บทที่ 282 เป็นแฟนผม
“คุณฉูคะ เป็นยังไงบ้าง?”
ถึงแม้ภายในจะพอใจอย่างยิ่ง เย้นหว่านยังหมุนตัวมองไปทางฉูรั่วไป๋ ก่อนจะถามความเห็นของเขา
โดยเฉพาะชุดนี้เป็นผลงานออกแบบของฉูรั่วไป๋ และเธอเป็นเพียงคนที่มาเป็นนางแบบเท่านั้น
สายตาลุ่มลึกของฉูรั่วไป๋มองเย้นหว่าน ยืนตรงที่ห่างกันสามเมตร แต่กลับเหมือนระยะห่างกับเธอนั้นใกล้อย่างไร้ขีดจำกัด
น้ำเสียงเขาเบาสบาย ค่อยๆ พูด “คุณรู้ความหมายการออกแบบของชุดนี้ไหม?”
เหมือนเป็นความหมายแทนจำนวนดอกไม้ จุดกำเนิดของเสื้อผ้าบางชุดก็แฝงความหมายเฉพาะตัวที่นักออกแบบใส่เข้าไปไว้ด้วย
เย้นหว่านมองชุดกระโปรงบนตัวตนเองอีกที เธอสามารถรู้สึกออกมาได้ เบื้องหลังการออกแบบของชุดตัวนี้มีความหมายที่ไม่ธรรมดา แม้กระทั่งรายละเอียดแต่ละจุดล้วนจัดการได้อย่างประณีตมาก และแฝงไปด้วยเรื่องราว
แต่สรุปว่าเป็นความหมายแฝงอะไร เธอยังไม่ค่อยกล้ายืนยัน
เย้นหว่านส่ายหน้าแล้ว
ฉูรั่วไป๋มองเย้นหว่าน สายตาที่ตั้งใจนั้น เหมือนมองของมีค่าสักชิ้นหนึ่ง
เขาอ่อนโยนอย่างยิ่ง พูดด้วยความอดทน
“คือความรัก”
เย้นหว่านตะลึงนิดหน่อย เกินคาดอยู่บ้าง
ฉูรั่วไป๋พูดต่อไป “ยังจำครั้งแรกที่พวกเราเจอกันได้ไหม คุณก็ใส่กระโปรงครึ่งตัวแบบนี้ กระโจนเข้ามาในอ้อมอกผมอย่างไม่ระวังขนาดนั้น
ดวงตาของคุณเหมือนกับดวงดาวที่รุ่งโรจน์ สวยพร่างพรายและใสแจ๋ว ทำให้ผมมองแวบแรกก็รู้สึกลืมไม่ลง
ผมเคยเข้าใจผิดคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงเมืองแบบทั่วไป อยากจะได้คุณมาอย่างง่ายดายขนาดนั้น แต่ตอนที่คุณปฏิเสธผม ผมถึงรู้ว่าคุณเหมือนดวงตาที่สว่างไสวที่สุด และเป็นน้ำพุที่ใสกระจ่างที่สุด สะอาดไร้มลทิน”
เย้นหว่านมองฉูรั่วไป๋อย่างเหม่อลอย นึกไม่ถึงว่าตอนแรกยังพูดถึงความหมายแฝงของเสื้อผ้า แล้วทำไมเขากลับพูดเรื่องราวที่พวกเขาเจอกันครั้งแรก
ทั้งยังพูดท่าทีและความคิดที่เขามีต่อเธอด้วย
เธอคาดไม่ถึงว่าความเซ่อซ่าในตอนนั้น จะทำให้เขามีความทรงจำแบบนี้ต่อเธอ
“คุณเป็นเหมือนการผสมรวมของความครึกครื้นและสงบนิ่ง ชุดนี้ก็เหมือนลักษณะท่าทางของคุณ เป็นการผสมของชีวิตทั่วไปกับงานเลี้ยง เรื่องที่เดิมทีไม่เชื่อมโยงกันสักนิด พอนำมาเชื่อมเข้าด้วยกัน ก็ระเบิดความแปลกใจที่นึกไม่ถึงออกมา”
ทำให้รู้สึกมหัศจรรย์ ทำให้คนประทับใจ ทำให้รู้สึกจะหยุดก็หยุดไม่ได้
เย้นหว่านตกใจนิดหน่อย คาดไม่ถึงว่าไอเดียการออกแบบของชุดตัวนี้เป็นความคิดที่มาจากตัวของเธอ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังถูกฉูรั่วไป๋นำออกมาใช้ได้ดีแบบนี้ด้วย เป็นการผสมผสานที่สมบูรณ์แบบที่สุด ไม่มีความไม่เหมาะสมและสูงโดดเด่นใดๆ ที่มีคือความงดงามที่ไม่มีที่สิ้นสุด
เย้นหว่านรู้สึกว่าเป็นเกียรติมาก
เธอกลับมีความไม่เข้าอยู่หน่อย แรงบันดาลใจในการออกแบบมีที่มาจากเธอ เช่นนั้นทำไมฉูรั่วไป๋ต้องพูดว่าความรัก?
