อินชิงเสวียนเดินมาถึงตลาดแล้ว
ถนนที่นี่พลุกพล่านกว่าในเมืองหลวง และสิ่งที่แตกต่างก็คือ ชาวบ้านที่นี่ล้วนถืออาวุธ ซึ่งเกือบจะเหมือนกับเป่ยไห่เลย
บนถนนบางครั้งอินชิงเสวียนก็ได้ยินคำว่าหนังสือสวรรค์ไร้อักษร ซึ่งนางก็อดแปลกใจไม่ได้
ทำไมถึงไม่เคยได้ยินผู้อาวุโสหันพูดถึงเรื่องนี้เลย
เขากล่าวว่าตำหนักเทพหอทองคำมีเคล็ดวิชาลับวรยุทธ์ มียอดฝีมือและผู้อาวุโส ทำนองพิณที่หายสาบสูญ และภาพวาดของทุกคน แต่ไม่ได้พูดถึงหนังสือสวรรค์ไร้อักษรเลย
หรือว่าเรื่องนี้มีการวางแผนร้ายที่ไม่อาจให้คนล่วงรู้?
ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็ได้ยินเสียงคนตะโกนขึ้นว่า “ผู้อาวุโสฉีจากสำนักอวิ๋นซานมาแล้ว เขาบอกว่าพรุ่งนี้จะพาเราไปที่ยอดเขาบรรจบสวรรค์ ตอนนี้กำลังรับสมัครผู้มีความสามารถที่ศาลาหานซาน เรารีบไปดูกันเถอะ”
“สำนักอวิ๋นซานเป็นสำนักใหญ่ในยุทธจักร มีเขาเป็นผู้นำของพวกเรา ต้องสามารถค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของสำนักบนเขาได้แน่”
“ใช่แล้ว สำนักอวิ๋นซานมินเป็นสำนักคุณธรรมที่ต่อสู้กับพวกตงหลิว สามารถไว้ใจได้แน่นอน”
“เรารีบไปดูกันเถอะ”
ทุกคนวิ่งไปด้วยประกาศไปด้วย มุ่งหน้าไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
อินชิงเสวียนยิ้มอย่างเหยียดหยาม สำนักอวิ๋นซานเป็นสำนักของโจรเฒ่าซูถูคนนั้นไม่ใช่หรือ ก็เป็นแค่พวกที่ซอกซอนเจาะเข้ารังโน้นรังนี้เท่านั้น จะไปดีเด่อะไรได้
หลังจากการตายของซูถู สำนักอวิ๋นซานก็ถอนตัวออกจากเป่ยไห่ ยังกล้าเรียกตัวเองว่าสำนักคุณธรรมอีก
ในตอนนั้นซูถูเพื่อยึดครองพิณการเวกเป็นของตัวเอง ได้สมรู้ร่วมคิดกับคนทรยศอาซือหลาน ปลุกระดมสำนักในเป่ยไห่ให้บีบคั้นหอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้ยังมีผู้อาวุโสฉีมาอีกคน ต้องไม่ใช่คนดีแน่นอน
แต่พอมาคิดดูอีกที ไม่ว่าพวกเขาจะมีเจตนาชั่วร้ายขนาดไหนก็ตาม หากเป้าหมายของพวกเขาคือการโจมตียอดเขาบรรจบสวรรค์ เช่นนั้นก็นับว่าพวกเขาก็อุดมการณ์ตรงกันกับตัวเองอยู่ครึ่งหนึ่ง ไม่สู้เข้าไปดูสักหน่อย ว่าพวกเขามีแผนดีอะไรบ้าง
ขณะที่กำลังจะก้าวไปข้างหน้า จู่ๆ ร่างในชุดขาวก็ปรากฏขึ้นข้างๆ
“ตามข้ามา”
คนผู้นั้นพูดด้วยเสียงแผ่วต่ำ แล้วเดินเข้าไปในตรอกข้างๆ
“เรื่องมันยาว”
อินชิงเสวียนพยายามเล่าเรื่องให้กระชับที่สุดว่า ผู้อาวุโสหันมาที่เมืองหลวง ลักพาตัวเสี่ยวหนานเฟิง รวมถึงเรื่องที่ตัวเองใช้เสียงพิณทำให้เย่จิ่งอวี้สูญเสียความทรงจำ และสิ่งที่เฟิงเอ้อร์เหนียงบอกเรื่องราวชีวิตของเจ้าของร่างเดิมให้เย่จั้นฟังคร่าวๆ
ครั้นได้ยินดังนี้ เย่จั้นก็รู้สึกประหลาดใจ
“ฮองเฮาเป็นลูกสาวของธิดาเทพจากตำหนักเทพหอทองคำจริงๆ หรือ”
“พวกนางบอกมาเช่นนี้ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยเป็นอย่างไรนั้น ข้าก็ไม่กล้ายืนยัน มีแต่ต้องรอจนกว่าจะไปถึงบนเขาแล้วค่อยลงมือไปตามสถานการณ์ อีกทั้งเสี่ยวหนานเฟิงยังอยู่ในมือพวกเขา ตอนนี้ข้าไม่มีทางเลือกอื่น”
อินชิงเสวียนถอนหายใจเบาๆ พูดอย่างที่ใจคิดจริงๆ “ข้าไม่มีอะไรปิดบังเสด็จอาแม้เพียงครึ่งคำ ขอเสด็จอาได้โปรดอย่าบอกอาอวี้ ตอนนี้ที่ต้าโจวเพิ่งจะมั่นคง จะยอมให้ราชสำนักเกิดปัญหาวุ่นวายเพราะข้าคนเดียวไม่ได้อีกเด็ดขาด”
เมื่อมองอินชิงเสวียนที่สายตาแน่วแน่ เย่จั้นก็มีความคิดซับซ้อน
เขาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่อ่อนโยนเช่นนี้ จะสามารถแบกภาระอันหนักอึ้งด้วยไหล่อันบอบบางของนางได้ ทันใดนั้นเขาก็เกิดความรู้สึกเคารพเลื่อมใส
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ประกบมือคำนับ กล่าวอย่างหนักแน่น “กระหม่อม น้อมรับบัญชา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...