เฮ่อฉางเฟิงคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนสง่างาม
“ไม่ต้องมากพิธี”
จากนั้นเขาก็หันความสนใจไปที่กงซวินอวิ๋นเฟิ่ง
“ท่านแม่จะออกจากจวนหรือ”
“ดึกดื่นขนาดนี้ แม่จะออกไปทำไมน่ะหรือ แม่แค่ออกไปลาดตระเวนเมือง คิดว่าเจ้าคงได้ยินเรื่องป้าชุยแล้ว แม่กลัวว่าพ่อของเจ้าไม่อยู่ที่นี่ นางจะทำร้ายชาวบ้าน”
ท่าทางของกงซวินอวิ๋นเฟิ่งนั้นอ่อนโยน มองลูกชายคนโตด้วยสายตารักใคร่เอาใจใส่
คนเลี้ยงม้าอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ถ้าคุณชายใหญ่ไม่วางใจ เช่นนั้นก็ไปกับฮูหยินได้”
กงซวินอวิ๋นเฟิ่งขมวดคิ้วเล็กน้อย เหลือบมองคนเลี้ยงม้าด้วยสายตาเย็นชา
พูดด้วยความรักเมตตาว่า “ไม่ต้องหรอก เจ้ากลับไปฝึกวรยุทธ์เสีย ถ้าเกิดท่านพ่อเห็นเจ้าเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกอีก เขาจะไม่พอใจเอา”
เฮ่อฉางเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรขอรับ ช่วงนี้ท่านพ่ออารมณ์ดีมาก ไม่ตำหนิหรอก ช่วงนี้ลูกก็ไม่ได้อยู่กับท่านแม่มาหลายวันแล้ว วันนี้อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การออกไปเดินเล่นพอดี”
เขายื่นมือออกจับบังเหียน แล้วพูดกับคนเลี้ยงม้าว่า “เจ้าออกไปก่อนเถอะ”
คนเลี้ยงม้ายืนนิ่ง ตอนแรกกงซวินอวิ๋นเฟิ่งคิดจะดุเขา แต่ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด จู่ๆ ถึงได้เปลี่ยนใจ
“ให้เขาตามไปด้วยเถอะ”
พวกเขาทั้งสามเดินใต้แสงจันทร์ แต่ต่างคนต่างมีความคิดของตัวเอง ไม่มีใครพูดอะไร
ในอีกด้านหนึ่ง เฮ่อยวนได้มาถึงยอดเขาบรรจบสวรรค์แล้ว
เวลาเดียวกัน มีร่างสองร่างที่กำลังเผชิญหน้ากันอยู่ด้านบน
“เจ้าเป็นใครกันแน่ ทำไมเจ้าถึงเจาะจงโจมตีข้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า”
ทันทีที่เหมยชิงเกอออกมาจากน้ำพุวิญญาณ ก็ได้ยินเสียงเสื้อผ้าแกรกกราก
แสงดาวในตัวถูกระบายออกมาหมด อาการบาดเจ็บภายในก็ได้รับการรักษาพอสมควรแล้ว เหมยชิงเกอไพล่มือข้างหนึ่งยืนอยู่บนยอดเขา เต็มไปด้วยพลังอำนาจเหลือล้น
คนชุดดำยิ้มเยาะและพูดว่า “ในเมื่อเจ้ารู้ว่าข้ามาจากอิ๋นเฉิง รู้ทั้งรู้ยังจะถามอีก เหมยชิงเกอ เจ้าไม่ยอมแพ้จริงๆ”
“งั้นขอข้าดูโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าหน่อย”
จู่ๆ เหมยชิงเกอก็ลงมือ จะคว้าผ้าปิดหน้าสีดำบนใบหน้าของคนชุดดำ
“ตายซะ!”
คนชุดดำตะโกนอย่างเย็นชา ซัดฝ่ามือไปทางเหมยชิงเกอ
เฮ่อยวนไม่ต้องการพูดไร้สาระกับนาง ในฉับพลันนั้นเองเขาได้ซัดฝ่ามือออกไปหลายครั้ง
ไม่ว่าฉีอวิ๋นจื่อจะดำรงตำแหน่งใดในตำหนักเทพ ตราบใดที่นางกล้าลงมือกับเหมยชิงเกอ นางก็สมควรตายแล้ว
เหมยชิงเกอยิ่งรู้สึกซับซ้อนมากขึ้นไปอีก
“ฉีอวิ๋นจื่อ ทำไมเจ้าถึงรู้วิทยายุทธ์ของอิ๋นเฉิง แล้วทำไมถึงอยากลอบทำร้ายข้า”
ฉีอวิ๋นจื่อยกฝ่ามือขึ้นต้าน ริมฝีปากก็ยังคงเอ่ยขึ้นว่า
“แน่นอนว่าเป็นเฮ่อยวนที่สอนข้า ไม่เพียงเท่านั้น ข้ายังตั้งท้องเลือดเนื้อของเขา เฮ่อยวน หรือท่านเลือดเย็นถึงเพียงนี้จริงๆ จนกระทั่งลูกของตัวเองยังไม่ต้องการด้วยซ้ำ?”
เฮ่อยวนโกรธจัด
“หุบปาก ข้าจะใกล้ชิดผู้หญิงอย่างเจ้าได้อย่างไร”
เสียงของฉีอวิ๋นจื่อแหลมคมมากขึ้น
“เฮ่อยวน อย่าพูดยังกับว่าตัวเองบริสุทธิ์ไร้มลทินขนาดนั้น ในเมื่อท่านสามารถใกล้ชิดกับกงซวินอวิ๋นเฟิ่งได้ แล้วทำไมท่านจะใกล้ชิดคนอื่นไม่ได้”
เฮ่อยวนฉีโกรธจนใบหน้าเขียวขุ่น มีแสงสีขาวเรืองรองออกมา ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็ซัดไปยังไหล่ขวาของฉีอวิ๋นจื่อ
ฉีอวิ๋นจื่อยิ้มเยาะและพูดว่า “นี่คิดจะฆ่าคนปิดปากงั้นหรือ เฮ่อยวน หรือท่านอยากเห็นข้าตายแบบหนึ่งศพสองชีวิต?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...