ทันทีที่มาถึงประตูตำหนัก ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่น
มุมริมฝีปากของเย่จั้นก็ยกยิ้มขึ้น จากนั้นก็เร่งฝีเท้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ในห้องโถง เย่ไห่ถังกับหญิงสาวรูปโฉมสะคราญนางหนึ่ง กำลังเล่นเกมกันอย่างสนุกสนาน ทุกครั้งที่ผ่านด่าน ทั้งสองก็จะระเบิดเสียงหัวเราะสดใสราวกับระฆังเงิน
ตั้งแต่พี่สะใภ้ออกจากวัง เย่ไห่ถังก็ไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว โชคดีที่เสด็จอาพาคนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้กลับมา ซึ่งไม่เพียงแต่เล่าเรื่องต่างๆ ให้นางฟังเท่านั้น แต่ยังเต็มใจที่จะเล่นกับนางด้วย
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เย่ไห่ถังเดาว่าเสด็จอาคงมาที่นี่ จึงรีบซ่อนโทรศัพท์ไว้
เย่จั้นถือเสื้อคลุมเดินเข้ามา โบกมือให้ขันทีนางกำนัล ทั้งหมดต่างก็ถอยออกไปอย่างรู้สถานการณ์
เย่จั้นถอดหน้ากากออกด้วย เขาไม่ต้องการใช้รูปลักษณ์ของหลานชายปรากฏตัวต่อหน้าอินหลี
“ทำไมวันนี้ท่านถึงมีเวลาว่างได้”
โดยปกติตอนที่เย่จั้นมาหานาง เขาจะแอบย่องเข้ามากลางดึก เนื่องจากเย่จั้นปลอมตัวอยู่ การทำเช่นนี้จึงเหมือนกับการลอบพบชู้
หากคนในวังเห็นว่าฮ่องเต้รักผู้หญิงคนอื่นมากเช่นนี้ เมื่ออินชิงเสวียนกลับมา จะอธิบายอย่างไรเล่า
เดิมทีอินหลีต้องการกลับไปยังจวนตระกูลอิน ไม่นึกว่าพอกลับถึงเมืองหลวง ก็ถูกเย่จั้นควบคุมตัวไว้ในวังหลวงทันที ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมให้นางไป
หลังจากแยกจากกันไปนานหลายปี เย่จั้นมีความกลัวอย่างยิ่ง เขากลัวว่าหากตัวเองละสายตา อินหลีจะหายไปอีก แต่ก็ไม่สามารถให้อินหลีอาศัยอยู่ในวังได้ ดังนั้นเขาจึงมีความคิด ส่งนางไปอยู่กับหลานสาวของเขา
เย่ไห่ถังก็เป็นเด็กสาวที่ฉลาดเช่นกัน แค่มองแวบแรกก็สามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองได้ เมื่อรู้ว่าผู้หญิงที่เสด็จอาตามหามานาน ก็คือผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา
หากมีบุรุษสักคนในโลกนี้ที่ปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ แม้ว่าต้องตาย นางก็ตายตาหลับได้
ความคิดแวบขึ้นมาในใจ เย่ไห่ถังก็พูดติดตลก “ไม่ได้เจอกันแค่ไม่กี่ชั่วยาม เด็จอาก็คิดถึงอาสะใภ้อีกแล้วหรือ”
ใบหน้าของเย่จั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย ไอแห้งๆ “แม่หนูนี่อย่าพูดจาเหลวไหล ข้ามาที่นี่เพราะมีธุระจะคุยกับพวกเจ้า”
เย่จั้นตบมือของนางเบาๆ อย่างปลุกปลอบใจ และกล่าวปลอบโยนนาง “อาหลีไม่ต้องกังวล เบื้องหลังฮองเฮาได้รับการสนับสนุนจากสองสำนักหลัก นางต้องไม่เป็นอะไรแน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามีฮ่องเต้และจิ่งหลานอยู่ที่นั่นด้วย สิ่งที่ต้องกังวลตอนนี้ก็คือ มีคนจากแคว้นเฟยเหยาซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวงกี่คน”
อินหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “การจะสืบหาคนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยาก”
เย่จั้นเลิกคิ้วแล้วถามว่า “อาหลี่มีวิธีงั้นหรือ”
อินหลีกัดริมฝีปากล่างแล้วถามกลับว่า “นี่ถือเป็นการแทรกแซงหรือไม่”
เย่จั้นยิ้มและพูดว่า “แน่นอนว่าไม่นับ นี่เป็นเพียงข้อเสนอแนะเท่านั้น จะสามารถนำมาใช้ได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้ในรายละเอียด”
อินหลีจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นท่านก็ลองแบบนี้ดูสิ”
นางโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย กระซิบข้างหูของเย่จั้นสองสามคำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...