นี่เดิมทีไม่เข้าใกล้ประเด็นมั้ง
เห็นท่าทางสงสัยบนใบหน้าเย้นหว่าน ฉูรั่วไป๋ก็เม้มริมฝีปาก รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
จิตใจเขาประกายเล็กน้อย ประหม่าอยู่บ้าง
เขาสูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง ก้าวเท้าออกมา ค่อยๆ เดินไปตรงหน้าของเย้นหว่านทีละก้าว
“แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากคุณ และภาษาการออกแบบเป็นความรัก”
เขาเดินมาถึงด้านหน้าของเธอ หยุดลงที่ตำแหน่งระยะห่างครึ่งก้าว ร่างสูงใหญ่ปะทะกับแสงแดดที่สว่างไสวด้านนอกหน้าต่าง แสดงออกอย่างไม่สงวนท่าทีแบบนั้นอยู่ต่อหน้าเธอ
เขาควักหัวใจของตนเองออกมาให้เธอ “เสี่ยวหว่าน ก่อนที่จะรู้จักคุณ ผมเป็นคนเสเพล เที่ยวระเหเร่ร่อน แต่หลังจากที่เจอคุณ ผมกลับเหมือนว่าวที่ถูกดึงสายไว้ ถูกคุณดึงไว้ในมือแล้ว”
เย้นหว่านถลึงดวงตาโตอย่างตกใจ มองผู้ชายหล่อสง่าด้านหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ
เธอฟังผิดหรือเปล่า? ความหมายในคำพูดของฉูรั่วไป๋ หรือว่ากำลังสารภาพรักกับเธอ!
เย้นหว่านตื่นตระหนกจนสติไม่กลับมา สมองว่างเปล่า มือไม้อ่อนไปหมดอย่างรุนแรง
เว่ยชีคิดว่าเจ้านายของตนเองต้องพุ่งเข้าไปด้วยความเดือดดาลแน่ จากนั้นพาเย้นหว่านกลับมาข้างกายของตนเอง และต่อยกระทืบฉูรั่วไป๋สักยก แต่ประตูนั้นพึ่งเปิดได้ร่องเดียว โห้หลีเฉินกลับไม่ขยับอีก
มองสถานการณ์นี้ เขาอยากรอคำตอบของเย้นหว่านเหรอ?
เว่ยชีใจผวาจนรับไม่ไหว หนังศีรษะล้วนชาไปหมด คุณเย้นไม่ชอบคุณผู้ชายมาตลอดนั้นเป็นความจริง ช่วงเวลานี้ความสัมพันธ์กับฉูรั่วไป๋ดีมากก็เป็นความจริง แถมยังตามคนอื่นมาที่คฤหาสน์ส่วนตัวด้วย ไม่แน่ว่าอาจเป็นความชอบ
ถ้าคุณเย้นตอบรับแล้ว……นั่นต้องมีคนตายแน่นอนสิ!
เว่ยชีเหงื่อออกเต็มหน้า มือทั้งคู่ประกบกัน วิงวอนขอร้อง อย่าได้รับปากโดยเด็ดขาด
เย้นหว่านยังไม่รู้ว่าโห้หลีเฉินอยู่ด้านนอกประตู เวลานี้เธอมองฉูรั่วไป๋อย่างตื่นตระหนกแบบหาที่เปรียบไม่ได้ ยังไม่ได้สติกลับมาจากที่เขาสารภาพรักมา
เธอเห็นฉูรั่วไป๋เป็นเพื่อนมาโดยตลอด กลับนึกไม่ถึงว่าฉูรั่วไป๋จะอยากนอนกับเธอ
เป็นแฟนของเขาเหรอ? เย้นหว่านไม่เคยคิดถึงปัญหาข้อนี้เลย
เธอสับสน เผชิญหน้ากันอยู่แบบนี้ เธอจะปฏิเสธอย่างไรถึงจะไม่ทำร้ายจิตใจของฉูรั่วไป๋?
เห็นเย้นหว่านลังเลไม่ได้เอ่ยปาก ฉูรั่วไป๋ก็พะวงในใจ ยิ่งไม่สงบเพิ่มขึ้น
เขาเม้มริมฝีปาก แล้วพูดต่ออีก “ผมรู้ว่าแบบนี้สำหรับคุณมันคงกะทันหันไป ทำคุณตกใจแล้ว คุณอาจจะรับไม่ได้อยู่หน่อยในเวลานี้ เย้นหว่าน ผมจะไม่บังคับคุณ คุณไม่ต้องให้คำตอบผมในตอนนี้ก็ได้ ผมรอคุณพิจารณาได้
ผมขอรับรองกับคุณ ต่อไปข้างกายผมจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นปรากฏตัวขึ้นอีก ผมหลงรักคุณจริงๆ นะ ผมจะมั่นคงแน่วแน่กับคุณทั้งใจ”
ลูกเหลือขอที่กลับใจมีค่ามากชนิดว่าแม้แต่ทองก็ยังให้แลกไม่ได้
เย้นหว่านรู้มาโดยตลอด ฉูรั่วไป๋เป็นคนที่พออารมณ์หวั่นไหว ก็ใจจดใจจ่อที่สุด แม้กระทั่งก่อนหน้านี้เธอยังเคยอิจฉาเด็กสาวคนนั้นที่ถูกฉูรั่วไป๋หลงรัก ซึ่งจะต้องเป็นหญิงสาวที่มีความสุขมากที่สุดแน่
แต่เธอกลับไม่เคยคิดเลยว่าหญิงสาวคนนี้จะเป็นตัวเธอเอง
เย้นหว่านทำอะไรไม่ถูกอยู่บ้าง ถ้าเป็นเมื่อก่อนบางทีเธอคงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร แต่เมื่อคืนเธอกลับมีคำตอบแล้ว
ตอนนี้เธอหลงรักโห้หลีเฉินไปอย่างควบคุมไม่อยู่แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...