“ออกไปเถอะ จวนของพวกท่านยังว่างอยู่ หากขาดเหลืออะไร สามารถบอกหลี่เต๋อฝูได้ ตราบใดที่ข้ามี จะประทานให้แน่นอน”
เย่จิ่งอวี้ยังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง เสียงทุ้มลึกนั้น ทำให้ไม่อาจสงสัยสิ่งใดได้อีก
อินจ้งโค้งคำนับและพูดว่า “กระหม่อมไม่กล้าขออะไรมาก ได้กลับเมืองหลวงก็ซาบซึ่งมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อมองดูเส้นผมสีดอกเลาของอินจ้ง เย่จิ่งอวี้ก็ถอนหายใจเบาๆ
“เหตุการณ์เจียงวูในอดีต ข้ารู้สึกผิดต่อตระกูลอินมาก ข้าทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยให้ท่าน หากท่านต้องการอะไร อย่าได้เกรงใจ”
อินจ้งกล่าวด้วยความเคารพ “ได้กลับเมืองหลวง อินจ้งก็รู้สึกซาบซึ้งมากแล้วพ่ะย่ะค่ะ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา”
เย่จิ่งอวี้ยิ้มเบาๆ “เช่นนั้นก็ออกไปเถิด”
“กระหม่อม ทูลลา”
สองพ่อลูกโค้งคำนับ ถอยกลับออกจากห้องหนังสือ
เย่จิ่งอวี้ยืนอยู่หน้าหน้าต่างสักพักหนึ่ง แล้วไปที่ตำหนักชิงฮว๋าซึ่งเป็นที่พำนักของเย่ไห่ถัง
เย่ไห่ถังกำลังเล่นกับขวดน้ำหอมขนาดเท่าฝ่ามือด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย
นางไม่รู้ว่าขณะนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร นางยังไม่กล้าคุยกับเสด็จพี่ น่าเบื่อจริงๆ
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เย่ไห่ถังก็เงยหน้าขึ้นอย่างเกียจคร้าน
เมื่อเห็นเย่จิ่งอวี้ เขาลุกขึ้นยืนทันที
“ไห่ถังน้อมคำนับเสด็จพี่เพคะ”
“ตามสบาย วันนี้อากาศดี ทำไมไม่ออกไปเดินเล่นล่ะ”
เย่จิ่งอวี้แบมือ และลูบศีรษะเย่ไห่ถังเบาๆ
เย่ไห่ถังหดคอ
“ข้างนอกร้อนจะตาย ไม่มีอะไรน่าสนุก”
เย่จิ่งอวี้พูดอย่างอ่อนโยน “ฝนตกทั้งวัน วันนี้ยังนับว่าสดชื่นอยู่นะ ออกไปเดินเล่นกับข้าหน่อย”
เย่ไห่ถังลังเลและพูดว่า “เพคะ”
หลังจากออกจากตำหนักชิงฮว๋า สองพี่น้องก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นตำหนักเย็น
เย่ไห่ถังรู้สึกประหม่าเล็กน้อย ยื่นมือออกมาดึงแขนเสื้อของเย่จิ่งอวี้
“เสด็จพี่ ที่นั่นไม่มีอะไรน่าสนใจ ไปที่อุทยานหลวงกันเถอะ”
เย่จิ่งอวี้ไม่หยุด
เย่ไห่ถังพูดด้วยสีหน้าแจ่มใสว่า “ย่อมเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว แม่ทัพน้อยอินมีวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม สามารถรับงานที่สำคัญนี้ได้”
“เจ้าชอบก็ดีแล้ว”
เย่จิ่งอวี้มาถึงทางเข้าตำหนักเย็นแล้ว เปิดประตูไม้หนักออก
กลิ่นสดชื่นของพืชพรรณมาจากลานบ้าน ผสมกับกลิ่นผลไม้อ่อนๆ
ซึ่งผลไม้อย่างเช่น สาลี่ ลูกท้อ และผักที่อินชิงเสวียนปลูกในตำหนักเย็นได้งอกขึ้นมาอีกครั้ง เติบโตเขียวชอุ่ม สามารถเห็นถึงความเจริญงอกงามได้ถนัดชัดเจน
เย่ไห่ถังไม่เคยมาที่ตำหนักเย็นมาก่อน เมื่อเห็นฉากตรงหน้า ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจเล็กน้อย
นางคิดว่าตำหนักเย็นนั้นทรุดโทรมและรกร้าง แต่ภาพเบื้องหน้านี้กลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
“ที่นี่...งามมาก”
นางคิดหาข้ออ้างมาตั้งนาน แต่ก็ยังไม่กล้าพูดอะไรมั่วซั่ว เพราะกลัวว่าเย่จิ่งอวี้จะนึกเรื่องอะไรได้อีก
สีหน้าของเย่จิ่งอวี้สงบ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสงบราวกับน้ำ
“ก็ไม่เลว เข้ามาดูกับข้าหน่อยสิ”
เขาเดินตัดแปลงผักไป ตรงไปยังประตูตำหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...