สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1300

ชาวยุทธ์เหล่านี้ ไม่ว่าจะเลือกใครมาคนหนึ่งก็ล้วนมีแต่ผู้ที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ทั้งหมดกลับหงายหลัง ล้มลงกับพื้นโดยที่เสียภาพลักษณ์ไปหมด

ลิ่นเซียวกระโดดขึ้นจากพื้นก่อน ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ”

เขาโคจรกำลังภายในร่างกายทั้งหมดไปที่ฝ่ามือขวา ลมแรงที่พัดโหมอยู่รอบตัวนั้น กลายเป็นของแข็งขึ้นมาในทันที เกิดเป็นกระบี่ลมนับสิบเล่มที่ล้อมรอบแขนของเขา ราวกับรอคำสั่งจากเจ้าของ

เย่จิ่งอวี้เลิกคิ้ว สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์กระบี่ของใต้หล้า กำลังภายในของผู้อาวุโสลิ่นนั้นแข็งแกร่งมาก ที่เขาพ่ายแพ้ในเมืองหลวงวันนั้น ก็ไม่นับว่าเสียหน้ามากนัก

การดำรงอยู่ของพลังที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ต้องพูดถึงองครักษ์ในวังเลย แม้ว่าเจ้าสำนักเซี่ยวจะมาด้วยตัวเอง แต่ก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

ในบรรดาชาวยุทธ์ที่เขาเคยเจอมา วรยุทธ์ของเฮ่อยวนเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้มากที่สุด จนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ ส่วนเจ้าตำหนักเหมยได้รับการเลื่อนขั้นจากน้ำพุวิญญาณ หากต่อสู้อย่างสุดความสามารถ ก็เกรงว่าจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลิ่นเซียว เจ้าสำนักเซี่ยวกับเจ้าตำหนักเหมยคงมีพลังสูสีกัน จากนั้นก็เป็นเฮ่ออวิ๋นทงเจ้าสำนักกระบี่สังหาร และผู้อาวุโสสวีแห่งสำนักเทียนหยวน...

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เขาก็เหลือบมองหญิงสาวที่กำลังเข้าไปช่วยประคองเหมยชิงเกอ

หลังจากที่สั่งสมประสบการณ์ในยุทธภพไม่กี่เดือน สาวน้อยของเขาก็ก้าวหน้าไปมากเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่านางก้าวหน้าไปถึงขั้นใดแล้ว

นอกจากนี้ยังมีอีกคนหนึ่ง ที่เย่จิ่งอวี้ไม่สามารถมองเห็นความสามารถของเขาได้อย่างทะลุปรุโปร่ง และนั่นคือนักพรตเต๋าเทียนชิง...

จู่ๆ เย่จิ่งหลานก็เข้ามาใกล้ด้วยท่าทางซุกซน

“พี่ใหญ่ หากเทียบระหว่างท่านกับพวกเขา เป็นอย่างไรบ้าง”

จู่ๆ ความคิดของเย่จิ่งอวี้ก็หยุดลง เขายิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้อาวุโสแนวหน้าของยุทธจักร ข้าจะไปเทียบกับพวกเขาได้อย่างไร”

“ท่านอย่าถ่อมตัวนักเลย พี่ใหญ่มาคราวนี้ท่านมีการเปลี่ยนแปลงมาก คิดว่าคงได้อะไรมามาก กำลังภายในของท่านก็แตกต่างจากพวกเขาเช่นกัน เหมือนจะไร้ที่สิ้นสุด ว่าอย่างไร อยากไปลองดูไหม”

เย่จิ่งหลานกล่าวขึ้น พลางมองขึ้นลงอย่างพิจารณา

ตั้งแต่วินาทีแรกที่เขาได้พบกับเย่จิ่งอวี้อีกครั้ง เขาก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

หากจะบอกว่าเมื่อก่อนเย่จิ่งอวี้เป็นเหมือนกระบี่ไม่มีฝัก ตอนนี้เขาเป็นเหมือนกระบี่โบราณที่ดูเรียบง่าย แต่ซ่อนพลังอันยิ่งใหญ่เอาไว้

ไร้คมไร้ความแวววาว มีรัศมีที่เก็บงำไว้อย่างลึกล้ำ ไม่อาจหยั่งรู้ได้อย่างแท้จริง

เย่จิ่งอวี้ยกมือขึ้นเขกศีรษะเขาเบาๆ

“ขนาดคนมากมายยังทำไม่ได้ หรือเจ้าอยากเห็นพี่ใหญ่อับอายขายหน้าทุกคน”

เย่จิ่งหลานคลำศีรษะป้อย แล้วพูดว่า “อาจจะประสบความสำเร็จอย่างกะทันหันก็ได้”

“คุณชายน้อย เจ้าก็เป็นยอดฝีมือเหมือนกันหรือ”

เฮ่อยวนมองไปที่หลิวซือจวิน แต่ไม่รู้สึกถึงกำลังภายในที่แข็งแกร่งมากนัก

หลิวซือจวินดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับการถูกคนเหล่านี้มอง ส่ายหัวด้วยความเขินอาย

“ข้ารู้แค่วิชาแพทย์เท่านั้น”

“เจ้าไม่รู้วรยุทธ์ แต่กลับแทงเข็มเข้าไปได้? “เฮ่อยวนอดไม่ได้ที่จะมองดูอีกหลายครั้ง

ผมสีขาวของลิ่นเซียวปลิวไปตามสายลม สีหน้าไม่ยอมแพ้

เขาดึงกระบี่ยาวออกมาจากตัวของอาคันตุกะคนหนึ่ง พยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังไม่สามารถขยับมันได้เลย

ใบหน้าแดงก่ำ เขาละทิ้งกระบี่แล้วเดินจากไปดื้อๆ เสียอย่างนั้น

“อาจารย์”

อินชิงเสวียนตะโกน แต่ลิ่นเซียวหายตัวไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์