อินชิงเสวียนโค้งกายคำนับเล็กน้อย
“ขอบคุณเสด็จอามาก ไม่ทราบว่าเหตุใดเสด็จอาถึงพบที่นี่ได้”
เย่จั้นถอนหายใจกล่าวว่า “หลังจากออกจากเมืองหลวง ข้าก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ได้ยินมาว่ามีหนังสือสวรรค์ไร้อักษรปรากฏขึ้นที่เทือกเขาเชื่อมเมฆา ชาวยุทธ์จำนวนมากมุ่งหน้ามาที่นี่ จึงลองเสี่ยงโชคดูเหมือนกัน”
อินชิงเสวียนพยักหน้า
“เป็นโอกาสดีเหมาะกับการมาสืบข่าวจริงๆ น่าเสียดายที่การเดินทางไปเป่ยไห่ สืบข่าวอะไรไม่ได้เลย น่าละอายใจต่อเสด็จอายิ่งนัก”
เย่จั้นพูดอย่างอบอุ่น “ฮองเฮาไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง แม่นางอินหายตัวไปหลายปีแล้ว ข้ารู้ว่าการตามหามีความหวังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่อยากเสียใจภายหลัง ไม่ว่าจะผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นไร ก็ควรพยายามทำให้ดีที่สุด”
เขาหยุดครู่หนึ่ง แล้วขมวดคิ้วถามว่า “แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือจ้าวเอ๋อร์ได้อย่างไร ฮองเฮาพอมีวิธีใดที่ให้ข้าขึ้นเขาไปกับเจ้าได้หรือไม่ จะได้ช่วยดูแล?”
“ไม่ต้องหรอก ที่ข้ามาพบเสด็จอานั้น ประการแรกคือไม่ต้องการให้อาอวี้รู้เรื่องนี้ ประการที่สองไม่ต้องการให้เสด็จอาเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเสด็จอา แต่ผู้อาวุโสหันนั่นเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก รับมือได้ยาก แต่ตราบใดที่ตามขึ้นไปถึงบนเขา เขาจะไม่เตรียมป้องกันตัวจากข้าแน่นอน ถึงเวลานั้น ข้าจะถือโอกาสพาจ้าวเอ๋อร์เข้าไปในมิติ”
เย่จั้นไม่ค่อยเข้าใจว่ามิตินั้นหมายถึงอะไร เขาคิดมาโดยตลอดว่าอินชิงเสวียนมีของวิเศษติดตัว เขาจึงพยักหน้า
“เช่นนั้นก็ได้ ถ้าสำนักอวิ๋นซานสามารถนำคนมาโจมตีเทือกเขาเชื่อมเมฆาได้จริงๆ ข้าจะเข้าร่วมกับพวกเขา หากพวกเขาทำไม่ได้ ข้าจะอยู่ที่นี่ตลอด หากฮองเฮาต้องการความช่วยเหลือจากข้า ก็สามารถมาหาข้าได้ทุกเมื่อ”
“อื้ม ข้าออกมานานมากไม่ได้ เรื่องสำนักอวิ๋นซานต้องรบกวนเสด็จอาแล้ว”
หลังจากที่อินชิงเสวียนพูดจบก็ลุกขึ้นยืน เย่จั้นเดินไปส่งนางที่ประตู และมองส่งนางจนกระทั่งลับสายตา แล้วจึงกลับเข้าไปในห้อง
เมื่อนึกถึงชายชราที่เพิ่งพบ นัยน์ตาก็ฉายแววเยือกเย็นขึ้นหลายส่วน
กล้าแตะต้องคนของราชวงศ์ ก็ต้องได้ชดใช้!
อินชิงเสวียนกลับมาที่โรงเตี๊ยมอย่างรวดเร็ว เมื่อมาถึงหน้าประตูของผู้อาวุโสหัน ก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเสี่ยวหนานเฟิงทันที
นางยกมือขึ้นแล้วเคาะประตู
เสียงของฉางเฮิ่นเทียนดังมาจากในห้อง
“ผู้ใด”
อินชิงเสวียนพูดเบาๆ “ข้าเอง”
ประตูเปิดออก ฉางเฮิ่นเทียนที่อุ้มเสี่ยวหนานเฟิงก็ปรากฏตัวที่หน้าห้อง
อินชิงเสวียนหยิบขวดน้ำพุวิญญาณที่เติมไว้แล้วออกมาจากแขนเสื้อ แล้วส่งให้ฉางเฮิ่นเทียน
“ขอบคุณพี่ฉางที่ช่วยดูแลลูกข้าตลอดทาง ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไม่อาจแสดงความนับถือได้หมด”
ทันใดนั้นดวงตาของฉางเฮิ่นเทียนก็สว่างวาบ รีบรับไว้ทันที
“ขอบคุณแม่นางอิน แต่ข้ายังให้ลูกเจ้าไม่ได้ แม่นางโปรดยกโทษให้ด้วย”
“ข้ารู้ ไม่มีอะไรแล้ว เช่นนั้นข้าจะกลับไปพักผ่อนก่อน”
อินชิงเสวียนไม่ได้พูดไร้สาระกับเขา หอมแก้มเสี่ยวหนานเฟิง แล้วกลับไปที่ห้อง
นางนั่งขัดสมาธิ หลอมรวมกำลังภายในที่โยกย้ายออกมาจากจุดตันเถียน และค่อยๆ โคจรพลังไปยังเส้นลมปราณพิเศษทั้งแปดตามวิธีการที่เจ้าสำนักเซี่ยวสอน หลังจากโคจรกำลังภายในได้หนึ่งรอบ นางก็เข้าสู่สภาวะสละตน สัมผัสทั้งห้าของร่างกายขยายขึ้นตลอดเวลา ได้ยินแม้กระทั่งเสียงสนทนาของนักดื่มที่อยู่ชั้นล่าง
ขณะที่ตกอยู่ในห้วงภวังค์อยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของเฟิงเอ้อร์เหนียง
“ผู้อาวุโสหัน ฉุยอวี้อยู่ในภาวะมึนงงมาหลายวันแล้ว ปิดผนึกชีพจรนานเกินไป อาจทำให้จิตใจของนางเสียหาย ตอนนี้กำลังจะกลับไปถึงตำหนักเทพแล้ว ผู้อาวุโสหันโปรดคลายจุดให้นางด้วย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...