ศิษย์หลายคนลอบมองไปที่เย่จิ่งหลาน กระซิบกระซาบบอกกัน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเงียบๆ
เย่จิ่งหลานก็เดินกลับไปยังที่พักหินของตัวเอง ทันทีที่ไปถึงประตู หวังซุ่นก็เดินออกมาด้วยสีหน้ายินดี
“นายท่าน ข้าทำงานเสร็จก่อนกำหนด ทำหน้ากากออกมาได้แล้ว”
“โอ้?”
ดวงตาของเย่จิ่งหลานเต็มไปด้วยความสุข เขานึกในใจ จากนั้นก็พาหวังซุ่นเข้าไปในมิติ
“เจ้าใส่มันให้ข้าดูหน่อย”
หวังซุ่นหยิบหน้ากากออกจากแขนเสื้อทันที และในพริบตาเดียว เขาก็กลายเป็นชายชราที่มีท่าทางราวกับเทพเซียน
เย่จิ่งหลานหยิบภาพวาดออกมา เปรียบเทียบซ้ายขวาบนล่างอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ลูบคางพลางพยักหน้า
“ไม่เลว คล้ายมาก”
หวังซุ่นหัวเราะเบาๆ และกล่าวว่า “ขอบคุณนายท่านสำหรับคำชม”
เย่จิ่งหลานหยิบบุหรี่ยี่ห้อดังออกมาจากความว่างเปล่า
“รางวัลเจ้า”
หวังซุ่นรับไว้ด้วยรอยยิ้มยินดี
“ขอบคุณนายท่าน ต่อไปเราควรทำอย่างไรดี”
“ส่งหน้ากากมาให้ข้า ข้าจะเอาไปให้ยัยเด็กนั่น”
เย่จิ่งหลานหยิบหน้ากาก แล้วออกจากที่พักหินไป
ในเวลานี้ อินชิงเสวียนได้เข้ามาในมิติแล้ว
เหมยชิงเกอกำลังเล่นวิ่งไล่จับกับเสี่ยวหนานเฟิง
เมื่อเห็นอินชิงเสวียนเข้ามา ทั้งคู่ก็หยุดเล่นทันที
“เด็จแม่คนสวย”
เสี่ยวหนานเฟิงอ้าแขนน้อยๆ วิ่งเข้ามาหา และกระโดดตัวลอยโผเข้ากอดคอของอินชิงเสวียน
ไม่ได้เจอกันแค่วันสองวัน เจ้าตัวน้อยก็มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก ฝีเท้าเบาลงกว่าเดิม และกระโดดสูงขนาดนี้
อินชิงเสวียนเอียงคอหอมแก้มของพ่อหนุ่มน้อยเบาๆ
“เด็กดี คิดถึงแม่ไหม?”
เสี่ยวหนานเฟิงพูดด้วยเสียงน้ำนมเล็กๆ “คิดถึง”
“แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน กินข้าวหรือยัง”
อินชิงเสวียนถามด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
เสี่ยวหนานเฟิงเหยียดมือเล็กๆ ออก แล้วตบหน้าอกอย่างแรง
“ไปไหนแล้ว สาวน้อย”
อินชิงเสวียนกล่าวว่า “มีคนมาหาข้า ผู้อาวุโสเหมยออกไปพร้อมกับข้าเถอะ”
เหมยชิงเกออยู่ในมิติมานานแล้ว เมื่อรู้ว่าสามารถออกไปได้ นางก็รู้สึกมีความสุข
“ได้ แล้วเด็กล่ะ”
เหมยชิงเกอหันกลับไปมองที่เสี่ยวหนานเฟิง การให้เด็กตัวเท่านี้อยู่ในมิติเพียงลำพัง เหมยชิงเกอรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะ
“พาออกไปด้วยกันเถอะ ข้าจะส่งเขาไปอยู่ที่อื่น”
นางนึกในใจ ครั้นแล้วอินชิงเสวียนก็พาแม่และลูกชายออกจากมิติ
เย่จิ่งหลานยืนไพล่หลังอยู่ในที่พักหิน เมื่อเห็นเหมยชิงเกอเขาก็ทำความเคารพทันที
“นี่คือผู้อาวุโสเหมยใช่หรือไม่ ผู้เยาว์คือเย่จิ่งหลาน ขอคารวะ”
อินชิงเสวียนแนะนำ “คุณชายน้อยเย่เป็นเพื่อนที่ดีของข้า นี่คือเหมยชิงเกอ ศิษย์ระดับสูงของเจ้าตำหนัก”
เหมยชิงเกอมองดูเขาแล้วพูดว่า “คุณชายน้อยเย่ช่างหล่อเหลาสง่างาม สูงตระหง่านดั่งต้นหยกต้านลม เป็นวีรบุรุษถือกำเนิดตั้งแต่เยาว์วัยจริงๆ”
เย่จิ่งหลานเม้มริมฝีปากยิ้ม ประกบมือคำนับ “ขอบคุณผู้อาวุโสเหมยสำหรับคำชม”
ขณะที่พวกเขากำลังคุยกัน ฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงก็เดินเข้ามาจากด้านนอกเช่นกัน เมื่อพวกนางเห็นเหมยชิงเกอ ต่างก็ตื่นเต้นและรีบไปหานางทันที
“ศิษย์พี่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...