“ปล่อยตัวโคตรพ่อเจ้าน่ะสิ ข้ายังไม่ได้ฆ่าคนก็มาว่าฆ่าคน เอาความผิดมาจากไหน ขืนพวกเจ้ายังบีบบังคับกันอีก อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ”
เขาทำมือประสานอิน ครั้นแล้วร่างนั้นก็เคลื่อนตัวไปอยู่ต่อหน้านักพรตเต๋าทันที เมื่อพลิกมือ ก็เกิดเป็นเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอานุภาพ
อินชิงเสวียนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ พยายามฟังด้วยความสับสน จากนั้นยกมือขึ้นแล้วพูดว่า “ช้าก่อน ท่านนักพรตเข้าใจผิดหรือเปล่า เพื่อนของข้าไม่ใช่ผู้ที่จะทำบาปมหันต์มั่วซั่วแน่นอน ท่านนักพรตจำคนผิดแล้วกระมัง”
นักพรตเต๋าหลบเลี่ยงการโจมตีที่น่าตกใจของเย่จิ่งหลาน พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “หว่างคิ้วของเขาปรากฏชาดแห่งบาปแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดแน่”
ชาดแห่งบาป?
เป็นคำใหม่อีกแล้ว อินชิงเสวียนอึ้งไปอีกครั้ง
ชาดก็คือสีแดง หรือจะเป็นไฝสีแดงที่หว่างคิ้วของเย่จิ่งหลานนั่น?
หรือว่าเขาทำบาปมหันต์จริงๆ?
สถานที่ที่เขาไปนั้นก็อยู่ที่ตงหลิวเท่านั้น ถึงเข่นฆ่าสังผีแคระเหล่านั้นไป ก็ไม่น่าเสียดาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า ผู้ที่ลงมือสังหารจริงๆ เป็นศิษย์ของสำนักหลักต่างๆ
เหตุใดนักพรตเต๋าจึงไม่ไปหาพวกเขา แต่กลับยืนยันตัวว่าเป็นเย่จิ่งหลานแทน เรื่องนี้ช่างน่าสงสัยจริงๆ
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ อินชิงเสวียนก็ดีดปลายเท้า ลอยตัวเหาะเข้าไปหา
“อาศัยแค่ของไร้ประโยชน์ก็จะยืนยันมั่นใจขนาดนี้ ออกจะเป็นการไร้เหตุผลเกินไป ท่านนักพรตโปรดหยุดเถอะ พวกเราจะชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจน”
เย่จิ่งหลานอารมณ์เสียมาก สบถด่าทอลั่น “ไม่จำเป็นต้องพูดไร้สาระกับนักพรตเต๋าเหม็นเน่าคนนี้ เจ้าและข้าร่วมมือกันจัดการเขาเถอะ”
อินชิงเสวียนได้เคลื่อนไหวแล้ว
ความสัมพันธ์กับเย่จิ่งหลานไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนจากยุคเดียวกันเท่านั้น แต่ยังเป็นเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันมา ย่อมไม่นิ่งดูดายอยู่เฉยโดยไม่ทำอะไรอยู่แล้ว
“ในเมื่อท่านนักพรตไม่ต้องการคุยรายละเอียด เราจึงทำได้เพียงปกป้องตัวเองจนถึงที่สุดเท่านั้น”
ตำแหน่งของชาดแห่งบาปนั้น อยู่จุดเดียวกันกับเลือดหยดนั้น คิดว่าปัญญหาคงเกิดจากที่นั่น ครั้นนึกถึงคำพูดที่ไม่มีตรรกะของโมริตะคาวาสึบาเมะ ก็สะดุ้งในใจ
เขาบอกว่าตัวเองต้องรับกรรมชั่วที่ตามมาทั้งหมด คงไม่ใช่ว่าเลือดหยดนั้นทำหน้าที่จดจำบาปของโมริตะคาวาสึบาเมะ รวมถึงคนที่เขาเคยฆ่าไว้ในตัวหรอกนะ
ให้ตายเถอะ ชาติหมานั่นทำได้เลวทรามจริงๆ
เย่จิ่งหลานกัดฟันด้วยความโกรธ กำกำปั้นกระแทกที่พื้น
อินชิงเสวียนขมวดคิ้วและพูดว่า “แปลกมาก หรือว่าในตัวของเจ้าของร่างเดิมเจ้าก่อกรรมชั่วไว้ แต่เจ้าของร่างเดิมมีอายุเพียงไม่กี่ปี จะฆ่าคนได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะเอาแต่ใจ ฆ่าขันทีนางกำนัลในวังไปหนึ่งหรือสองคน ก็คงไม่ถึงขั้นเป็นบาปมหันต์”
เย่จิ่งหลานสะบัดก้นบุหรี่อย่างฉุนเฉียว
“ช่างเถอะ ไม่คิดเรื่องนี้แล้ว ชีวิตของข้าขึ้นอยู่กับข้ามิใช่ชะตาฟ้าลิขิต ใครกล้าแตะต้องข้า ข้าก็จะฆ่ามันคนนั้น”
เมื่อมองดูแววตาที่เย็นชาคมกริบคู่นั้น อินชิงเสวียนรู้สึกว่าใจหวิว แผ่นหลังชาวาบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...