บทที่ 302 หมอวิเศษป่ายฉี
เสียงตะคอกนี้ทำให้คนอื่นๆ มองมาทางเย้นหว่านเช่นเดียวกัน ในดวงตาที่ร้องไห้จนแดงแต่ละคู่นั้น เต็มไปด้วยความสะอิดสะเอียน โกรธเคือง
จูเหลียนอีงที่เหมือนว่าสูญเสียเรี่ยวแรงนั่งบนเก้าอี้อย่างอ่อนแอไม่มีกำลัง ค่อยๆ หันหน้ามองเย้นหว่าน ในดวงตาที่ขุ่นมัวคู่นั้นมีความแปลกใจบ้างนิดๆ ทว่าไม่นานก็กลับกลายเป็นความมืดสลัว
ผู้อาวุโสที่มีเมตตายิ่งใหญ่คนนี้ ราวกับถูกดึงเอาจิตวิญญาณทั้งหมดแล้วภายในชั่วเวลาข้ามคืน
เย้นหว่านมองด้วยความปวดใจ
เธอไม่ได้สนใจคนอื่นๆ วิ่งตรงไปทางจูเหลียนอีง กึ่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าหล่อน
“คุณย่าคะ หนูหาคนมาช่วยโห้หลีเฉินแล้วค่ะ”
ได้ยินคำพูดนี้ จูเหลียนอีงถึงเงยหน้ามองไปที่ป่ายฉี มองเห็นลักษณะของเขาที่อายุยังน้อยทันสมัย ความหวังอันน้อยนิดนั้นในสายตาของผู้อาวุโสก็ดับลง
หล่อนส่ายหน้าอย่างจำใจ “เสี่ยวหว่าน อย่าเสียความทุ่มเทเปล่าเลย พวกเรามารอผลจากในห้องผ่าตัดดีๆ เถอะ”
ขณะพูดเสียงของผู้อาวุโสก็สะอึกสะอื้นแบบหยุดไม่อยู่
ก่อนหน้านี้ไม่นาน หมอเดินออกมาแบบเปื้อนเลือดไปทั้งตัว ให้พวกเขาเตรียมทำใจไว้ให้ดี
บอกว่าโห้หลีเฉินทนต่อไปได้อีกไม่นานเท่าไรแล้ว
เย้นหว่านรู้ว่าที่จริงระดับความน่าเชื่อถือภายนอกของป่ายฉีต่ำเหลือเกิน เธอกำลังคิดอยากจะอธิบาย เวลานี้เฝิงเสวียนหลันกลับดึงเย้นหว่านออกมาจากตรงหน้าของจูเหลียนอีงอย่างกะทันหัน
แรงของเฝิงเสวียนหลันเยอะมาก ไม่เพียงดึงเย้นหว่านออก ยังถือโอกาสทำให้เย้นหว่านล้มลงบนพื้นด้วย
หล่อนมองเย้นหว่านร่วงลงมาจากที่สูง ด่าอย่างอำมหิต
“นังคนร้าย ไสหัวเธอไปให้ฉันไกลๆ หน่อย เธอทำร้ายหลีเฉินไม่พอ ยังอยากพาหนุ่มหน้าขาวคนหนึ่ง มาเอาชีวิตเขาถึงเตียงผ่าตัดเลยเหรอ?”
คำพูดประโยคนี้ทำให้เย้นหว่านเปลี่ยนจากตัวการที่ก่อกรรมทำชั่วมาเป็นผู้ร้ายฆ่าคนแล้ว
สายตาที่คนอื่นมองเย้นหว่านยิ่งแค้นเคืองเพิ่มขึ้นอีก
ลุงใหญ่เดินเข้ามาก่อน ยกเท้าอยากจะเตะไปบนตัวของเย้นหว่าน
“ฉันจะตีให้หญิงสารเลวอย่างเธอตาย”
เท้านั้นออกแรงอย่างหนัก ตอนที่เตะเข้ามาเหมือนเอาลมมาด้วย
เย้นหว่านหมอบอยู่ที่พื้น เดิมทีแม้แต่แรงต่อต้านยังไม่มีเลย เห็นปลายรองเท้าหนังแหลมคมตรงหน้านั้นแตะมาบนตัวของเธอ
“ปึง......”
