เสียงของเฮ่อยวนเฉยชา
“ไม่ใช่”
ทันใดนั้นฉีอวิ๋นจื่อก็เสียสติ กรีดร้องอย่างเจ็บปวดรวดร้าว “เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร หลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ถึงวันระลึกถึงเหมยชิงเกอ ข้าจะทำให้เจ้ามัวเมา ทำไมจะไม่ใช่เจ้า ต้องเป็นเจ้าที่กำลังโกหกข้า เจ้ากลัวว่าเหมยชิงเกอจะตำหนิเจ้า เฮ่อยวน อินชิงเสวียนเป็นลูกสาวของเจ้า แล้วเลือดเนื้อที่อยู่ในท้องของข้า ไม่ใช่ลูกของเจ้างั้นหรือ”
เสียงของเฮ่อยวนเย็นชา พูดจาไม่เหลือช่องว่างให้แก้ตัวเลย
“ต้องโทษที่เจ้าไม่ได้จุดตะเกียงให้มองเห็นชัดเจน การได้ร่วมเพศกับหญิงชั่วเช่นเจ้า ถือเป็นความอัปยศของศิษย์น้องข้าจริงๆ”
เขาเหลือบมองอย่างเย็นชา แล้วถามอีกครั้งว่า “ฉีอวิ๋นจื่อ ถ้าฉลาดก็บอกข้ามา ใครกันแน่เป็นคนบงการให้เจ้าฝึกวิชาต้องห้ามอิ๋นเฉิง ใช่คนเลี้ยงม้าคนนี้หรือเปล่า”
พูดเพียงไม่กี่คำ กระดูกขาของฉีอวิ๋นจื่อก็แทงทะลุออกมา ร่างกายบิดเบี้ยวผิดรูป เมื่อคิดว่าตอนนี้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ในแววตาก็ฉายแววเสียใจภายหลัง
ถ้านางไม่รู้สึกอิจฉา คงไม่มุ่งเป้าไปที่เหมยชิงเกอ ศิษย์พี่ใหญ่ใจดีกับนางมาโดยตลอด ตอนที่นางขึ้นเขามาครั้งแรกนางยังเด็กมาก ไม่กล้าอาศัยอยู่ในห้องหินลำพัง เป็นเหมยชิงเกอที่ขอร้องเจ้าตำหนักขิน ขอมาอยู่เป็นเพื่อนนางในห้อง
เกิดน้ำท่วมในบ้านเกิดของนาง พ่อแม่เสียชีวิตขณะพยายามช่วยชีวิตนาง หลังจากขึ้นไปบนภูเขา นางฝันร้ายตลอด ฝันว่าใบหน้าของพ่อแม่เต็มไปด้วยเลือด นางมักจะหวาดกลัวและร้องไห้ทุกครั้งที่นางตื่น ซึ่งทุกครั้งเหมยชิงเกอกอดนางไว้และโยกตัวเบาๆ
ในเวลานั้น นางชอบศิษย์พี่ใหญ่คนโตมาก และนางต้องการเป็นคนฉลาดและสุดยอดเหมือนศิษย์พี่ใหญ่
แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรความคิดนี้เปลี่ยนไปอย่างช้าๆ
นับตั้งแต่เหมยชิงเกอกลายเป็นธิดาเทพ นางมักจะรู้สึกเสมอว่าอาจารย์ชื่นชอบศิษย์พี่ใหญ่มากกว่า นางเริ่มรู้สึกไม่ยุติธรรม แม้ว่าเฟิงอวิ๋นลี่จะพยายามโน้มน้าวนางหลายครั้ง แต่นางก็ยังไม่เชื่อ
ต่อมาทั้งสองคนได้เจอเฮ่อยวนที่ตีนเขา เฮ่อยวนในตอนนั้นสูงตระหง่านดั่งต้นหยกต้านลมรูปลักษณ์สง่างาม ซึ่งดูดียิ่งกว่าเหล่าบรรดาศิษย์พี่ศิษย์น้องบนภูเขามาก
ฉีอวิ๋นจื่อไม่เคยเห็นชายหน้าตาดีเช่นนี้มาก่อน ทำให้ตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่เฮ่อยวนกัลบชอบเหมย ชิงเกอศิษย์พี่ใหญ่มากกว่า
การค้นพบนี้ทำให้จิตใจของฉีอวิ๋นจื่อสูญเสียความสมดุลอย่างสมบูรณ์
ความอิจฉาริษยาที่นางมีต่อเหมยชิงเกอยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้น ถึงขั้นสมรู้ร่วมคิดกับผู้อาวุโสหันผู้มีเจตนาชั่วร้าย วางแผนร่วมกันกับเขาเพื่อกักขังเหมยชิงเกอไว้ที่ผาเฟิงเริ่น
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉีอวิ๋นจื่อก็ยิ้มอย่างขมขื่น ในปากเต็มไปด้วยเลือด
นางเคยได้ยินกับหูตัวเองว่าอาจารย์พูดว่า ศิษย์พี่ใหญ่จะแต่งเข้าอิ๋นเฉิงไม่ช้าก็เร็ว เขาจะฝึกฝนให้ฉีอวิ๋นจื่อและฮั่วเทียนเฉิงเป็นเจ้าตำหนักคนต่อไป แต่ฉีอวิ๋นจื่อไม่เชื่อ
