อินชิงเสวียนเงยหน้าขึ้นมอง
“ข้าจะมีความลับอะไร ถึงทำให้ชาวเฟยเหยากังวลในตัวข้า”
ชิงฮุยกล่าวว่า “ตัวอย่างเช่น เหตุใดกำลังภายในของเจ้าจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมิติวิเศษในตัวของเจ้า...แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก็สามารถรับรู้ได้ บางทีสิ่งเหล่านี้ อาจเพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อโชคชะตา แคว้นเฟยเหยารอมาเนิ่นนาน การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องประสบความสำเร็จ จะต้องไม่มีคำว่าล้มเหลว!”
อินชิงเสวียนเม้มริมฝีปากหัวเราะเบาๆ “ในเมื่อเจ้ารู้ว่ามันเป็นความลับ ข้าจะบอกเจ้าได้อย่างง่ายดายได้อย่างไร เว้นแต่เจ้าจะเต็มใจที่จะปล่อยข้าไป ข้าอาจจะเต็มใจที่จะพิจารณาก็ได้”
ชิงฮุยก็ยิ้มเช่นกัน
“ไม่เป็นไร ข้ามีความอดทนมากพอ”
เมื่อเห็นว่าการสนทนาไม่เป็นไปด้วยดี อินชิงเสวียนก็หลับตาอีกครั้ง ไม่พูดอะไรอีก นางแค่หวังว่าชิงฮุยจะจากไปโดยเร็ว
ราวสามสิบนาที บริเวณโดยรอบกลับมาสงบ แต่ใบหน้าของลั่วสุ่ยชิงกลับซีดเซียวมากขึ้น มีชั้นเหงื่อบางๆ ไหลออกมาบนหน้าผากของนาง
“ลั่วสุ่ยชิง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
อินชิงเสวียนถามด้วยเสียงแผ่วต่ำ
กำลังภายในของนางก็สูญเสียไปเช่นกัน แต่ไม่ได้รวดเร็วเช่นนั้น เพื่อไม่ให้ลั่วสุ่ยชิงและชิงฮุยสงสัย นางจึงแกล้งทำเป็นเหงื่อออกมาก
ลั่วสุ่ยชิงพยายามควบคุมกำลังภายในพูดว่า “ข้าขอโทษ ข้าไม่คิดว่าชิงฮุยจะติดตั้งค่ายกลเช่นนี้ เดิมทีอยากจะปล่อยเจ้าไป แต่กลับทำให้เจ้าพลอยเดือดร้อนไปด้วย”
“ไม่ต้องพูดเรื่องพวกนี้แล้ว เก็บแรงเจ้าไว้ก่อน มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นเราถึงจะมีโอกาสออกไปได้”
อินชิงเสวียนแกล้งทำเป็นหายใจไม่ออก มีเม็ดเหงื่อไหลลงมาตามพวงแก้ม
ลั่วสุ่ยชิงหันหน้ามอง ดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
“บางทีเจ้าอาจพูดถูก ตอนนี้ลูกหลานของเฟยเหยามีชีวิตที่มั่นคงแล้ว อาศัยเพียงความคิดเพ้อฝันเพียงอย่างเดียว ก็จะบังคับให้ฟื้นฟูแคว้นช่างน่าขันจริงๆ ถ้าข้าคิดได้แต่แรก คงไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์ในวันนี้”
อินชิงเสวียนมีสีหน้าพอใจ
“ถ้าเจ้าคิดได้เช่นนี้ ชาวต้าโจวจะรู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง หากต้องการกอบกู้ภัยพิบัตินี้ เกรงว่าเจ้าจะต้องออกมาเผชิญหน้าด้วยตนเอง ไม่กี่ชั่วยามที่แล้ว ชิงฮุยได้พาคนบุกไปโจมตีอิ๋นเฉิง แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตจริงๆ เหตุการณ์นี้ทำให้ข้ารู้สึกไม่สบายใจตลอด ต้องรีบออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้”
“เขาเคยเข้าไปในเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิงแล้ว?”
ลั่วสุ่ยชิงตกใจอีกครั้ง
อินชิงเสวียนพยักหน้า
“ข้าเคยเห็นค่ายกลที่คล้ายกันในตำราโบราณ บางทีอาจจะลองดูก็ได้ แม้มันอาจไม่ได้ผล แต่ก็ดีกว่าการนั่งนิ่งรอความตาย”
ลั่วสุ่ยชิงไม่มีทางเลือก
“ได้ เจ้าบอกมาสิ”
อินชิงเสวียนบอกลั่วสุ่ยชิงถึงวิธีทำลายค่ายกลที่ถูกจดจำไว้ในหัวทันที ในเวลาเดียวกัน อิ๋นเฉิงก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นกัน
เหล่าศิษย์ที่ถูกจี้สกัดจุดต่างทำลายจุดสกัดได้ สูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง หันฟันกระบี่ฟาดฟันใส่ทุกคน ทั้งเมืองก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายแล้ว
บนยอดเขาอีกแห่งหนึ่ง นักพรตเทียนชิงยังคงแก้ไขค่ายกลอยู่เช่นกัน เย่จิ่งหลานซึ่งกำลังตามหาอินชิงเสวียนกับหวังซุ่น ก็ถูกหยุดโดยนักพรตเต๋าน้อยที่หล่อเหลา
“ผู้มีคุณธรรมรีบร้อนเช่นนี้ ไม่ทราบว่าจะไปที่ใด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์
น่าจะต้องมีเล่มต่อรึเปล่าคะ เหมือนยังไม่จบเพราะตอนสุดท้ายเห็นว่ามีชนเผ่ามาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย...
สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่ลงจนจบค่ะ❤️❤️...
แย่จิ่งหลานเอ๋ย ในมิติไม่มียาสลบหรือ เอามาแทงคอตอนเผลออะไรอย่างนี้ให้หลับไป...
ขอบคุณแอดมากๆค่ะที่อัพจนจบ 🙏👍สนุกมากเรื่องนี้ happy ending สุขสันต์วันสงกรานต์ หยุดพักผ่อนได้แล้วนะแอด555 ยังไงเรื่องถัดไปขอเรื่องฮองเฮาสุดที่รักด้วยนะคะ...
รออัพต่อนะคะ ใกล้จะจบแล้ว...
เศร้าเลย แอดมินไม่มาต่อ พลีสสสส...
รอๆๆ กลับมาอัพต่อค่ะ น่าจะใกล้จบแล้ว...
ไม่อัพต่อแล้วเหรอคะ กำลังสนุกเลย อินชิงเสวียนถูกจับแบบนี้จะมีใครมาช่วยได้บ้าง...
ตัวโกงเก่งกว่าคนดีแถมคนชั่วร้ายก็มีอยู่มากมายทั้งนอกทั้งในแบบนี้จะสู้ศึกไหวเหรอ...
มันเป็นพวกไหนกันแน่นะที่บ่อนทำลายชาติ ที่สำคัญจะเป็นคุณชายใหญ่ตระกูลอินด้วยหรือเปล่า...