เสียงพุ่งชนอย่างรุนแรงทีหนึ่ง เพียงแวบเดียวก็เห็นลุงใหญ่ลอยออกไป กระแทกบนผนังเข้าอย่างจัง
เขาพึ่งร่วงลงพื้น มุมปากมีเลือดสดไหลออกมา
ครั้งนี้กระแทกไม่เบาเลย
ส่วนป่ายฉีเก็บเท้าไปอย่างเรียบเฉย นั่งยองลง ยื่นมือไปให้เย้นหว่าน
เขาขมวดคิ้วอยู่พูดว่า “ถ้าพ่อแม่คุณรู้ว่าคุณโดนคนตีขนาดนี้ต้องปวดใจมากแน่”
แต่ว่าพ่อแม่ของเธอล้วนไม่ต้องการเธอแล้ว บนโลกใบนี้มีเพียงหนึ่งเดียวที่ยังเป็นห่วงเธอ ซึ่งกำลังนอนอยู่ด้านในห้องผ่าตัด
สายตาเย้นหว่านประกายแวววาว จับมือของป่ายฉีที่ยื่นเข้ามาไว้
เธอกลับไม่ได้ลุกขึ้นมาตาม แต่ว่าจับมือของเขาเอาไว้แน่นก่อนจะอ้อนวอน “ขอร้องคุณนะ จะต้องช่วยโห้หลีเฉินให้รอด”
“ได้”
คำตอบของป่ายฉีเป็นสิ่งยืนยัน
เขาพลิกกุมมือของเย้นหว่านไว้ ดึงเธอขึ้นมาจากพื้นที่เย็นเฉียบ
และเมื่อสักครู่เท้าที่เขาแตะไปนั้นทำให้ลุงใหญ่กึ่งเป็นกึ่งตาย นอนคว่ำอยู่บนพื้นตั้งนานยังไม่ลุกขึ้นมา วินาทีแรกทำให้คนอื่นๆ ตกใจจนงงไปหมด ต่อมาก็ทำให้ไฟโกรธของคนอื่นๆ ลุกขึ้นกันแล้ว
พวกเขารีบล้อมป่ายฉีขึ้นมาด้วยท่าทางชั่วร้ายมาก
“ไปกินหัวใจหมีดีเสือที่ไหนมา ถึงได้กล้าทำร้ายคนของตระกูลโห้ เห็นพวกตระกูลโห้โง่กันรึไง? ไอ้หนุ่ม แกหาที่ตายซะแล้ว”
มีบางคนทำท่าทางเตรียมพร้อมสู้
พ่อบ้านพยุงหล่อนไว้ เดินมาตรงหน้าของเย้นหว่านและป่ายฉีโดยตรง ตอนที่หล่อนเผชิญหน้ากับป่ายฉี แม้กระทั่งยังประหม่าอยู่บ้าง
“คุณคือป่ายฉีจริงเหรอ? หมอวิเศษป่ายฉีคนนั้นน่ะเหรอ?”
