สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1330

ขณะที่หญิงสาวกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์ เย่จิ่งอวี้และอินชิงเสวียนก็ได้ตามไปถึงเรือนเล็กที่ทรุดโทรมแห่งหนึ่งแล้ว

ไป๋เสวี่ยกระโดดลงจากกำแพงบ้าน บุกเข้าไปทางหน้าต่าง สองสามีภรรยาตามไปอย่างใกล้ชิด แต่เห็นเพียงถ้วยชาเท่านั้น

ทั้งสองคนแยกย้ายกันไปตรวจค้น แต่ไม่พบผู้ต้องสงสัย

“ดูท่าทาง เขาเพิ่งจากไปไม่นานนี้”

เย่จิ่งอวี้หยิบถ้วยชาขึ้นมา พบว่าน้ำยังอุ่นอยู่

อินชิงเสวียนพยักหน้าและกล่าวว่า “ในเมื่อไป๋เสวี่ยเคยได้ดมกลิ่นของนักพรตเทียนจีแล้ว ไม่มีทางผิดพลาดแน่นอน เพียงว่าเขาถนัดในเรื่องค่ายกลและกลไก อาอวี้ระวังตัวด้วย”

“อื้ม เราไปหากันต่อเถอะ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ฆาตกร แต่ก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับฆาตกรเป็นแน่”

ทั้งสองพาไป๋เสวี่ยและเจ้าขาวออกจากบ้าน ทันทีที่ปิดประตู อินชิงเสวียนก็เห็นลูกศรที่วาดไว้บนประตู ชี้ไปทางทิศเหนือ

“อาอวี้ ดูสิ”

เย่จิ่งอวี้อดไม่ได้ที่จะชื่นชมความรอบคอบของอินชิงเสวียน

“บางทีเขาอาจจะทิ้งร่องรอยไว้ให้ผู้สมรู้ร่วมคิดของเขา เสวียนเอ๋อร์กลับไปหาจิ่งหลานก่อน ข้าจะไปดูหน่อย”

อินชิงเสวียนส่ายศีรษะทันที

“ไม่ได้ ถ้าจะไปก็ไปด้วยกัน”

แม้ว่าอินชิงเสวียนไม่เคยมีอาการแพ้ครรภ์ที่รุนแรงใดๆ แต่เย่จิ่งอวี้ก็ไม่อยากให้นางเดินทางไปไหนมาไหนมากนัก ในขณะที่กำลังจะห้ามปรามนาง อินชิงเสวียนก็ได้ใช้วิชาตัวเบามุ่งหน้าไปทางเหนือแล้ว

เป็นเด็กสาวที่หัวแข็งจริงๆ!

เย่จิ่งอวี้ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ และรีบไล่ตามนางไป

ระหว่างทาง อินชิงเสวียนเห็นลูกศรที่ซ่อนอยู่อย่างมิดชิดอีกหลายจุด ทั้งสองคนก็ไปตามทิศทางนั้น และตามไปจนออกนอกเมือง

ข้างหน้าเป็นป่าเมเปิล ตอนนี้ใกล้จะปลายฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ใบเมเปิลมีกลายเป็นสีแดงคัดกับสีเขียว ซึ่งดูงดงามมาก

สายลมพัดผ่าน กลิ่นหอมของชาโชยกรุ่นจมูก เย่จิ่งอวี้สูดดม พบว่ากลิ่นนั้นเกือบจะเหมือนกับกลิ่นชาในบ้านโกโรโกโสเมื่อครู่นี้

เย่จิ่งอวี้ได้รับน้ำพุวิญญาณมาเป็นเวลานาน ย่อมไม่กลัวพิษ ทั้งยังมีความเย่อหยิ่งดั่งชายหนุ่ม ยกเสื้อคลุมขึ้นและนั่งลง

“เช่นนั้นเคารพมิสู้เชื่อฟัง”

ชายชราพยักหน้าชื่นชม ยื่นชาให้เขาหนึ่งถ้วย เย่จิ่งอวี้รับถว้ายชามาจิบเบาๆ

“ชาดี”

“เป็นชาดีจริงๆ นี่คือสิ่งที่สหายที่ดีที่สุดของข้าคัดเลือกเองกับมือ มิตรภาพนี้เพียงอย่างเดียว มีค่ามากกว่าชานี้เหนือทองพันชั่ง”

ดวงตาของชายชราเศร้าหมอง ดวงตาที่ขุ่นมัวเต็มไปด้วยความละอายใจ

เย่จิ่งอวี้หรี่ตาลง แสงเย็นเยียบเบ่งบานในใจ ตบฝ่ามือลงบนโต๊ะ ถ้วยชาก็ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า และพุ่งตรงไปที่คอของชายชรา

“ดูเหมือนข้าจะตามมาถูกคนแล้ว ในเมื่อเจ้าเรียกตาของข้าว่าสหาย เหตุใดถึงทำร้ายจนเขาต้องมาฝังศพในต่างแดน ฝังกระดูกไว้ในขุนเขาเขียวขจีด้วยเล่า?”

ชายชราไม่หลบเลี่ยงแต่ถามกลับว่า “ฝ่าบาท พระองค์อยากฟังนิทานสักเรื่องจากกระหม่อมหรือไม่ ใช้เวลาไม่นาน เพียงแค่ดื่มชาถ้วยเดียวเท่านั้น หลังจากดื่มชาเสร็จแล้ว ข้าจะเดินทางสู่ยมโลก ไปอยู่เป็นเพื่อนกับสหายของข้าเอง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์