อาจารย์ที่นางเคารพรักบูชาในวันวานได้กลายเป็นปีศาจร้าย คำพูดทั้งหมดเป็นคำหลอกลวงที่มีเจตนาร้าย เขาปลื้มเหมยชิงเกอมาก แล้วจะส่งต่อตำแหน่งเจ้าตำหนักให้นางได้อย่างไร ฉีอวิ๋นจื่อไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกขอบคุณ กลับมีความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ด้วยวรยุทธ์ของเจ้าตำหนักเทพ แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บภายใน แต่ก็ไม่มีทางที่เขาจะถูกผู้อาวุโสหันจับตัวไปได้ง่ายขนาดนี้ เป็นเพราะนางที่ตาบอดด้วยความหึงหวงและความเกลียดชัง ใช้ยาสมุนไพรทำให้อาจารย์สลบ และกักขังเขาไว้ใต้ดินอันมืดมิดเป็นเวลาหลายปี
และทุกสิ่งที่นางทำนั้น ก็เพื่อชายตรงหน้าที่ไม่เคยเห็นนางอยู่ในสายตาเลย
เมื่อคิดว่าคนที่ใกล้ชิดกับนางมาหลายปีกลับกลายเป็นคนอื่น ฉีอวิ๋นจื่ออดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา นางเหยียดนิ้วชี้ที่เหลือแต่กระดูกสีขาว ขูดพื้นอย่างแรง
คนเลี้ยงม้าก้าวไปข้างหน้า เงยหน้าขึ้นมองเฮ่อยวน แล้วพูดด้วยสีหน้าราบเรียบว่า “เจ้าเมืองอย่าโทษฮูหยินเลย เป็นข้าเองที่ขโมยกุญแจขณะที่ฮูหยินกำลังขี่ม้าอยู่ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะข้าทนมองท่านผู้สูงส่งไม่ได้ ถึงจงใจพาฉีอวิ๋นจื่อเข้ามาในอิ๋นเฉิง”
เฮ่อยวนยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ดีมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าจะให้คำอธิบายแก่ตำหนักเทพ ต่อหน้าสหายชาวยุทธ์ทุกคนในยุทธภพ ฉางเฟิง ลงมือเถอะ”
เฮ่อฉางเฟิงชักกระบี่ยาวออกมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจงเกลียดจงชังว่า “เหล่าหลิว ครอบครัวของเราดีต่อเจ้ามาก ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะน่ารังเกียจขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ใส่ร้ายแม่ของข้าเท่านั้น แต่ยังพาหมาป่าเข้าบ้าน หยามเกียรติชื่อเสียงของท่านพ่อข้า เจ้าสมควรตายจริงๆ!”
เขาค่อยๆ ยกกระบี่ขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อิ๋นเฉิงไม่เคยมีแบบอย่างในการฆ่ากันมาก่อน เจ้าคือคนอิ๋นเฉิงคนแรกที่ตายในมือของข้า หวังว่าศิษย์อิ๋นเฉิงทุกคนจะถือว่าสิ่งนี้เป็นคำเตือน หากใครกล้าทรยศหักหลัง มันจะมีจุดจบเช่นนี้”
คมกระบี่วาววับ กำลังจะฟันที่คอของคนเลี้ยงม้า
นิ้วของกงซวินอวิ๋นเฟิ่งสั่นเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ากระบี่ยาวกำลังจะจรดลงบนคอของคนเลี้ยงม้า นางก็ลงมือทันที และตบข้อมือของเฮ่อฉางเฟิงไปอีกด้าน
“ท่านพี่ หรือท่านจะเชื่อนังแพศยาฉีอวิ๋นจื่อ แต่ไม่ยอมเชื่อคนกันเองอย่างนั้นหรือ”
แววตาของเฮ่อยวนดูประชดประชันมากขึ้น
“ถูกต้อง หากไม่ใช่เพราะข้าเชื่อเจ้า ชิงเกอก็คงไม่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมเช่นนี้ขึ้น คนที่เจ้าควรเรียกว่าท่านพี่ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเขา!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ทุกคนก็ตกตะลึง เฮ่อฉางเฟิงข้อมือสั่นเทา กระบี่หลุดเลื่อนจากมือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...