หล่อนแอบห่วงใยเรื่องของโห้หลีเฉินอย่างลับๆ มาโดยตลอด ยิ่งรู้เรื่องพวกนั้นระหว่างเขากับมู่หรุงซิ่น และรู้ว่าช่วงเวลาก่อนหน้านี้โห้หลีเฉินเคยตามหาหมอวิเศษป่ายฉีด้วยความยากลำบาก เพื่อชดเชยให้มู่หรุงซิ่น
ว่ากันว่าป่ายฉีคือผู้อายุน้อยอย่างมาก เป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงตั้งแต่น้อย
ตอนนั้นเย้นหว่านก็ไปด้วยเช่นกัน และเป็นคนที่เคยเจอป่ายฉี ตอนนี้เธอพาคนมา นั่นต้องเป็นเจ้าตัวป่ายฉีอย่างไม่ต้องสงสัย
มุมปากป่ายฉีโค้งเส้นรัศมีวงกลมที่สบายใจขึ้น ถึงแม้จะเผชิญหน้ากับคุณนายใหญ่ตระกูลโห้ที่น่าเกรงขามอยู่ เขากลับสงบนิ่งมาก
ในน้ำเสียงดูถูกแบบไม่ปิดบังสักนิด “ตระกูลโห้ยังไม่ใช่ว่าจะโง่ทั้งหมด”
คำพูดประโยคนี้ ทำเอาญาติพี่น้องกลุ่มนั้นของตระกูลโห้ต่างก่นด่าเข้าไป
ชั่วพริบตาเดียวสีหน้าพวกเขาก็ดูแย่ ถลึงตาใส่ป่ายฉีอย่างโหดเหี้ยม อยากด่าคน แต่กลับโดนสายตาหนาวเย็นของจูเหลียนอีงทำให้ตกใจไป
จูเหลียนอีงไม่สนใจการดูถูกของป่ายฉีแม้แต่น้อย พูดขึ้นอย่างรีบร้อน
“คุณป่ายฉี เมื่อสักครู่ขอโทษมากจริงๆ ขอให้คุณเห็นแก่ฉัน ช่วยหลานชายฉันหน่อยเถอะ”
“คุณนายใหญ่ คุณไม่ต้องขอร้องผมหรอก ที่ผมมาเพียงเพราะคำขอขอเย้นหว่าน ไม่เกี่ยวกับพวกคุณเลย”
ป่ายฉีพูดจบอย่างหยิ่งยโส และก้าวขาออก เดินไปทางห้องผ่าตัด
เวลานี้กลับไม่มีใครกล้าขวางกั้นเขาสักก้าว
จูเหลียนอีงเป็นคนขอร้องด้วยตนเอง พวกเขาใครยังกล้าพุ่งไปหาที่ตายกัน?
เพียงแต่พวกเขายังคงไม่เชื่อเอามากๆ ผู้ชายที่ดูเหมือนวัยรุ่นเช่นนี้จะสามารถรักษาคนที่หมอดังระดับโลกยังไม่มีทางรักษาได้
ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก และปิดลงอีกครั้ง
หัวใจเย้นหว่านที่แขวนอยู่ ในที่สุดก็หาที่ลงที่เหมาะสมขนาดนั้นเจอเข้าแล้ว
เธอปลอบใจตนเองอยู่ไม่ขาด ป่ายฉีเป็นหมอวิเศษ ต้องสามารถช่วยชีวิตโห้หลีเฉิน และสร้างปาฏิหาริย์ได้แน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน
อืดอาด มีเรื่องคู่นั้นคู่นี้แทรกมาตลอด แล้วยังออกทะเลไปไม่รู้กี่รอบ วนอยู่แต่กับความโง่ของนางเอกและความปิดปังเพราะรักของพระเอก เฮ้อ ทนอ่านมาเพราะอยากรู้ตอนจบ แต่หงุดหงิกมาก...
ฝึกฝนตัวเองหาทางช่วยสามีมันก็ดี แต่ถึงขนาดทิ้งลูกให้คนอื่นดูแลนี่ไม่ไหว เลี้ยงเด็กยังไงให้เป็นแบบนี้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเป็นภาระ ใช้ชีวิตโง่ ๆ มีศัตรูอยู่ แต่ไม่พาการ็ดไปด้วย พอลูกมีปัญหาที่รร. แทนที่จะเรียกสามี มาช่วยตั้งแต่แรก เสือกจะสู้เอง...
นางเอกอ้อนแอแถมโง่ แต่ก็ไม่ฟังพระเอก เสือกวิ่งไปวิ่งมาให้ถูกคนทำร้าย อ่านแล้วรำคาญ...
นางเอกโง่เง่าไม่มีการพัฒนา...
ทำไมไม่บอกพระเอกแล้วให้จัดการกับนังนั่น...
โอน่อหยาก็รู้นี่นาว่านางเอกเป็นคู่หมั้นประธาน ทำไมยังกล้าใส่ร้ายหรือแปลกใจว่านางเอกยังมีคนหนุน...
เนื้อเรื่องยืดยาวววน่าเบื่อมาก วนไปมาไม่เข้าเรื่องสักทีอ่านจนไม่อยากอ่านต่อน่าเบื่อเกิน ไม่เข้าเรื่องพระเอกกับนางเอกสักที วนอยู่ที่เดิมจนไม่น่าติดตามเพราะน่าเบื่อ...