“ถ้าอย่างนั้นก็ลองดู”
ข้อมือของเย่จิ่งอวี้ขยับ เขาโยนนักพรตเทียนจีไปข้างหลัง กำลังภายในที่สม่ำเสมอแพร่กระจายไปทั่วร่างกายในทันที
แรงกดดันที่มองไม่เห็นออกมาจากร่างสูงนั้น ทั้งโลกดูเหมือนจะมืดลงชั่วขณะหนึ่ง
ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขวาขึ้น มีดเงาก็ถูกยับยั้งในทันใด ยากจะฟาดฟันลงมาได้อีก
เงาคำราม “มีความสามารถดีทีเดียว”
โบกแขนเสื้อ แล้วออกแรงกดดันอีกครั้ง
เย่จิ่งอวี้ยังคงดูสงบนิ่ง ไม่ขยับเขยื้อนดุจขุนเขา
“หากเจ้ามีความสามารถแค่นี้ อย่าว่าแต่ฟื้นฟูบ้านเมืองเลย ข้ารับประกันได้เลย แค่ออกจากเทือกเขาเชื่อมเมฆาเจ้าก็ทำไม่ได้”
“บังอาจ!”
เงาโน้มลงมา หมอกสีดำก็กลายเป็นหอกแหลมคม ชี้ตรงไปที่หัวใจของเย่จิ่งอวี้
“ถอยไป!”
เย่จิ่งอวี้ตะโกนด้วยเสียงทุ้ม ผลักไปข้างหน้าด้วยฝ่ามือขวา ในขณะนี้พลังงานแห่งฟ้าดินกลายเป็นรูปธรรม ราวกับโล่ที่ไม่อาจทำลายได้ และกดดันเข้าไปหาเงา
เพียงชั่วพริบตา หอกยาวที่ทำจากหมอกสีดำก็สลายไปเป็นควันและหายไป ดูเหมือนว่าเงาดำจะถูกกระแทกอย่างแรง ทำให้ผงะถอยหลังไปหลายก้าว
เย่จิ่งอวี้ก้าวขึ้นไปบนฟ้า เสื้อผ้าพลิ้วไหว ยืนอยู่ในความว่างเปล่าราวกับเทพเซียน เรียวตายาวเป็นประกายเย็นชา อันแสดงถึงความเมตตาแห่งจอมยุทธ์ และความสง่างามของกษัตริย์
“สำหรับแคว้นเฟยเหยา ข้าก็รู้สึกเห็นใจ แต่ไม่เห็นด้วยที่เจ้าจะยกทัพไปที่ราชวงศ์โจวเจ้าต้องการฟื้นฟูแคว้น ข้าก็ต้องการปกป้องราษฎรเช่นกัน เรามีแต่ต้องพิสูจน์กันด้วยฝีมือเท่านั้น!”
เขาค่อยๆ ยกมือขึ้น วาดครึ่งวงกลมขึ้นไปในอากาศ พลังแห่งฟ้าดินนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาเขาอย่างบ้าคลั่ง หลักการแห่งเต๋าในร่างกายของเขาแทบจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
นักพรตเทียนจีเบิกตาโพลงด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่มาหลายพันปี แต่ไม่เคยเห็นวิทยายุทธ์แปลกๆ เช่นนี้มาก่อน
ดูเหมือนว่าร่างของเย่จิ่งอวี้จะถูกล้อมรอบด้วยเส้นไหมจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถักทอด้วยกำลังภายใน มันไหลช้าๆ ไปตามร่างกายของเขา โดยมีคาถาเก้าอักษรปรากฏให้เห็นจางๆ
นักพรตเทียนจีอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น เข่าอ่อนลง และเทรุดตัวลงคุกเข่า
“อาอวี้!”
นางรีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ด้วยกลัวว่าเย่จิ่งอวี้จะถูกควบคุมโดยอะไรอีกครั้ง ดั่งคำที่ว่า เคยถูกงูกัดทีเดียว กลัวเชือกที่ผูกบ่อตลอดชีวิต
นางยังรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก นางรู้ว่าระดับฌานตบะของเย่จิ่งอวี้นั้นก้าวหน้ากว่าตอนที่อยู่เป่ยไห่มาก แต่ไม่คิดว่าเขาจะมีพลังสูงมากขนาดนี้
ในขณะนั้น ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถใช้พลังของฟ้าดินได้ สามารถพลิกฝ่ามือขึ้นก็กลายเป็นเมฆ พลิกฝ่ามือลงก็กลายเป็นฝนได้จริงๆ
“เสวียนเอ๋อร์!”
เย่จิ่งอวี้หยุดใช้กำลังภายใน แสดงรอยยิ้มอันอบอุ่น
ออกจากเมืองหลวงมาคราวนี้ แม้ว่าเขาจะลงมือหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้ระดับของพลังตัวเองมากนัก หลังจากผ่านการต่อสู้คราวนี้ ทำให้เขาได้รับความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
บนยอดเขาที่อยู่ไม่ไกลนัก นักพรตเทียนชิงลูบเคราขาวราวกับหิมะพลางพยักหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความชื่นชม
“เด็กคนนี้มีพรสวรรค์พิเศษ เป็นอัจฉริยะด้านวรยุทธ์มาแต่กำเนิดจริงๆ เขาที่อยู่ในฐานะฮ่องเต้ กลับไม่ใช้อำนาจกดดันคน แต่ยังสามารถดูแลสถานการณ์โดยรวมได้ ช่างหายากจริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...