สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์ นิยาย บท 1381

คนเหล่านี้ดูดุร้าย ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ส่งเสียงคำรามราวกับสัตว์ป่า

อินชิงเสวียนพิจารณาดูแวบหนึ่ง แล้วก็คิดในใจว่า ดูเหมือนซอมบี้ในภาพยนตร์จริงๆ ราชาแคว้นเฟยเหยาสามารถทำให้คนเป็นขนาดนี้ได้ด้วยการล่อลวงเพียงไม่กี่คำ ช่างเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ

จากก้นบึ้งของหัวใจ นางไม่อยากให้คนผู้นี้เป็นลั่วสุ่ยชิง อินชิงเสวียนชื่นชมผู้หญิงคนนี้จริงๆ เมื่อคิดว่านางอาจจะอายุกว่าสหัสวรรษ อินชิงเสวียนก็อดไม่ได้ที่จะบ่นออกมา บางทีอาจเรียดชกนางว่าคุณย่าทวดน่าจะเหมาะกว่า

เย่จิ่งอวี้กล่าวว่า “ทางเรามีวิธีที่จะแก้ไขได้จริงๆ เชิญทุกท่านไปพักก่อน มอบศิษย์เหล่านี้ให้เราจัดการก็พอ”

ขณะที่พูด เฮ่อยวนก็ออกมาแล้วเช่นกัน

เมื่อรู้ว่าคนเหล่านี้ล้วนเป็นสหายชาวยุทธ์ในยุทธจักร จึงสั่งให้คนจัดงานเลี้ยงต้อนรับพวกเขาทันที

หลี่เซิ่งเทียนและคนอื่นๆ ได้รับการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นก็รู้สึกตกใจ นี่เป็นถึงสำนักสันโดษที่ดำรงอยู่ในอันดับต้นๆ ของยุทธจักร ในความเห็นของพวกเขา เจ้าเมืองแห่งอิ๋นเฉิงย่อมต้องเป็นคนที่ไม่เข้าใจความทุกข์ยากของชาวบ้านสามัญชน อยู่สูงส่งเหนือผู้อื่น แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่าจะเข้าถึงง่ายขนาดนี้

เมื่อเห็นบุคลิกที่โดดเด่นของเฮ่อยวนอีกครั้ง ก็รู้สึกชื่นชมในใจ ต่างพูดคุยกันอย่างถูกคอ

ส่วนเย่จิ่งอวี้ได้สั่งให้คนพาศิษย์ทั้งหลายของสำนักดาบเดือดไปยังสถานที่เก็บตัว และด้วยความช่วยเหลือทางเข็มเงินของหลิวซือจวิน พวกเขาก็ฟื้นคืนสติได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อรู้ว่าที่นี่คือเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง หลายคนประหลาดใจอย่างมาก สำหรับสิ่งที่ตัวเองกระทำทั้งหมดนั้น ต่างก็จำอะไรไม่ได้เลย

ครั้นหลี่เซิ่งเทียนเห็นว่าศิษย์พี่น้องในสำนักฟื้นคืนสติแล้ว เขาก็รู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง โค้งคำนับหลิวซือจวินและเย่จิ่งอวี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อรู้ว่าทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากแคว้นเฟยเหยา จึงแสดงความตั้งใจอย่างจริงใจทันที เต็มใจที่จะยืนหยัดร่วมกับสหายชาวยุทธจักร เพื่อปกป้องดินแดนแห่งต้าโจว

ในเวลาเดียวกัน อินสิงอวิ๋นก็เร่งรุดเดินทางกลับเมืองหลวง และตรงเข้าไปในวังหลวงโดยไม่หยุดพัก

เพื่อไม่ให้ฮ่องเต้หายไปนานเกินไป อันเป็นเหตุให้เหล่าขุนนางหวาดกลัว เย่จั้นจำต้องสวมหน้ากากของเย่จิ่งอวี้อีกครั้ง และนั่งบนบัลลังก์ในวังหลวง

หลังจากได้ยินว่าอินสิงอวิ๋นขอเข้าเฝ้า เขาก็ออกจากตำหนักรีบไปต้อนรับทันที

แม้ว่าอินสิงอวิ๋นจะรู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ก็ยังคงคุกเข่าลงโขกศีรษะทำความเคารพอย่างสูงสุด

“ท่านขุนนางอินตามสบาย ทุกคนออกไปให้หมด”

อินสิงอวิ๋นกล่าวว่า “คงจะเป็นเช่นนั้น นอกจากนี้ ในยุทธจักรก็ยังมีคนอีกจำนวนมาก เพื่อไม่ให้ขุนนางในราชสำนักถูกแทรกซึมจากลูกหลานชาวเฟยเหยา ฝ่าบาทจึงมีบัญชาให้กระหม่อมเร่งเดินทางกลับเมืองหลวง แจ้งเรื่องนี้ให้ท่านอ๋องทราบโดยเร็ว”

เย่จั้นเดินไปสองก้าว

“หากเป็นเช่นนี้จริง เรื่องนี้ถือว่าร้ายแรงมาก เพียงแต่ลูกหลานของแคว้นเฟยเหยาก็มีลักษณะเหมือนกับเรา แล้วจะแยกแยะความแตกต่างได้อย่างไร”

“นี่...”

อินสิงอวิ๋นเป็นผู้บัญชาการทหาร เรื่องยุ่งยากซับซ้อนเหล่านี้ เขาคิดไม่ออกจริงๆ

เย่จั้นไม่ต้องการทำให้เขาลำบากใจ เห็นว่าเขาเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย จึงให้เขากลับบ้านไปพักผ่อนก่อน หากมีเรื่องใดค่อยสื่อสารกันอีกครั้ง

หลังจากที่อินสิงอวิ๋น จากไปแล้วเย่จั้นใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงไปยังตำหนักที่พักของเย่ไห่ถัง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์