“เจวี๋ยอิ่ง เข้ามา”
สิบห้านาทีต่อมา ใบหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็เย็นชาและเคร่งขรึม ลักษณะน่าครั่นคร้ามของผู้อยู่ที่อยู่เบื้องบนกลับคืนดังเดิม
ร่างหนึ่งปรากฏวับออกมาจากมุมห้อง คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความเคารพ
“กระหม่อมถวายบังคมฝ่าบาท”
“ลุกขึ้น”
เย่จิ่งอวี้พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “รีบส่งคนไปตรวจสอบเบาะแสที่อยู่ของเสด็จอาโดยด่วน”
หัวใจของเจวี๋ยอิ่งเต้นรัว แต่ยังคงพูดด้วยความเคารพว่า “กระหม่อมน้อมรับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
เย่จิ่งอวี้หยุดครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าได้ตรวจสอบเอกสารของเมืองซุ่ยหาน พบว่าพ่อลูกตระกูลอินกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น”
ครั้นได้ยินดังนี้ เจวี๋ยอิ่งก็รู้สึกทั้งดีใจและกลัดกลุ้มผสมปนเป
ดีใจที่ฝ่าบาทจำเรื่องที่ฮองเฮาออกจากวังไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้กลุ้มใจคือ เขาจะตอบว่าอย่างไรดี
“นี่...”
เจวี๋ยอิ่งเหงื่อออกเล็กน้อย
เย่จิ่งอวี้เหลือบมองหลี่เต๋อฝูที่ยืนอยู่ข้างประตู
“หลี่เต๋อฝู เจ้ามาตอบ”
“เอ่อ กระหม่อม...”
หลี่เต๋อฝูวิ่งหัวซุกหัวซุนเข้ามา รีบคุกเข่าโขกศีรษะราบลงบนพื้น
พูดอย่างจำใจว่า “อันที่จริง...สืบพบกลุ่มกบฏของเจียงวูแล้วพ่ะย่ะค่ะ พ่อลูกตระกูลอินถูกใส่ร้าย”
เย่จิ่งอวี้พยักหน้า
“ดีมาก ดูเหมือนว่าข้าจะลืมไปหน่อยจริงๆ เช่นนี้แล้ว คนตระกูลอินไปอยู่ที่ไหนเสียเล่า”
เมื่อเห็นว่าเย่จิ่งอวี้ไม่แสดงอาการโกรธเลย หลี่เต๋อฝูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เขากะพริบตาเล็กตี่อยู่ปริบๆ แต่ในใจมีคำพูดแก้ต่างแล้ว บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีที่จะสามารถนำตระกูลอินกลับมาได้
ยามนี้กวนฮั่นหลินแก่แล้ว กวนเซี่ยวก็ไม่เป็นโล้เป็นพาย แม้ว่าจอมพลเฒ่าจะฝึกฝนลูกศิษย์หลายคน แต่ก็ถูกฝ่าบาทตัดแต่งไปพอสมควรแล้ว แม่ทัพบู๊ที่สามารถเป็นหลักให้ต้าโจวได้อย่างแท้จริง ก็มีเพียงตระกูลอินแล้ว
หลี่เต๋อฝูราบตัวลงคุกเข่าบนพื้นอย่างตัวสั่นทันที คราวนี้แย่แล้ว สรรเสริญเยินยอจนเกินเรื่องไปแล้วสิ
“ลุกขึ้นเถอะ ข้าอยากออกไปเดินเล่นหน่อย ไม่ต้องตามมานะ”
หลังจากที่เย่จิ่งอวี้พูดจบ เขาก็ก้าวเท้ายาวๆ ออกจากตำหนักเฉิงเทียน
หลี่เต๋อฝูอ้าปาก แต่แล้วก็ปิดปากลง
เจวี๋ยอิ่งยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่าบาท ตัวเองอย่าพูดมากเกินไปจะดีกว่า บางทีพูดผิดพลั้งไป จะถูกส่งไปทำความสะอาดกระโถนอีก
เย่จิ่งอวี้ใช้วิชาตัวเบาแล้ว ในพริบตาเดียว เขาก็มาถึงตำหนักจินหวู
เมื่อมองดูทิวทัศน์ที่คุ้นเคย ดวงตาของเย่จิ่งอวี้ก็กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง
เสวียนเอ๋อร์ของเขา แบกรับภาระมากมายเกินไป แต่กลับไม่ยอมแบ่งเบากับเขา
โชคดีที่เขารู้สึกตัวแล้ว อีกไม่นาน พวกเขาจะได้พบกันอีก
เย่จิ่งอวี้ถอนหายใจหนักๆ ระงับความขมขื่นในลำคอ ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปในตำหนักจินหวู ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินคนข้างหลังเขาพูดว่า “ขอสุขสถาพรสถิตชั่วนิรันดร์ อาตมภาพขอคำนับแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...