่ายฉี
เขายื่นกระดาษทิชชู่ที่ห่อผงยาไว้ให้เขา "เร็วที่สุด"
ป่ายฉีพยักหน้า "ไปดูเสี่ยวหว่านเถอะ เธอยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เธอคงจะเสียใจจริงๆ "
เมื่อก่อนป่ายฉีไม่เคยเข้าใจเรื่องนี้ แต่หลังจากผ่านเรื่องรักปลอมๆ จากการสะกดจิตครั้งนี้ เขายืนอยู่ในตำแหน่งของเสิ่นเคอหานเขาก็ได้สัมผัสถึงความรู้สึกที่เจ็บปวดจนใจจะขาด
ตอนนี้เขารู้สึกได้แล้วว่าเย้นหว่านนั้นจะรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน
รักมากแค่ไหน ความเสียใจในครั้งนี้ก็จะมากเท่านั้น
และก็เป็นเพราะเย้นหว่านรักโห้หลีเฉินมากๆ เธอจึงเชื่อเขาจนหมดหัวใจ ดังนั้นหลังจากที่เธอรู้เรื่อง เธอเลยรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบพังทลายลง เธอเชื่อว่าโห้หลีเฉินเปลี่ยนใจไปแล้ว
เมื่อความเชื่อใจถูกทำลาย ความมั่นใจในตนเองก็ไม่มี
เมื่อเห็นโห้หลีเฉินรีบเดินไปที่ห้อง ป่ายฉีก็ลูบไปที่หน้าอกของเขา
ที่นั่น มันเจ็บปวดเล็กน้อย
"สมควรจะตาย"
เขาสาปแช่งด้วยเสียงทุ้มต่ำ และเยาะเย้ยอย่างช่วยไม่ได้
ความรักของคนอื่น ไม่เกี่ยวอะไรกับเขา มันจะเจ็บปวดได้ยังไงกัน
การสะกดจิตจุดสุดท้ายยังไม่ได้รับการแก้ไข มันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากจริงๆ
หลังจากเรื่องราวในครั้งนี้ เขามั่นใจมากขึ้นไปอีก ว่าการอยู่นั้นมีความสุขที่
ความรู้สึกแบบนี้ มันทุกข์ทรมานไป ไม่เหมาะกับเขาที่ดูหล่อเหลาแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้...
เขาหันศีรษะมองไปที่แองเจล่าด้วยสายตาที่เย็นชา และเขาก็ออกคำสั่งอย่างเยือกเย็น
"มัดเธอไว้ ขังให้ดี และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ห้ามให้เธอหนีออกไปเด็ดขาด และพยุงน้าเมย์ลงจากรถ ส่งเธอกลับห้อง"
บอดี้การ์ดทำตามทันที
เมื่อแองเจล่าถูกพาตัวไป เธอก็มองไปทางป่ายฉีด้วยสายตาที่โกรธเคือง
เธอกัดฟันและพูดว่า "อย่าคิดว่าทักษะทางการแพทย์ของคุณนั้นดีจนสามารถทำทุกอย่างได้ มีแค่ผงยา ถ้าอยากจะทำยาแก้พิษ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!"
ป่ายฉีเหลือบมองเธอด้วยความรังเกียจ
ยัยเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนนี้น่าขยะแขยงเสียจริง ทุกวันนี้เธอไม่ได้ดูไร้เดียงสาและจริงใจเหมือนตอนที่เจอครั้งแรกแล้ว
บางที ครั้งแรกที่เจอกัน เธออาจจะเสแสร้งก็ได้
ตัวตนที่แท้จริงของแองเจล่านั้นดูลึกซึ้งกว่าที่เขารู้มากนัก
มีพยุงน้าเมย์ลงจากรถ สติเธอไม่ดีมากๆ แค่เธอลืมตาก็ดูเหมือนจะรู้สึกเหนื่อยล้า
เมื่อเธอเดินผ่านป่ายฉี ทีของเธอดูซับซ้อน เหมือนจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
จากนั้นสักพัก เธอก็ถอนหายใจออก และเดินเข้าไป
ป่ายฉีมองไปที่เธอ เขาเข้าใจความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ได้ของน้าเมย์เป็นอย่างดี ในเรื่องนี้ เธอเป็นคนที่ไร้อำนาจที่สุด
และร่างกายของเธอก็แย่เอามากๆ เธอไม่เพียงจะต้องได้รับผลกระทบจากโรสรี่เท่านั้น เขาเกรงว่า แองเจล่าจะใช้ยากับเธอด้วย
เพื่อไม่เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ป่ายฉีก็เลยไม่ได้รักษาน้าเมย์ ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าจะถึงเวลาแล้วเช่นกัน
โห้หลีเฉินกำลังนั่งอยู่บนรถเข็น และรีบเลื่อนรถเข็นไปที่ห้องนอนของเขาและเย้นหว่านด้วยความร้อนรน
เขารั้งเย้นหว่านไว้ได้ และเขาก็สัญญากับเธอว่าเขาจะอธิบายให้เธอฟังในคืนนี้
ตอนนี้เขาจะบอกเธอทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาจะพูดความจริงกับเธอทุกอย่าง
"เย้นหว่าน..."
