ณ ตำหนักชิงฮว๋า
เย่ไห่ถังกำลังเล่นเกมที่เสด็จพี่สะใภ้ของนางมอบให้อย่างเบื่อๆ คนทั้งคนเป็นเหมือนดอกไม้ที่ไม่มีชีวิตชีวา ดวงตาของเขามืดมน
คิดถึงเสด็จพี่สะใภ้จัง คิดถึงจ้าวเอ๋อร์จัง!
ตั้งแต่ตอนแรกที่รู้จากหลี่เต๋อฝูว่าเสด็จพี่สูญเสียความทรงจำ เสด็จพี่สะใภ้ได้ออกจากวังไปแล้ว เย่ไห่ถังก็ตกใจมาก แทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันเป็นเรื่องจริง
นางตำหนิหลี่เต๋อฟูด้วยความโกรธ ยืนกรานที่จะถามฝ่าบาทด้วยตนเอง แต่หลี่เต๋อฝูหยุดไว้ด้วยด้วยสีหน้าดื้อดึง
จนกระทั่งนางเห็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของอินชิงเสวียน และเครื่องเล่นเกมที่สามารถเติมแบตได้เมื่อวางไว้กลางแดด เย่ไห่ถังจึงเชื่อว่าเสด็จพี่สะใภ้ได้จากไปแล้วจริงๆ
หลังจากทราบเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียดแล้ว เย่ไห่ถังก็ทั้งโกรธทั้งหงุดหงิด ต้องการบอกความจริงกับฝ่าบาทหลายครั้ง แต่ก็ต้องอดกลั้นไว้
นี่เป็นสิ่งที่เสด็จพี่สะใภ้เสียสละเพื่อตัวเองและครอบครัว หากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น นางจะกลายเป็นคนบาปไปตลอดกาลอย่างแน่นอน
แต่ใจข้ายังว่างเปล่า โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงอินปู้อวี่ที่จากไป ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นไปอีก
“เฮ้อ!”
เย่ไห่ถังไม่รู้ว่านางถอนหายใจกี่ครั้ง ดูเหมือนว่าทุกวันเมื่อลืมตา นางจะต้องถอนหายใจ
ในด้านหนึ่งก็เป็นห่วงเสด็จพี่สะใภ้และหลานชายตัวน้อย ในอีกด้านหนึ่งก็เป็นห่วงอินปู้อวี่
เหตุใดสวรรค์จึงปฏิบัติต่อเสด็จพี่สะใภ้เช่นนี้ ตระกูลอินเพิ่งได้รับการฟื้นฟูไม่นาน ตัวนางเองยังต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมายเพื่อให้ได้มาซึ่งสถานะของตัวเอง แต่จะทำเช่นไรได้ ความพยายามทั้งหมดของนางถูกทำลายอย่างสิ้นเชิงในชั่วข้ามคืน ในใจของนาง ก็คงไม่เต็มใจนักหรอก!
น่าเสียดายที่ตัวเองไร้ความสามารถเกินไป ไม่สามารถออกจากวังได้ และไม่กล้าพบเสด็จพี่ฮ่องเต้ ไม่สามารถช่วยเหลือเสด็จพี่สะใภ้ได้เลย
เมื่อสามวันก่อน ในที่สุดนางก็ส่งขันทีน้อยคนหนึ่งออกจากวัง เพื่อไปสืบข่าวของเสด็จพี่สะใภ้และอินปู้อวี้ อย่างไรก็ตามผ่านไปสามวันแล้ว ยังไม่มีข่าวคราวจากขันทีบ้านั่นเลย และไม่ด้วยรู้ว่าตามหาเจอหรือไม่
“เฮ้อ!”
เย่ไห่ถังเท้าคาง แล้วถอนหายใจอย่างหนักอีกครั้ง
อวิ๋นเฟิงกำลังจะพูดปลอบ ทันใดนั้นก็เห็นนางกำนัลน้อยวิ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยความตื่นตระหนก
“เหตุใดจึงเสียกิริยาเช่นนี้ ตื่นตระหนกอะไร”
เย่จิ่งอวี้พูดด้วยน้ำเสียงสงบ ก่อนจะเดินไปยังตำหนัก
อวิ๋นเฟิงก้มหน้าพูดทันทีว่า “องค์หญิงเป็นหวัด รู้สึกไม่สบาย กำลังพักผ่อนอยู่ในตำหนัก สั่งให้หม่อมฉันเฝ้าประตูโดยเฉพาะ องค์หญิงบอกว่าช่วงนี้อารมณ์ไม่ดี ไม่อยากพบใครทั้งนั้น”
เย่จิ่งอวี้เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววประชดประชัน
พูดอีหรอบนี้อีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเย่ไห่ถัง หรือขุนนางเฒ่า ทุกคนล้วนไม่สบาย เรื่องไร้สาระเช่นนี้เขาจะเชื่อได้อย่างไร
“เมื่อเร็วๆ นี้ข้าได้ศึกษาศาสตร์การแพทย์บางอย่างมา กำลังหาคนมาฝึกปรือฝีมืออยู่พอดี ในเมื่อน้องสาวข้ายังป่วยอยู่เช่นนี้ งั้นข้าจะไปตรวจอาการให้นางเอง”
เย่จิ่งอวี้เร้นกายเข้าไป ฝีเท้ารวดเร็วราวกับสายลม สาวน้อยอย่างอวิ๋นเฟิงมีหรือจะสามารถหยุดเขาได้
เย่ไห่ถังอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
ไม่มีทาง เสด็จพี่ว่างขนาดนั้นเลยหรือ ถึงได้มีเวลาไปศึกษาทักษะทางการแพทย์ เมื่อนึกถึงภาพที่เย่จิ่งอวี้ใช้เข็มเงินแทงตัวเองเป็นแถมยาว เย่ไห่ถุงก็ขนหัวลุกซู่
ขณะที่นางพยายามอย่างยิ่งที่จะคิดหาวิธีส่งเสด็จพี่ฮ่องเต้ออกไป จู่ๆ ผ้าห่มก็ถูกยกขึ้น และใบหน้าที่หล่อเหลาก็ปรากฏในดวงตาของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...