เจ้าตำหนักจินตงไหลมองไปยังเหมยชิงเกอ
ถามด้วยสีหน้ามืดลง “เจ้าไม่ได้อยู่ที่ผาเฟิงเริ่นหรือ ใครอนุญาตให้เจ้าออกมา เจ้าคนทรยศต่อตำหนักเทพ ยังไม่คุกเข่าลงอีก”
เหมยชิงเกอกำลังปีติยินดี เมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตกใจเล็กน้อย
“ท่านอาจารย์...”
จินตงไหลตลวาดอีกครั้ง
“ศิษย์ชั่ว คุกเข่าลง”
“ช้าก่อน”
น้ำเสียงแผ่วเบาดังมาจากด้านหลังเหมยชิงเกอ ร่างงามเดินออกไปอย่างช้าๆ
ผู้อาวุโสหันและเจ้าตำหนักมองมาทางนี้พร้อมกัน แสงสีทองแวบขึ้นมาในดวงตาของอินชิงเสวียน เจ้าตำหนักก็ล้มลงกับพื้นทันที
“ท่านอาจารย์”
เหมยชิงเกอปราดเข้าไปประคองเจ้าตำหนัก ในขณะที่อินชิงเสวียนและเย่จิ่งหลานเคลื่อนไหวพร้อมกัน มาขวางหน้าของทั้งสองคน
“ผู้อาวุโสหัน เจ้าตำหนักถูกท่านกักขังไว้กระมัง ไม่เพียงเท่านั้น ท่านยังใช้วิชาเนตรควบคุมเขา ช่างโหดร้ายยิ่งนัก”
เย่จิ่งหลานกล่าวว่า “ถูกต้อง เมื่อท่านเห็นว่าไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จึงพาเจ้าตำหนักกลับมา พยายามปิดบังหูตาให้ทุกคนสับสน ทุกคนไม่ใช่คนโง่ จะถูกท่านบงการได้อย่างไร”
สายตาที่เฉียบแหลมของฉุยอวี้เหลือบเห็นรอยแผลเป็นบนแขนของเจ้าตำหนัก พูดเสียงดังทันที “ถ้าเจ้าตำหนักเก็บตัวบำเพ็ญเพียร จะได้รับบาดเจ็บได้อย่างไร เรื่องนี้มีบางอย่างที่น่าสงสัย”
ศิษย์ที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมดต่างก็มองเห็นเช่นกัน สายตาทุกคู่มองจับไปยังผู้อาวุโสหัน
เฟิงเอ้อร์เหนียงยังถามอย่างดุดันว่า “ท่านปิดบังซ่อนเร้นสถานที่เก็บตัวบำเพ็ญเพียรของเจ้าตำหนักมาโดยตลอด ต้องกักขังเขาไว้และปฏิบัติต่อเขาอย่างโหดร้าย ท่านมีเจตนาใดกันแน่”
ผู้อาวุโสหันโคจรกำลังภายในไปที่จุดตันเถียน ตะโกนลั่น “บังอาจ พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรมาถามข้า”
อินชิงเสวียนยิ้มเยาะและพูดว่า “แล้วไงล่ะ ไม่สามารถถามท่านได้งั้นหรือ พวกเราถามท่านหลายครั้ง แต่ท่านกลับอ้างเหตุปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องปิดบัง”
“เจ้าเป็นเพียงอาคันตุกะในตำหนัก กล้าพูดมากขนาดนี้หรือ รนหาที่ตาย!”
ผู้อาวุโสหันพาลโกรธ ยกมือขึ้นโจมตีใส่อินชิงเสวียน
“ได้”
เย่จิ่งหลานถอยกลับไปอย่างรวดเร็ว พูดกับเฟิงเอ้อร์เหนียง “ฝากเจ้าตำหนักไว้กับข้าเถอะ”
เฟิงเอ้อร์เหนียงพูดอ้อ แล้วส่งตัวเขาให้เย่จิ่งหลาน
ทันทีที่เย่จิ่งหลานนึกในใจ เจ้าตำหนักก็หายตัวไปทันที
ชิงอานและชิงผิงกำลังคุยกับหวังซุ่นอยู่ ใกล้ๆ กันนั้น มีธิดาเทพอินหลีกำลังนั่งยองๆ อยู่ที่ทางเข้าท่อระบายน้ำคล้ายตั้งใจจะตกปลา ขณะที่เสี่ยวหนานเฟิงกำลังนั่งยองๆ อยู่ข้างๆ มองนางด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็น ด้วยใบหน้าที่สงบสุขอ่อนโยน
ทันใดนั้น ที่พื้นก็ปรากฏตัวชายขราขึ้น
เคราและเส้นผมของชายชราเป็นสีขาวล้วน ดวงตาปิดสนิท หมดสติ ตามร่างกายยังคงมีรอยแผลเป็นอยู่
หวังซุ่นช่วยประคองเขาอย่างคล่องแคล่ว เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของชายชราอย่างชัดเจน หวังซุ่นก็รู้สึกประหลาดใจ
“นี่คือ...เจ้าตำหนักจิน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...