โห้หลีเฉินรีบผลักประตูเข้าไปด้วยความร้อนรน
แต่ สิ่งที่ทำให้เขาแปลกใจคือ ไม่มีใครอยู่ในห้องเลย
หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นในทันที เขามีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น เขารีบเลื่อนรถเข็นเข้าไปอย่างกังวล และเห็นว่าบนโต๊ะ มีซองใส่เอกสารวางอยู่
ใบหน้าของโห้หลีเฉินซีดเซียว มือของเขาจับโทรศัพท์ไว้แน่น และมือนั้นก็สั่นเทาอย่างแรง
เขาอยู่ในสนามตลอด และไม่ได้ไปไหนเลย เย้นหว่านคงใช้ทางประตูหลัง เธอจงใจหลบหน้าเขาและจากไป
เธอไม่อยากเจอเขาอีกแล้ว
แต่เขาจะปล่อยเธอไปได้อย่างไร
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะกลับมาอยู่ด้วยกัน และกลับมารวมตัวกัน ความคิดถึงของเขาที่มีต่อเธอนั้นมากมาย เขาจะยอมให้ต้องแยกจากกันอีกครั้งได้อย่างไร
โห้หลีเฉินหายใจถี่มาก เขาตะโกนเสียงดัง "เว่ยชี มานี่!"
เว่ยชีกำลังจัดการเรื่องแองเจล่าเมื่อได้ยินเสียงตะโกน เขาก็ตกใจ น้อยครั้งมากที่คุณผู้ชายจะเรียกเขาเสียงดังด้วยความรีบร้อนแบบนี้ ต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่ๆ
เขารีบส่งเชือกให้กับบอดี้การ์ด ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไป
"คุณผู้ชาย เกิดอะไรขึ้นครับ?"
โห้หลีเฉินเลื่อนรถเข็นของเขาไปทางข้างนอก "เย้นหว่านเพิ่งออกไปครึ่งชั่วโมง รีบระดมคนในบริเวณใกล้เคียง เพื่อตรวจสอบตำแหน่งของเธอในทันที นอกจากนี้ เอาเฮลิคอปเตอร์ย้ายมาที่นี่ด้วย ฉันจะไปตามเธอกลับมาเอง"
หลังจากที่เว่ยชีได้ยิน เขาก็ชะงักไป
ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาก็พูดออกมาว่า "คุณนายไปแล้วเหรอครับ! เธอถูกลักพาตัวไปหรือเปล่า คนของหยูฉู่สองแทรกซึมเข้ามาเหรอ?"
น้ำเสียงของเขาดังมาก สนามก็เล็กมาก เลยทำให้ทุกคนได้ยิน
ป่ายฉีตอบสนองได้เร็วที่สุด เขารีบวิ่งเข้ามาทันที
เขาตกใจมาก "คุณพูดว่าอะไรนะ เสี่ยวหว่านเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?"
ใบหน้าของโห้หลีเฉินดูแย่มากกว่าเดิม
เขาจ้องมองไปที่เว่ยชีด้วยสายตาที่เย็นชา เขานี่ทำให้เรื่องแย่มากไปกว่าเดิมเสียอีก
เขาไม่มีความคิดที่จะอธิบายเพิ่มเติม เขาเพียงแค่พูดกับเว่ยชีว่า "เสี่ยวหว่านพาแรบบิทหนีไป"
ป่ายฉีรู้เรื่องราวทั้งหมดระหว่างโห้หลีเฉินและแองเจล่าเขาก็เลยเข้าใจทุกอย่างในทันที
มุมปากของเขากระตุกอย่างรุนแรง เขาแสดงความประหลาดใจออกมา
"เสี่ยวหว่าน โตขึ้นจริงๆ ปีกกล้าขาแข็งแล้ว เธอเตรียมที่จะจากไป แต่ฉันกลับไม่รู้ด้วยซ้ำ!"
โห้หลีเฉิน "..." นี่เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญในตอนนี้เหรอ?!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...