เมื่อเห็นว่านักพรตเทียนจีไม่ได้เป็นศัตรู เย่จิ่งอวี้จึงคว่ำฝ่ามือลง ถ้วยชาก็ตกลงไปบนโต๊ะหินอย่างเงียบๆ
“ในเมื่อเจ้าต้องการเล่าเรื่อง เช่นนั้นจงเล่าให้ครบถ้วนและชัดเจนที่สุด เมื่อเจ้ารู้ว่าข้าคือฮ่องเต้ราชวงศ์โจวก็ควรจะเข้าใจดีว่า สิ่งที่คนในราชวงศ์ได้รับการอบรมสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กคืออะไร ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าจะหลอกลวงด้วยคำเพียงไม่กี่คำได้”
นักพรตเทียนจียกเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งลง รินชาอีกถ้วยให้เย่จิ่งอวี้ แล้วถอนหายใจยาว
“ใช่ สิ่งที่ฮ่องเต้เก่งกาจที่สุดคือเชี่ยวชาญในอำนาจและจิตใจของผู้คน ตลอดจนการควบคุมสถานการณ์โดยรวม ตลอดหลายพันปีก็เป็นเช่นนี้ไม่มีข้อยกเว้น...
...แม้ว่าฮ่องเต้จะอายุไม่มาก แต่กลับสามารถควบคุมโรคระบาด บรรเทาความอดอยาก สร้างสำนักศึกษาหลวงและโรงเรียนสอนการต่อสู้ ทำให้ราษฎรนับหมื่นมีบ้านให้พักพิง ยังทำให้เด็กยากไร้มีอนาคต เห็นได้ชัดว่าพิเศษอย่างยิ่ง”
เย่จิ่งอวี้หยิบถ้วยชาขึ้นมา จิบแล้วพูดเบาๆ ว่า “เจ้าคิดผิดแล้ว ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ผลงานของข้า แต่เป็นผลงานของฮองเฮาต้าโจวเพียงผู้เดียว ที่มาที่นี่วันนี้ มิได้มาหารือเกี่ยวกับการปกครองบ้านเมือง ข้าต้องการถาม สาเหตุของการตายของท่านตาข้า”
“ใช่ ข้าเลอะเลือนไป เช่นนั้นก็เริ่มจากเรื่องนี้เถอะ”
เขาจัดแจงเสื้อคลุมให้เรียบร้อย ยืดตัวตรงโดยไม่รู้ตัว จากนั้นเขาก็มองไปในทิศทางของเมืองหลวง พูดด้วยน้ำเสียงเนิบช้าว่า “เมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่นั่นเคยมีแคว้นหนึ่ง เรียกว่าแคว้นเฟยเหยา ถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเมืองแห่งนภา ราษฎรที่นั่นให้ความสำคัญกับความสงบสุข ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาหลายชั่วอายุคน ยกเว้นราชาและแม่ทัพพิทักษ์แคว้นไม่กี่คนแล้ว คนอื่นที่เหลือก็ไม่มีใครรู้วรยุทธ์เลย...”
เย่จิ่งอวี้เลิกคิ้ว แคว้นเฟยเหยา เขาเคยได้ยินมาบ้าง แต่ก็เพียงแค่ได้ยินมาเท่านั้น
ในขณะที่กำลังใคร่ครวญอยู่นั้น ก็ได้ยินผู้เฒ่าเทียนจีพูดต่อไปว่า “ท่านราชาปราดเปรื่องยิ่งนัก เป็นที่รักของผู้คน ทุกคนคิดว่าแคว้นเฟยเหยาจะถูกสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและจะดำเนินต่อไป ลุกโชนดั่งไฟตลอดกาล คิดไม่ถึงว่าเมื่อถึงรุ่นที่ห้าของแคว้นเฟยเหยา จู่ๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง พวกเขาเหยียบย่างเข้ามาในเขตแดน ชี้กระบี่ไปที่เมืองหลวง จัดการเหล่านายพลจนพ่ายแพ้ย่อยยับ เพื่อปกป้องราษฎร ท่านราชาออกรบด้วยตัวเอง...”
เมื่อเห็นว่าเขาต้องการจะพูดมากกว่านี้ เย่จิ่งอวี้ก็ขัดจังหวะอย่างเย็นชา
“ฝ่าบาทฉลาดปราดเปรื่องจริงๆ”
“แล้วอย่างไรเล่า ตั้งแต่โบราณมา ผู้ชนะเป็นราชา ผู้แพ้เป็นคนพ่ายแพ้ คิดจริงๆ หรือว่ากองทัพที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด จะสามารถฟื้นฟูแคว้นได้”
เสียงของเย่จิ่งอวี้สงบ สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความตระหนก
หากสิ่งนี้เป็นจริง ผู้เฒ่าเทียนจีคนนี้ก็มีชีวิตอยู่มาหลายพันปีแล้วน่ะสิ แล้วคนเราจะมีชีวิตยืนยาวถึงเพียงนั้นเลยหรือ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเกือบจะเข้าใกล้คำว่าเซียนไปแล้ว หากทำได้จริง มิเท่ากับว่าแค่เพียงพลิกฝ่ามือ ก็สามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้แล้วน่ะสิ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...