สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1152

เหมยชิงเกอโคจรกำลังภายในที่จุดตันเถียน กล่าวเสียงดังทรงพลัง และก้องกังวาน

สายตาทุกคู่มองจับมาหานาง คนส่วนใหญ่รู้จักศิษย์พี่หญิงคนนี้ และบางคนก็ยังสงสัยเรื่องที่เจ้าตำหนักไม่ปรากฏตัวเป็นเวลานานหลายปีอยู่ครามครัน

สำหรับเรื่องที่เหมยชิงเกอถูกจองจำในผาเฟิงเริ่นนั้น ผู้อาวุโสหันมีคำอธิบายเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็คือข้อหาทรยศต่อตำหนักเทพ

เมื่อไม่กี่วันก่อน ในตำหนักเทพมีข่าวออกมาว่าเหมยชิงเกอถูกลักพาตัว ซึ่งทำให้เหล่าศิษย์ทุกคนตื่นตระหนก

ในสายตาของพวกเขา แต่ไหนแต่ไรมาตำหนักเทพหอทองคำไม่อาจทำลายได้ แต่ตอนนี้ทั้งเหมยชิงเกอหายตัวไป และธิดาเทพก็มาหายตัวไปอีก ดินแดนที่เคยเป็นที่อยู่ของเทพเซียนแห่งนี้ ได้กลายเป็นเหมือนตลาดสดไปแล้ว

วันนี้ยังได้ยินมาว่าผู้อาวุโสหันหนีไปอีก ตำหนักเทพต้องมีคนมารับผิดชอบดูแลจริงๆ

เหมยชิงเกอทำท่าทางบอกให้เงียบ เหล่าศิษย์ก็หยุดกระซิบทันที

เหมยชิงเกอกวาดตามองไปที่ทุกคน พูดด้วยน้ำเสียงสงบ “ข้าไม่ใช่คนทรยศต่อตำหนักเทพ ทุกอย่างเป็นเพราะผู้อาวุโสหันจงใจขุดรากถอนโคน กำจัดผู้ไม่เห็นด้วย เขากักขังเจ้าตำหนักไว้ ทั้งยังทำให้ศิษย์พี่น้องทั้งสี่คนเราแตกแยกร้าวฉาน...

...เมื่อตัวตนที่แท้จริงถูกเปิดเผยโดยแม่นางอิน เขาก็พาลโกรธ ต้องการฆ่าแม่นางอินและคุณชายน้อยเย่...

...เมื่อวานนี้ ตอนที่อยู่ในโถงตงไหลผู้อาวุโสหันได้หนีไป ไม่เพียงแค่นั้น การจากไปของผู้อาวุโสอีกหลายท่าน ล้วนเป็นความผิดของเขาแต่เพียงผู้เดียว ผู้อาวุโสหันทำเช่นนี้ เพราะเขาต้องการนำตำหนักเทพหอทองคำมาอยู่ในมือตัวเอง”

นางหยุดแล้วกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายล้วนเป็นคนฉลาด ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นนั้น คงพอจะคาดเดากันได้บ้าง วันก่อนข้าได้รับข่าวมาว่า สามวันจากนี้เจ้าตำหนักจะออกจากการบำเพ็ญเพียร ถึงวาระนั้น ความจริงทุกสิ่งจะปรากฏเอง”

ก่อนที่จะมาที่นี่ หลายคนได้พูดคุยกันแล้ว ในเมื่อผู้อาวุโสหันไม่อยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็โยนความผิดทุกสิ่งทุกอย่างให้กับเขา เหมยชิงเกอเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ อาจจะพูดเกินจริงไปบ้าง

เหล่าศิษย์เริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ต่างกระซิบกระซาบกันอีกครั้ง

เจ้าตำหนักไม่ได้ปรากฏตัวมาหลายปีแล้ว ในตำหนักเทพมีกลุ่มที่สนับสนุนแซ่หันมากมาย บางคนก็ตั้งคำถามขึ้นมาทันที

“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าต้องเป็นฝีมือของผู้อาวุโสหัน ตอนที่ผู้อาวุโสทั้งสองจะจากไป เราทุกคนต่างก็เห็นด้วยตาตนเอง จะถูกผู้อาวุโสหันสังหารได้อย่างไร”

เหมยชิงเกอก็ตื่นเต้นเช่นกัน นางเดินไปสองสามก้าวแล้วกระโดดลงจากแท่นสูง

“ท่านอาจารย์!”

ฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงก็ตามมาติดๆ

อินชิงเสวียนตามมาอย่างกระชั้นชิด เมื่อเห็นว่าดวงตาของชายชราดูเหม่อลอย ก็เลิกคิ้วทันที ดึงฉุยอวี้และเฟิงเอ้อร์เหนียงไว้

กระซิบ “เจ้าตำหนักดูเหมือนจะอยู่ภายใต้มนต์สะกดของผู้อาวุโสหัน พวกท่านต้องระวัง”

แม้ว่าอินชิงเสวียนจะไม่ทราบว่าวิชาที่ผู้อาวุโสหันใช้เรียกว่าอะไร แต่ก็รู้ว่าเป็นศาสตร์วิชาที่คล้ายกับวิชาเนตรของโมริตะคาวาสึบาเมะมาก ซึ่งอาจทำให้จิตใจของคนสับสนได้

ทั้งสองมองเข้าไปในดวงตาของเจ้าตำหนักทันที และมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์